พระวรสารโดยนักบุญมาระโก
1 ผู้เขียน
เราพบชื่อยอห์นมาระโกหลายครั้งในหนังสือกิจการอัครสาวกและจดหมาย
มารดาของท่านมีบ้านที่เยรูซาเล็มซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มคริสตชนยุคแรก (กจ
12:12) ได้กลับใจรับศีลล้างบาปกับเปโตร ดังที่เปโตรเรียกท่านว่า “บุตรของข้าพเจ้า”
(1 ปต 5:13) เป็นลูกพี่ลูกน้องกับบานาบัสเพื่อนร่วมงานของเปาโล
เป็นที่ไว้ใจและเคยร่วมงานกับเปาโล และเป็นศิษย์รักของเปโตร
พระวรสารนักบุญมาระโก
เป็นพระวรสารที่สั้นที่สุดและเขียนขึ้นเป็นเล่มแรกที่กรุงโรมในปี ค.ศ.
64 โดยบันทึกเรื่องราวคำสอนของพระเยซูเจ้าที่ท่านได้ยินจากเปโตรโดยตรง
และบรรดาผู้ฟังที่กรุงโรมได้สนับสนุนให้ท่านเขียนขึ้น และนี่เป็นเหตุให้พระวรสารเล่มนี้บันทึกอย่างเห็นภาพชัดเจน
มาระโกมักอธิบายธรรมเนียมยิว ทำให้เรารู้ว่า มาระโกจงใจเขียนพระวรสารสำหรับคนที่มิใช่ยิวอ่าน
สิ่งที่มาระโกเขียนเป็นคำเทศน์สอนของเปโตร รวมถึงคำเทศน์สอนของบรรดาสาวกองค์อื่นๆ
ในพระวรสารของมาระโกจึงพบหลักฐานเฉพาะที่เปโตรได้เป็นพยาน
โดยการเริ่มต้นภารกิจของพระเยซูเจ้าด้วยการเรียกเปโตร (มก 1:16-18) ซึ่งเปโตรได้พบกับพระเยซูเจ้าเป็นครั้งแรก ทรงเปลี่ยนชื่อจาก “ซีมอน” เป็น
“เปโตร” และได้รับการเลือกให้เป็นพยานในเหตุการณ์พิเศษบางอย่าง เช่น
การรักษาบุตรสาวของไยรัส (มก 8:29), การจำแลงพระกาย (มก 9:2),
เหตุการณ์ในสวนเกทเสมนี (มก 14:33-37)
2 จุดประสงค์และคำสอนหลักของมาระโก
มาระโกเขียนพระวรสารที่กรุงโรม
โดยตั้งใจเรียบเรียงให้ชาวโรมันอ่าน ชาวโรมันในขณะนั้นเป็นทาสกันมาก
มาระโกเน้นเรื่องพระแมสสิยาห์ซึ่งปรากฏมาแต่ผู้คนไม่ยอมรับ
กลับประหารพระองค์ด้วยการตรึงกางเขนเสีย มาระโกต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า พระเยซูเจ้าทรงยอมรับทรมานและความตาย
เพื่อเป็นสินไถ่มนุษย์ให้พ้นจากอำนาจของบาป ซึ่งถูกใจชาวโรมันมาก
ทาสกลับใจแล้วมีความกล้าหาญอดทน อโหสิให้ทุกคนด้วยความบริสุทธิ์ใจ นายกลับใจแล้วปล่อยทาสให้เป็นไทหรือเลี้ยงดูต่อไปอย่างพี่น้อง
มาระโกเรียบเรียบเรื่องราวตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ค่อยละเอียดนัก โดยบันทึกแบบคร่าวๆ
ตั้งแต่เหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างถึงเหตุการณ์ที่ไม้กางเขนและการกลับเป็นขึ้นมาจากความตาย
ไม่ได้เน้นเสนอคำสอนของพระเยซูเจ้าเท่าใดนัก แต่เน้น การอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าและภารกิจที่ทรงกระทำในสถานที่ต่างๆ
อันทำให้เราแน่ใจว่า พระองค์คือพระบุตรของพระเจ้า
เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากเปโตร
เราจึงเห็นมาระโกอ้างคำพูดของเปโตรกับพระเยซูเจ้าบ่อยๆ เช่น คำสารภาพของเปโตร “พระองค์คือพระคริสตเจ้า”
(มก 8:29),
“พระอาจารย์ ที่นี่สบายน่าอยู่จริงๆ
เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิด…” (มก 9:5), “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” (มก 10:28), “แม้ว่าทุกคนจะทอดทิ้งพระองค์
ข้าพเจ้าก็จะไม่ทอดทิ้งพระองค์เลย” (มก 14:29) ดังที่นักบุญอีเรเนอุส กล่าวว่า “มาระโกเป็นศิษย์และผู้แปลคำคำสอนของเปโตร
และทำให้คำสอนของเปโตรตกทอดมาถึงเราในรูปของงานเขียน” ดังนั้น เมื่อเราอ่านพระวรสารของมาระโก
เท่ากับว่าเรากำลังฟังเปโตรเทศน์สอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น