กางเขนใหญ่วัดนาบัว
“ไม้กางเขนเป็นบันไดที่นำไปสู่สวรรค์” (The
cross is a ladder leads to heaven) ถือเป็นคำกล่าวที่ไม่ได้เกินความเป็นจริงแต่ประการใด
เพราะกางเขนถือเป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อคริสตชน เป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้าผ่านทางการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า
บุตรพระเจ้าที่ทรงรับเอากายเป็นมนุษย์และทรงเปลี่ยนเครื่องหมายแห่งความตายในสมัยนั้น
ให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร
ดังนั้น ทุกวัดจึงมีไม้กางเขน
เครื่องหมายแห่งความรอดนี้ เช่นเดียวกับวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
แต่กางเขนที่ใช้ในวัดนาบัวหลังปัจจุบัน เป็นกางเขนของวัดไม้ของคุณพ่อปีแอร์
โกลาส์ เมื่อชาวนาบัวบูรณะวัดไม้เพื่อเป็นอนุสรณ์ “สมโภช 125 ปีแห่งความเชื่อและการแพร่ธรรม” จึงจำเป็นต้องนำกางเขนดังกล่าวกลับไปไว้ที่เดิม
ประกอบกับกางเขนดังกล่าวมีขนาดเล็กเกินไปไม่สมดุลกับวัดหลังปัจจุบันที่ใหญ่มาก
และมักได้ยินเสียงจากบรรดาพระสงฆ์
โดยเฉพาะพระสงฆ์ลูกวัดว่าสมควรเปลี่ยนกางเขนวัดหลังปัจจุบันได้แล้ว
ความพยายามในการเปลี่ยนกางเขนของวัดหลังปัจจุบัน
มีมาก่อนการสมโภช 125 ปีแห่งความเชื่อและการแพร่ธรรม
เมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 2012 ที่ผ่านมา
แต่ไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จทันการเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าวได้
ทำได้เพียงตัวกางเขนติดไว้ที่หอระฆัง เนื่องจากราคาพระรูปพระเยซูเจ้าติดกางเขนนั้นแพงมาก
แต่ชาวนาบัวไม่ละความพยายามที่จะทำให้โครงการนี้สำเร็จ
ที่สุด
ความพยายามนี้ปรากฏเป็นจริงเมื่อคณะแสวงบุญจากวัดนักบุญยอห์นบัปติสตา เจ้าเจ็ด
ภายใต้การนำของคุณพ่อถนอมศักดิ์ เลื่อนประไพ เจ้าอาวาส ที่พาสัตบุรุษมาเยี่ยมวัดนาบัวเมื่อวันที่
11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 โดยรับปากจะช่วยให้โครงการนี้สำเร็จและได้ส่งเงินมาช่วยจัดซื้อพระรูปพระเยซูเจ้า
ทางวัดจึงสามารถดำเนินการจัดซื้อพระรูปพระเยซูเจ้า ขนาดสูง 2.20 เมตรในราคา 60,000.- บาท
พระรูปนี้เดินทางมาถึงนาบัวในตอนสายของวันวันศุกร์ที่ 6 เมษายน ค.ศ. 2012
ซึ่งเป็นวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์
และพี่น้องชาวนาบัวได้นมัสการพระรูปนี้ในภาคนมัสการกางเขนของวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์
พร้อมทั้งได้เป็นส่วนหนึ่งและสักขีพยานในพิธีเสกพระรูปนี้ก่อนจะเริ่มพิธีกรรมวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย
นับเป็นความลงตัวที่พระรูปนี้มาถูกเวลาและเป็นความชื่นชมยินดีของชาวนาบัวโดยทั่วกัน
เนื่องจากพระรูปนี้ใหญ่มาก
แต่หน้ากว้างของตัวกางเขนที่ทำไว้ยังมีขนาดเล็ก
ทางวัดจึงได้เสริมกางเขนเดิมที่ทำไว้ให้ใหญ่ขึ้น
โดยได้รับความช่วยเหลือจากชาวนาบัวที่เป็นช่างได้ลงมาช่วยกัน จนได้กางเขนขนาดใหญ่
สูง 670 เซนติเมตร ปีกกว้าง 400
เซนติเมตร หน้ากว้าง 49 เซนติเมตร
นับเป็นกางเขนที่ใหญ่ที่สุดในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง
เมื่องานทุกอย่างพร้อมจึงได้พร้อมใจกันปลดกางเขนเดิมลงมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน รุ่งขึ้นวันที่ 11 เมษายนได้ร่วมแรงร่วมใจกันอีกครั้งในการติดตั้งกางเขนใหญ่แทนที่
เมื่อติดตั้งเรียบร้อยจึงได้นำพระรูปของพระเยซูเจ้าขึ้นติดตั้ง
รวมถึงติดตั้งกางเขนเดิมที่วัดไม้ ใช้เวลาในการดำเนินงาน 3 วันเต็มจนงานทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์
ชาวนาบัวได้กางเขนใหญ่เด่นเป็นสง่าทั้งที่วัดไม้และวัดหลังปัจจุบัน
วันเสาร์ที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2012 ชาวนาบัวได้ร่วมในพิธีเสกกางเขนใหญ่ที่เสร็จสมบูรณ์ ก่อนพิธีบูชาขอบพระคุณโอกาสวันขึ้นปีใหม่ไทย
(วันสงกรานต์) วันฉลองครอบครัวและวันผู้สูงอายุ
นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของพี่น้องชาวนาบัว อีกทั้ง กางเขนใหญ่นี้จะเป็นเครื่องเตือนใจให้ลูกๆ
ชาวนาบัวได้เดินตามหนทางแห่งไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าในชีวิต
เทิดทูนความรักของพระเจ้าให้กลายเป็นความรักของตนเอง และตอกตรึงชีวิตของตนกับความรักอันยิ่งใหญ่แห่งไม้กางเขนของพระองค์
ตลอดไป
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
วัดพระคริสตประจักษ์
นาบัว14 เมษายน 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น