วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระพรและความรักพิเศษของพระเจ้า



พระพรและความรักพิเศษของพระเจ้า
พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับมนุษย์แต่ละคนแตกต่างกันไป  หากมองอย่างผิวเผินอาจไม่เข้าใจและรับไม่ได้  อีกทั้งยังก่อให้เกิดความคลางแคลงสงสัยและคำถามในใจหลายอย่างตามมา  เช่น ทำไมคนดีๆ ที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมจึงอายุสั้น  ทำไมคนที่มีความเชื่อศรัทธาอย่างแรงกล้าต้องตายอย่างทรมาน หรือบางคนถูกทำให้ตายอย่างทารุณโหดร้าย 
คนที่ประสบชะตากรรมเช่นนี้เกิดจากบาปของเขาหรือเปล่า  คำตอบที่ได้คือไม่ใช่ เพราะหลายคนเรารู้จักดี และยืนยันได้ว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ นี่คือ ธรรมล้ำลึกของพระเจ้า (Mysterium)  ชีวิตของคุณพ่อสมพร  อุปพงศ์ ได้สะท้อนความหมายของคำ ธรรมล้ำลึก ได้อย่างชัดเจน ซึ่งทุกคนที่รู้จักคุณพ่อเป็นประจักษ์พยานในเรื่องนี้ได้ 
          คุณพ่อได้ดำเนินชีวิตเป็นเครื่องหมายที่มองเห็นได้ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางเรา เป็นพระสงฆ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ศรัทธา  เป็นพ่อที่ใจดีมีเมตตา  เป็นผู้อภิบาลที่สุภาพถ่อมตน  และเป็นสมณะที่ดำเนินชีวิตสมถะเรียบง่าย  สมดังคติพจน์ที่ว่า "รักเพื่อน รักพระ สัจจะ ซื่อตรง  อุทิศตนรับใช้ เรียบง่าย สมถะ" ซึ่งคุณพ่อได้เลือก
การที่คุณพ่อต้องทนทุกข์ทรมานเพราะอาการปอดติดเชื้อในวาระสุดท้ายของชีวิต จึงไม่ใช่การลงโทษของพระเจ้า แต่เป็น “ธรรมล้ำลึก” ซึ่งพระเจ้าทรงมีแผนการเช่นนี้เสมอในประวัติศาสตร์แห่งความรอด  พระองค์ทรงหลอมผู้ที่พระองค์ทรงรักเหมือนหลอมทองในเบ้า เพื่อให้ได้ทองคำที่บริสุทธิ์และส่องประกายเจิดจ้าสำหรับผู้อื่น  เรื่องราวของโยบในพระคัมภีร์ ชีวิตของบรรดานักบุญมรณสักขี ล้วนเป็นพยานถึงความจริงข้อนี้
          ยิ่งเมื่อได้อ่านงานเขียนของคุณพ่อ ยิ่งทำให้เห็นถึงพระพรและความรักพิเศษของพระเจ้าได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น  คุณพ่อได้เขียนบทความ 25 ปี แห่งการเป็นสงฆ์ของข้าพเจ้า”  โอกาสฉลอง 25 ปีชีวิตสงฆ์  เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 2003
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำภาวนาของคุณพ่อต่อหน้าศีลมหาสนิทขณะเป็นสามเณร  ที่ต้องทนทุกข์กับปัญหาสุขภาพเป็นเวลาหลายปี  “ถ้าลูกได้บวชเป็นพระสงฆ์แล้ว อาจเจ็บป่วยต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดก็ดีใจแล้ว  เพราะชีวิตนี้ได้ถวายตัวให้พระองค์แล้ว  ความเจ็บป่วย ความทุกข์ คือการถวายบูชาด้วยชีวิตของข้าพเจ้าพร้อมกับพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน”

          พระเยซูเจ้าทรงฟังคำภาวนาของคุณพ่อ จึงประทานความเจ็บป่วยให้คุณพ่อต้องนอนอยู่บนเตียง ไปไหนไม่ได้  แต่ถึงกระนั้น มุมมองของคุณพ่อต่อเหตุการณ์ในลักษณะนี้กลับสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อที่ลึกซึ้งของคุณพ่อ  โดยเฉพาะในบทความเรื่อง “ของขวัญวันบวช” ที่เขียนในโอกาสเดียวกัน
“มันเป็นการถวายมิสซาบูชาด้วยชีวิตจริงของข้าพเจ้าที่ต้องพลี  มันเป็นจอกกาลิกส์ที่บรรจุด้วยเลือดของข้าพเจ้าผสมเข้ากับพระโลหิตของพระเยซูคริสตเจ้า  เพื่อมอบชีวิตให้กับโลก  นี่แหละคือความหมายของการเป็นสงฆ์  ข้าพเจ้าภูมิใจและมีความสุขใจเสมอเมื่อคิดถึงเหตุการณ์นี้  เพราะมันเป็นสิ่งสวยงามที่สุดชิ้นหนึ่งสำหรับชีวิตสงฆ์ของข้าพเจ้า สงฆ์เพื่อมวลชน เพื่อผู้อื่น  มันกลายเป็นของขวัญล้ำค่าสำหรับข้าพเจ้า”

          เราเชื่อว่า พระเจ้าทรงมีแผนการพิเศษบางอย่างสำหรับครอบครัว อุปพงศ์ และอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง พระองค์ทรงเลือกคุณพ่อสมพรให้เป็นพระสงฆ์ ให้มีส่วนในธรรมล้ำลึกปัสกาของพระองค์ เพื่อร่วมส่วนในพระมหาทรมานในการไถ่กู้มนุษยชาติ อีกทั้งทำให้ภาพความรักของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ปรากฏชัดยิ่งขึ้น 
พระเจ้าทรงเลือกคนเช่นนี้แหละสำหรับเป็นเครื่องมือของพระองค์  พระองค์ไม่ทรงเลือกคนที่ศรัทธาน้อยหรือคนที่ไม่ดีในสายตาของคนทั่วไป  เพราะเขาเหล่านั้นจะรับไม่ได้  แม้ว่าบาปของเขาสมควรจะได้รับโทษก็ตาม  ทั้งนี้เพราะพระเจ้าทรงรักคนบาป ทรงให้โอกาสพวกเขาเพื่อจะได้กลับใจ  และทรงเลือกคนดีๆ ให้มีส่วนในงานไถ่กู้ของพระองค์ เพื่อคนบาปเหล่านี้

          ชีวิตของคุณพ่อสมพร ได้เป็นตัวอย่างและบทเรียนล้ำค่าสำหรับทุกคนที่มีชีวิตอยู่ ให้ตระหนักในชีวิตของตนและพระพรที่ได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเราซึ่งเป็นคริสตชน ในการน้อมรับน้ำพระทัยของพระเจ้าและปฏิบัติตาม ดังบทความเรื่อง “มุมมองคลื่นยักษ์ (สึนามิ)” ที่คุณพ่อได้ให้ข้อคิดไว้ว่า
“ชีวิตของเราที่กำลังดำเนินอยู่ในแต่ละวันนั้นช่างเปราะบาง แตกดับง่าย และสั้นนัก  ไม่มีอะไรแน่นอน และจะยึดมั่นถือมั่นอะไรเป็นแก่นหลักสำหรับชีวิตได้เล่า  เราไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกสักกี่วัน... และวันเวลาที่เราจะต้องตายนั้นไม่มีใครรู้ได้ว่า เมื่อไร อย่างไร และที่ไหน...
ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมและตื่นเฝ้าอย่างมีสติอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญยิ่ง โดยการดำเนินชีวิตในคุณงามความดี ความยุติธรรม ความเมตตา การเอื้ออาทรต่อผู้อื่น และดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้าในแต่ละวันอย่างดี เพราะชีวิตของคนเราช่างเปราะบางและสั้นนัก และสิ่งที่คงอยู่ตลอดไปซึ่งเป็นแก่นหลักสำหรับชีวิตของมนุษย์ได้ก็คือ พระเป็นเจ้าเท่านั้น”

          เวลานี้ คุณพ่อสมพรได้ทำหน้าที่ของตนและเป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้าบนโลกนี้แล้ว  พระองค์จึงเรียกคุณพ่อไปรับรางวัลและอยู่กับพระองค์ ความตายของคุณพ่อแม้จะอยู่ในความคาดหมายล่วงหน้า แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงก็อดที่จะโศกสลดและเสียใจไม่ได้  โดยเฉพาะคนที่เป็นลูกศิษย์ ผู้ร่วมงาน พี่น้อง และญาติมิตร
เพื่อไม่ให้เราตกอยู่ในห้วงเหวของความทุกข์จนเกินไป  คุณพ่อยังได้ให้ความหวังแก่เราว่า  “ชีวิตของเราไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือตาย เราก็อยู่ในความรักและพระเมตตาของพระเจ้าเสมอ  ความตายจึงมิใช่การจบสิ้นหรือเป็นการสิ้นหวัง แต่ชีวิตในองค์พระเจ้ายังคงดำเนินอยู่ในชีวิตเราอย่างต่อเนื่องแม้หลังความตาย ความรักและความสัมพันธ์กับพระองค์ก็จะยิ่งสมบูรณ์มากขึ้น”
ขอดวงวิญญาณของคุณพ่อ ได้รับการพักผ่อนนิรันดรกับพระเจ้า เทอญ
ด้วยความอาลัยและสำนึกพระคุณ
คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์
สำนักมิสซังฯ สกลนคร
7 สิงหาคม 2007

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น