วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ถ้อยแถลง สภาการศึกษาคาทอลิก


ถ้อยแถลงการประชุมสัมมนาประจำปี 2556
ของสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 43
หัวข้อ โรงเรียนคาทอลิกในมาตรฐานสากล
วันที่ 18-21 สิงหาคม 2556 ณ โรงแรมเอเชีย พัทยา จังหวัดชลบุรี
 
สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดการประชุมสัมมนาประจำปีการศึกษา 2556 ซึ่งอยู่ในระหว่างปีแห่งความเชื่อ และเป็นปีที่บรรดาคาทอลิกทั่วโลก รู้สึกปีติยินดีที่ได้มี  พระประมุของค์ใหม่ คือ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ผู้ซึ่งนอกจากเป็นพระประมุขที่ทรงมีชีวิตเป็นพยานถึงองค์พระคริสต์แล้ว ยังเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักเคมี และนักบริหารการศึกษาคาทอลิกอย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย
 
ผู้เข้าสัมมนาจำนวน 447 คน ได้ร่วมกันพิจารณาไตร่ตรองการแบ่งปันของวิทยากร และ พบว่า สถานการณ์สังคมในปัจจุบันมิใช่เพียงแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงเท่านั้น  แต่ยังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องอีกด้วย เป็นสังคมโลกยุคดิจิตอลและยุคโลกาภิวัตน์ ที่แม้ว่าได้เสนอสิ่งดีงามและสร้างสรรค์มากมาย  แต่ขณะเดียวกันก็ได้ก่อให้เกิดวิกฤตด้านคุณค่าในกระแสค่านิยมต่างๆ โดยเฉพาะโลกียนิยม ซึ่งปฏิเสธความจริงและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์  อีกทั้งยังส่งผลให้มีวิกฤตด้านความเชื่อ ทำให้ผู้คนไม่ยอมรับ ไม่เชื่อถือ และไม่เห็นคุณค่าความเชื่อ   คริสตชนและธรรมะศาสนาต่างๆ   ผลงานวิจัยเกี่ยวกับคนไทยได้สะท้อนให้เห็นผลของภาวะการณ์ดังกล่าวอย่างชัดเจนว่า คนไทยมีความพึงพอใจในชีวิตความเป็นอยู่ลดน้อยลงกว่าที่ผ่านมา      อันเนื่องมาจากปัญหายาเสพติด อาชญากรรมและคอร์รัปชั่น ที่รุนแรงเพิ่มขึ้น  ความใกล้ชิด    การใช้เวลาร่วมกัน และความสัมพันธ์ในครอบครัวล่มสลาย การศึกษาที่ดูเหมือนมีความสำเร็จเพิ่มขึ้น แต่โอกาสพัฒนาตัวเองที่ลงลึกถึงจิตวิญญาณกลับลดลง ผลการวิจัยยังทำให้ตระหนักอีกว่า ในขณะนี้สังคมไทยฝากความหวังและอนาคตไว้กับโรงเรียน ที่จะสร้างทักษะและสมรรถนะต่างๆ ให้แก่เด็กและเยาวชน โดยให้ความสำคัญกับคุณค่าศาสนา พร้อมทั้งจัดการเรียนการสอนที่เน้นการไตร่ตรอง เพื่อเปลี่ยนชีวิตให้มีคุณค่าและความหมายที่แท้จริง


ขณะที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้ โรงเรียนคาทอลิกเห็นความจำเป็น ที่จะต้องปรับตัวเข้าสู่มาตรฐานสากลมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการไตร่ตรองนี้ เพื่อนักเรียนไม่เพียงแต่รู้ว่า ฉันได้เรียนรู้อะไร แต่ยังรู้ด้วยว่า ฉันเข้าใจได้อย่างไร และ ทำไมฉันจึงต้องเรียนเรื่องนี้ จนกระทั่งในบางโอกาสสามารถสัมผัสความน่าพิศวงของกลไกธรรมชาติ ที่พระผู้สร้างประทานให้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเปลี่ยนชีวิตจากภายใน   ของตน และสร้างทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต  ทั้งนี้ โดยมีครูเป็นต้นแบบและเพื่อนร่วมทางของนักเรียนบนเส้นทางแห่งการเรียนรู้ นอกนั้นโรงเรียนคาทอลิกยังต้องให้ความสำคัญในการมีวิชา หลักสูตร และกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทำให้เท่าทันเทคโนโลยีและสื่อ ครูมีโอกาสพัฒนาการใช้สื่อดิจิตอลในการเรียนรู้และถ่ายทอด อีกทั้งทำงานร่วมกันเป็นชุมชนในการปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้ดียิ่งๆ ขึ้นอยู่เสมอ เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมที่จะมีชีวิตการทำงานในยุค    โลกาภิวัตน์อย่างมีศักดิ์ศรี

ในการนำอัตลักษณ์การศึกษาคาทอลิก สู่ภาคปฏิบัติให้เป็นที่ประจักษ์  โรงเรียนคาทอลิกในมาตรฐานสากลยังต้องมุ่งมั่น ที่จะปฏิรูปโรงเรียนให้เป็นสนามแห่งการอบรม และเป็นฐานแห่งการประกาศข่าวดีอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งต้องเป็นการประกาศข่าวดีใหม่ ด้วยชีวิตก่อนและติดตามด้วยวาจา มุ่งเน้นการพัฒนาด้านสติปัญญาของนักเรียน ให้รับรู้ถึงสิ่งที่เป็นความจริง ความดี และความงาม รวมทั้งด้านความเป็นมนุษย์ บนพื้นฐานของคุณค่าสำคัญสองประการคือ อิสรภาพและการรับใช้ เพื่อให้นักเรียนมีอิสรภาพด้วยการรู้จักไตร่ตรอง ก่อนการเลือกและตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้องดีงามอย่างกล้าหาญและรับผิดชอบ พร้อมทั้งเปิดตัวออกจากตนเอง เพื่อรับใช้ผู้อื่น ชุมชน และสังคมโลก

เนื่องด้วยภารกิจในถ้อยแถลงดังกล่าวนี้ เป็นกระบวนการที่เรียกร้องให้นักการศึกษาคาทอลิกทุกคนทุ่มเทและอุทิศตนอย่างจริงจัง ผู้เข้าร่วมสัมมนาจึงตั้งปณิธานอันแน่วแน่ ที่จะทำให้กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการไตร่ตรองและเพื่อการเปลี่ยนชีวิต ดำเนินไปอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง อีกทั้งทำให้ทุกคนได้ทราบข่าวดีของพระเยซูคริสต์เจ้า โดยตระหนักดีว่าทุกคนมีสิทธิที่จะได้รู้จักและสัมผัสความรักของพระองค์ ดังที่พระองค์ได้เคยตรัสว่า  ท่านทั้งหลายก็จะเป็นพยานให้เราด้วย เพราะท่านอยู่กับเราตั้งแต่แรกแล้ว (ยอห์น 15:27)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น