แด่ ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่เรียกว่า “แม่”
วันที่ 12 สิงหาคม “วันแม่แห่งชาติ”
เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งสำหรับเราชาวไทยและบรรดาลูกทั้งหลาย
ที่จะคิดถึงแม่หลวงของเราและแม่ของเราเป็นพิเศษ สังเกตเห็นรถยนต์ตามท้องถนนมีมากกว่าทุกวัน
เข้าใจว่าหลายคนที่ทำงานต่างถิ่นคงเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปกราบแม่หรือพาแม่เที่ยว
นานมาแล้ว ได้รับฟอร์เวิร์ดเมลเกี่ยวกับเรื่องราวของ “ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่เรียกว่าแม่”
แต่ไม่รู้ว่าที่มาเริ่มแรกมาจากไหนและใครเป็นคนเขียน เห็นว่ามีความหมายดีมาก เพื่อเป็นการเชิดชูผู้หญิงทุกคนที่เป็นแม่หรือกำลังจะเป็นแม่ในโอกาสพิเศษนี้
จึงขอนำมาเผยแพร่อีกครั้ง
เมื่อคุณเกิดมาในโลกนี้ แม่อุ้มคุณไว้ในอ้อมอก แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการเปล่งเสียงร้องไห้
เมื่อคุณอายุ 1 ขวบ
แม่ป้อนข้าวและอาบน้ำให้คุณ แต่คุณขอบคุณแม่โดยการร้องไห้งอแง
เมื่อคุณอายุ 2 ขวบ แม่สอนให้คุณหัดเดิน แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการวิ่งหนีทุกครั้งที่แม่เรียกหา
เมื่อคุณอายุ 3 ขวบ แม่ทำอาหารทุกอย่างให้คุณด้วยความรัก
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการโยนจานลงบนพื้น
เมื่อคุณอายุ 4 ขวบ แม่ให้ดินสอสีแก่คุณ แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการระบายสีเลอะเต็มบ้าน
เมื่อคุณอายุ 5 ขวบ แม่แต่งชุดสวยๆ (หรือหล่อๆ)
ให้คุณไปเที่ยว แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการทำชุดเลอะโคลน
เมื่อคุณอายุ 6 ขวบ แม่ไปส่งคุณที่โรงเรียน
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการร้องไห้ตะโกนว่า “ไม่ไป...
ไม่ไป... ไม่ไป...”
เมื่อคุณอายุ 7 ขวบ แม่ซื้อไอศครีมให้คุณ แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการทำมันหกเลอะเทอะไปทั่ว
เมื่อคุณอายุ 8 ขวบ แม่ซื้อลูกบอลให้คุณ แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการทำกระจกเพื่อนบ้านแตก
เมื่อคุณอายุ 9 ขวบ แม่สอนให้คุณเล่นเปียโน
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการไม่เคยแม้แต่จะซ้อม
เมื่อคุณอายุ 10 ขวบ
แม่พาคุณไปเรียนพิเศษและพาไปงานวันเกิดเพื่อน แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการกระโดดลงจากรถโดยไม่คิดที่จะหันกลับมามอง
เมื่อคุณอายุ 11 ขวบ แม่พาคุณกับเพื่อนไปดูหนัง
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการขอที่นั่งคนละแถว (หรือขอให้แม่ไม่ต้องดู)
เมื่อคุณอายุ 12 ขวบ แม่เตือนคุณว่าอย่าดูทีวี
ให้ตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมเข้า ม.1 แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการรอให้แม่ไปข้างนอกแล้วดูต่อ
โดยไม่อ่านหนังสือเลย
เมื่อคุณอายุ 13 ปี แม่บอกให้คุณตัดผม แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการบอกแม่ว่า
“แม่นี่...ไม่มีรสนิยมเลย ไม่ต้องมายุ่งกะหนู (ผม) หรอก”
เมื่อคุณอายุ 14 ปี แม่จ่ายเงินเรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนต่างประเทศที่แพงแสนแพง
เพื่อให้คุณได้เรียนสิ่งที่ดีๆ แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการไม่ติดต่อกลับมาหาแม่เลย
เมื่อคุณอายุ 15 ปี แม่กลับบ้านหลักงานเลิกอยากกอดคุณสักครั้ง
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการขังตัวเองอยู่ในห้องโดยไม่สนใจ
เมื่อคุณอายุ 16 ปี แม่สอนคุณขับรถ แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการขับรถหนีแม่ไปเที่ยว
เมื่อคุณอายุ 17 ปี แม่จ่ายค่าเรียนกวดวิชาให้คุณได้เรียนเพิ่ม
เพื่อหวังให้คุณเก่งและมีความรู้ แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการให้แม่ส่งข้างนอกเพื่อจะได้ไม่อายเพื่อน
เมื่อคุณอายุ 18 ปี แม่ร้องไห้ในวันที่คุณจบชั้นมัธยม
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการฉลองกับเพื่อนตั้งแต่ค่ำยันเช้า
เมื่อคุณอายุ 19 ปี แม่รอโทรศัพท์สายสำคัญจากคุณ
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการใช้โทรศัพท์ตลอดคืนนั้น
เมื่อคุณอายุ 20 ปี
แม่ถามว่าคุณมีแฟนรึยัง แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการตอบว่า “แม่อย่ามายุ่งกะหนู
(ผม) เลย”
เมื่อคุณอายุ 21 ปี แม่แนะนำอาชีพของแม่ให้คุณทำในอนาคตของคุณ
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการพูดว่า “หนู (ผม) ไม่อยากเป็นอย่างแม่”
เมื่อคุณอายุ 22 ปี แม่อยากกอดคุณในวันรับปริญญา
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการไปกอดกับเพศตรงข้ามกับคุณโดยไม่กอดแม่ที่อยากกอดคุณ
เมื่อคุณอายุ 23 ปีแม่ซื้อบ้านและเฟอร์นิเจอร์ให้คุณ
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการบอกเพื่อนๆ ลับหลังแม่ว่า “มันช่างเชยและน่าเกลียดเสียนี่กระไร”
เมื่อคุณอายุ 24 ปี แม่บอกให้คุณพาแฟนของคุณมาหาแม่
เมื่อคุณพามา แม่ถามพวกคุณว่าวางแผนอนาคตไว้อย่างไร แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการจ้องเขม็งและพูดว่า
“แม่จะมายุ่งอะไรกะหนู (ผม) อีกนี่”
เมื่อคุณอายุ 25 ปี (สำหรับผู้ชาย) แม่ช่วยออกค่าสินสอดให้คุณ และบอกกับคุณว่าแม่รักคุณมากขนาดไหน
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการพูดว่า “อายคนอื่นเขาน่า แม่”
(สำหรับผู้หญิง) แม่ช่วยออกค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานให้คุณ และบอกว่าแม่รักคุณมากขนาดไหน คุณขอบคุณแม่ด้วยการพูดว่า “หนูอยากไปอยู่ที่อื่นเพื่อจะได้อยู่กับแฟนโดยไม่มีแม่”
(สำหรับผู้หญิง) แม่ช่วยออกค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานให้คุณ และบอกว่าแม่รักคุณมากขนาดไหน คุณขอบคุณแม่ด้วยการพูดว่า “หนูอยากไปอยู่ที่อื่นเพื่อจะได้อยู่กับแฟนโดยไม่มีแม่”
เมื่อคุณอายุ 30 ปี
แม่โทรมาหาและแนะนำวิธีเลี้ยงเด็ก แต่คุณขอบคุณแม่โดยการบอกว่า “สมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้วล่ะค่ะแม่”
เมื่อคุณอายุ 40 ปี
แม่โทรมาชวนคุณไปงานวันเกิดญาติ แต่คุณขอบคุณแม่และญาติว่า “ตอนนี้ไม่ว่างเลย”
เมื่อคุณอายุ 50 ปี แม่ชราและไม่สบาย อยากให้คุณดูแล
แต่คุณขอบคุณแม่ด้วยการบอกว่า “มันเป็นภาระนะแม่ หนูมีงานอีกเยอะแยะ”
และแล้ววันหนึ่ง แม่จากคุณไปอย่างสงบ
และทุกอย่างที่คุณไม่เคยทำมาก่อน จะเหมือนฟ้าผ่ากลางใจคุณ
โปรดใช้เวลาสักนิด แสดงออกถึงความกตัญญูต่อ “แม่” ไม่มีอะไรมาแทนแม่ได้
แม้ว่าบางคราวแม่จะไม่ใช่คนที่เข้าใจคุณมากที่สุด หรือเห็นด้วยกับคุณ แต่ก็คือ “แม่” ของคุณ และเชื่อได้ว่าทำทุกอย่างเพื่อคุณ รับฟังคุณและรักคุณมากกว่าใคร
ลองถามตัวเองดู คุณมีเวลาที่จะฟังความเศร้า ความกังวลใจ ไม่ว่าจากการงาน
จากงานบ้านหรือจากงานในครัวของแม่ไหม คุณเคยนึกถึงความทุกข์ของแม่ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อคุณและทุกคนไหม
รักแม่ให้มาก แม้ว่าจะคิดเห็นแตกต่างกัน เพราะเมื่อแม่จากไป จะเหลือเพียงความเสียใจและความทรงจำเท่านั้น
อย่าเพิกเฉยกับคนที่ใกล้หัวใจคุณที่สุด
รัก “แม่” ให้มากกว่ารักตัวเอง แสดงให้แม่รู้ว่าคุณก็ “รัก” ก่อนที่จะทำได้เพียงบอกรักกับ
“รูป” ของแม่เท่านั้น “โปรดรักแม่ เหมือนอย่างที่แม่รักคุณ”
ขอเป็นกำลังใจสำหรับลูกๆทั้งหลายในการทำหน้าที่ของตน
ในการดูแลผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ ผู้หญิงธรรมดาที่รักเรามากกว่าใคร
รักโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่หวังสิ่งใดตอบแทน รักแม่ให้มากและทำดีกับท่านในวันที่ท่านยังอยู่
ไม่ใช่แต่เฉพาะในวันแม่นี้เท่านั้น แต่ทุกวันตลอดชีวิตของเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
12
สิงหาคม 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น