วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง


ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง

วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 28
เทศกาลธรรมดา
ปี B
ปชญ 7:7-11
ฮบ 4:12-13
มก 10:17-30

บทนำ

 ในศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการอพยพย้ายถิ่นไปแสวงโชคในดินแดนโพ้นทะเล มีเรื่องเล่าว่าชายคนหนึ่งได้นำเหรียญเงินและทองคำใส่ไท้มัดรอบเอวไว้เหมือนเข็มขัด โชคร้ายเรือที่เขาเดินทางไปด้วยชนภูเขาน้ำแข็งและกำลังจะจม ทุกคนต่างกระโจนลงน้ำและว่ายไปยังเรือช่วยชีวิต ชายคนดังกล่าวกระโจนลงน้ำเช่นกัน อนิจจา! เขาไม่ยอมทิ้งไท้เงินที่มัดรอบเอว ไถ้เงินซึ่งหนักมากได้ถ่วงเขาดำดิ่งลงสู่ก้นทะเลไม่สามารถว่ายขึ้นมาได้

ฟรังซิส เซเวียร์ ศาสตราจารย์หนุ่มที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยปารีส ได้ละทิ้งอาชีพทางโลกเพื่ออุทิศตนรับใช้พระเจ้าในวัย 28 ปี ข้อความในพระคัมภีร์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านคือ “มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่จะได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียวิญญาณไป” (มก 8:36) ท่านได้กลายเป็นธรรมทูตผู้ยิ่งใหญ่ของยุคสมัย ได้นำข่าวดีแห่งพระวรสารไปประกาศยังที่ต่างๆ เช่น อินเดีย ศรีลังกา มะละกา อินโดนีเซียและญี่ปุ่น

เราเห็นความแตกต่างระหว่างฟรังซิส เซเวียร์กับเศรษฐีหนุ่มในพระวรสาร คนหนึ่งได้ละทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามพระคริสตเจ้าและได้รับชีวิตนิรันดร ขณะที่อีกคนหนึ่งติดใจในสมบัติฝ่ายโลกและปฏิเสธที่จะติดตามพระคริสตเจ้าและสูญเสียชีวิตนิรันดร บทอ่านวันนี้เตือนเราว่า เราไม่อาจครอบครองสิ่งใดในชีวิต ที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นมิให้เราอุทิศตัวเพื่อองค์พระเจ้า พระเจ้าจะต้องสำคัญเป็นลำดับแรกกว่าสิ่งใดในชีวิต

1.           ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง

เศรษฐีหนุ่มได้มาหาพระเยซูเจ้าเพื่อแสวงหาหนทางที่จะทำให้เขาได้รับชีวิตนิรันดร เขาอ้างกับพระเยซูเจ้าว่าได้ถือปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้าทุกข้อตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ปัญหาของเขาคือให้ความสำคัญกับสิ่งของมากกว่าตัวบุคคล ความร่ำรวยของเขาจึงเป็นเหมือนกับกำแพงที่ขวางกั้นตัวเขากับพระเจ้า นั่นคือทรัพย์สมบัติที่เขามีได้ครอบครองจิตใจและตัวเขา

แม้ว่าเศรษฐีหนุ่มจะไม่เคยฆ่าคน ขโมยของใครหรือกระทำผิดประเวณี แต่เขาได้ละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้าประการแรกด้วยการนับถือรูปเคารพและขาดความรักต่อเพื่อนพี่น้อง เขานมัสการความมั่งคั่งของเขามากกว่าพระเจ้า พระเยซูเจ้ารู้ว่าเศรษฐีหนุ่มตกเป็นทาสของทรัพย์สมบัติที่เขามี พระองค์จึงท้าทายเขาว่า การถือปฏิบัติตามบทบัญญัติเท่านั้นยังไม่พอ เพื่อจะเป็นคนดีบริบูรณ์เขาต้องแบ่งปันสิ่งที่เขามีกับคนยากจน “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด”

พระเยซูเจ้าตรัสชัดเจนว่า ใครที่อยากได้ชีวิตนิรันดร ไม่เพียงให้ความเคารพหรือไม่ทำร้ายใคร แต่ต้องแบ่งปันสิ่งที่เขามี ความสามารถและพระพรที่เขาได้รับกับคนที่ด้อยกว่า พระเจ้าจะต้องสำคัญเป็นลำดับแรกในชีวิตของเรา ทุกสิ่งที่เรามีมิใช่เพื่อการครอบครองเป็นเจ้าของหรือปรนเปรอตัวเราเอง แต่จะต้องแบ่งปันสำหรับคนอื่นที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องเศรษฐีหนุ่มให้ละความเห็นแก่ตัว แต่เขาปฏิเสธข้อเสนอแนะของพระองค์

2.           บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติสำหรับเราคริสตชนหลายประการ

ประการแรก เราต้องทำบางสิ่งที่สวยงามเพื่อพระเจ้า สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเราคือความรอดของวิญญาณ เราต้องเลียนแบบบุญราศีแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาที่ทำสิ่งต่างๆ ในแบบที่ต่างออกไป นั่นคือ “ทำบางสิ่งที่สวยงามเพื่อพระเจ้า” พระเจ้าจะต้องสำคัญเป็นลำดับแรกเสมอในชีวิตของเรา การที่จะมีส่วนในอาณาจักรสวรรค์ มิใช่อยู่แค่ไม่กระทำความผิดหรือถือปฏิบัติตามบทบัญญัติทุกประการเท่านั้น แต่ต้องทำสิ่งที่ดีงาม กล้าแลกสิ่งอนิจจังของโลกนี้กับสมบัติแท้แห่งเมืองสวรรค์
 
ประการที่สอง เราต้องให้ใจของเรากับพระเจ้า ในการเป็นศิษย์ติดตามพระคริสตเจ้าต้องมีจิตใจกว้าง พระเจ้าไม่ได้เรียกร้องให้เราละทิ้งทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่เรามี แต่พระองค์เรียกร้องให้เราใช้มันอย่างชาญฉลาด ทรัพย์สมบัติมิใช่สิ่งที่เลวร้ายในตัวมันเอง แต่ความโลภของมนุษย์และความทะเยอทะยานไม่รู้จักพอต่างหาก ที่นำมนุษย์ไปสู่หนทางแห่งบาป เราจึงต้องใช้สิ่งที่เรามี ความสามารถและพระพรต่างๆ เพื่อนำเราไปสู่เป้าหมายคือชีวิตนิรันดร

ประการที่สาม เราต้องติดตามพระคริสตเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไข เศรษฐีหนุ่มกลับไปด้วยความเศร้า เพราะเขาอยากติดตามพระเยซูเจ้าตามเงื่อนไขของตนเอง เงื่อนไขที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องจากเราคือ การเลิกนึกถึงตนเอง แบกกางเขนของตนและติดตามพระองค์ ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด ในการแสวงหาและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตประจำวันของเรา เพื่อเราจะได้มีขุมทรัพย์ในสวรรค์

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้ใช้ทุกสิ่งที่เรามี ความสามารถและพระพรต่างๆ ที่เราได้รับมิใช่สำหรับตัวเราเองเท่านั้น แต่ต้องใช้เพื่อเห็นแก่พระคริสตเจ้าในเพื่อนพี่น้องที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ เป็นต้นคนยากจน ไม่ตกเป็นทาสของเงินทองและทรัพย์สมบัติในโลกนี้ แต่ใช้มันอย่างชาญฉลาดเพื่อนำเราไปหาพระเจ้า และสู่เป้าหมายสูงสุดที่เรามุ่งหวังคือชีวิตนิรันดร

เรื่องราวของเศรษฐีหนุ่มในพระวรสารวันนี้ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเรา การจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์มิใช่อยู่ที่การไม่กระทำความผิด หรือถือปฏิบัติตามบทบัญญัติทุกประการอย่างเคร่งครัดเท่านั้น แต่เราต้องเลือกที่จะกระทำสิ่งที่ดีงาม กล้าที่จะสละน้ำใจตนเองและทุกสิ่งที่มีเพื่อแบ่งปันกับคนอื่น เราต้องกล้าแลกสิ่งอนิจจังของโลกนี้กับสมบัติแท้แห่งเมืองสวรรค์

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
13 ตุลาคม 2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น