ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง
วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 28
เทศกาลธรรมดา
ปี B
|
ปชญ 7:7-11
ฮบ 4:12-13
มก 10:17-30
|
บทนำ
ในศตวรรษที่
18 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการอพยพย้ายถิ่นไปแสวงโชคในดินแดนโพ้นทะเล
มีเรื่องเล่าว่าชายคนหนึ่งได้นำเหรียญเงินและทองคำใส่ไท้มัดรอบเอวไว้เหมือนเข็มขัด
โชคร้ายเรือที่เขาเดินทางไปด้วยชนภูเขาน้ำแข็งและกำลังจะจม
ทุกคนต่างกระโจนลงน้ำและว่ายไปยังเรือช่วยชีวิต ชายคนดังกล่าวกระโจนลงน้ำเช่นกัน
อนิจจา! เขาไม่ยอมทิ้งไท้เงินที่มัดรอบเอว
ไถ้เงินซึ่งหนักมากได้ถ่วงเขาดำดิ่งลงสู่ก้นทะเลไม่สามารถว่ายขึ้นมาได้
ฟรังซิส เซเวียร์
ศาสตราจารย์หนุ่มที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยปารีส
ได้ละทิ้งอาชีพทางโลกเพื่ออุทิศตนรับใช้พระเจ้าในวัย 28 ปี ข้อความในพระคัมภีร์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านคือ
“มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่จะได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียวิญญาณไป” (มก
8:36) ท่านได้กลายเป็นธรรมทูตผู้ยิ่งใหญ่ของยุคสมัย
ได้นำข่าวดีแห่งพระวรสารไปประกาศยังที่ต่างๆ เช่น อินเดีย ศรีลังกา มะละกา
อินโดนีเซียและญี่ปุ่น
เราเห็นความแตกต่างระหว่างฟรังซิส
เซเวียร์กับเศรษฐีหนุ่มในพระวรสาร
คนหนึ่งได้ละทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามพระคริสตเจ้าและได้รับชีวิตนิรันดร
ขณะที่อีกคนหนึ่งติดใจในสมบัติฝ่ายโลกและปฏิเสธที่จะติดตามพระคริสตเจ้าและสูญเสียชีวิตนิรันดร
บทอ่านวันนี้เตือนเราว่า เราไม่อาจครอบครองสิ่งใดในชีวิต
ที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นมิให้เราอุทิศตัวเพื่อองค์พระเจ้า
พระเจ้าจะต้องสำคัญเป็นลำดับแรกกว่าสิ่งใดในชีวิต
1.
ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง
เศรษฐีหนุ่มได้มาหาพระเยซูเจ้าเพื่อแสวงหาหนทางที่จะทำให้เขาได้รับชีวิตนิรันดร
เขาอ้างกับพระเยซูเจ้าว่าได้ถือปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้าทุกข้อตั้งแต่เด็กแล้ว
แต่ปัญหาของเขาคือให้ความสำคัญกับสิ่งของมากกว่าตัวบุคคล ความร่ำรวยของเขาจึงเป็นเหมือนกับกำแพงที่ขวางกั้นตัวเขากับพระเจ้า
นั่นคือทรัพย์สมบัติที่เขามีได้ครอบครองจิตใจและตัวเขา
แม้ว่าเศรษฐีหนุ่มจะไม่เคยฆ่าคน
ขโมยของใครหรือกระทำผิดประเวณี แต่เขาได้ละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้าประการแรกด้วยการนับถือรูปเคารพและขาดความรักต่อเพื่อนพี่น้อง
เขานมัสการความมั่งคั่งของเขามากกว่าพระเจ้า
พระเยซูเจ้ารู้ว่าเศรษฐีหนุ่มตกเป็นทาสของทรัพย์สมบัติที่เขามี
พระองค์จึงท้าทายเขาว่า การถือปฏิบัติตามบทบัญญัติเท่านั้นยังไม่พอ
เพื่อจะเป็นคนดีบริบูรณ์เขาต้องแบ่งปันสิ่งที่เขามีกับคนยากจน “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง
จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์
แล้วจงติดตามเรามาเถิด”
พระเยซูเจ้าตรัสชัดเจนว่า
ใครที่อยากได้ชีวิตนิรันดร ไม่เพียงให้ความเคารพหรือไม่ทำร้ายใคร
แต่ต้องแบ่งปันสิ่งที่เขามี ความสามารถและพระพรที่เขาได้รับกับคนที่ด้อยกว่า
พระเจ้าจะต้องสำคัญเป็นลำดับแรกในชีวิตของเรา ทุกสิ่งที่เรามีมิใช่เพื่อการครอบครองเป็นเจ้าของหรือปรนเปรอตัวเราเอง
แต่จะต้องแบ่งปันสำหรับคนอื่นที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องเศรษฐีหนุ่มให้ละความเห็นแก่ตัว
แต่เขาปฏิเสธข้อเสนอแนะของพระองค์
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้
ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติสำหรับเราคริสตชนหลายประการ
ประการแรก
เราต้องทำบางสิ่งที่สวยงามเพื่อพระเจ้า สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเราคือความรอดของวิญญาณ
เราต้องเลียนแบบบุญราศีแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาที่ทำสิ่งต่างๆ ในแบบที่ต่างออกไป
นั่นคือ “ทำบางสิ่งที่สวยงามเพื่อพระเจ้า” พระเจ้าจะต้องสำคัญเป็นลำดับแรกเสมอในชีวิตของเรา
การที่จะมีส่วนในอาณาจักรสวรรค์
มิใช่อยู่แค่ไม่กระทำความผิดหรือถือปฏิบัติตามบทบัญญัติทุกประการเท่านั้น
แต่ต้องทำสิ่งที่ดีงาม กล้าแลกสิ่งอนิจจังของโลกนี้กับสมบัติแท้แห่งเมืองสวรรค์
ประการที่สอง เราต้องให้ใจของเรากับพระเจ้า
ในการเป็นศิษย์ติดตามพระคริสตเจ้าต้องมีจิตใจกว้าง
พระเจ้าไม่ได้เรียกร้องให้เราละทิ้งทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่เรามี
แต่พระองค์เรียกร้องให้เราใช้มันอย่างชาญฉลาด ทรัพย์สมบัติมิใช่สิ่งที่เลวร้ายในตัวมันเอง
แต่ความโลภของมนุษย์และความทะเยอทะยานไม่รู้จักพอต่างหาก
ที่นำมนุษย์ไปสู่หนทางแห่งบาป เราจึงต้องใช้สิ่งที่เรามี ความสามารถและพระพรต่างๆ
เพื่อนำเราไปสู่เป้าหมายคือชีวิตนิรันดร
ประการที่สาม เราต้องติดตามพระคริสตเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไข
เศรษฐีหนุ่มกลับไปด้วยความเศร้า
เพราะเขาอยากติดตามพระเยซูเจ้าตามเงื่อนไขของตนเอง
เงื่อนไขที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องจากเราคือ การเลิกนึกถึงตนเอง
แบกกางเขนของตนและติดตามพระองค์ ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด
ในการแสวงหาและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตประจำวันของเรา เพื่อเราจะได้มีขุมทรัพย์ในสวรรค์
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้ใช้ทุกสิ่งที่เรามี ความสามารถและพระพรต่างๆ
ที่เราได้รับมิใช่สำหรับตัวเราเองเท่านั้น
แต่ต้องใช้เพื่อเห็นแก่พระคริสตเจ้าในเพื่อนพี่น้องที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
เป็นต้นคนยากจน ไม่ตกเป็นทาสของเงินทองและทรัพย์สมบัติในโลกนี้
แต่ใช้มันอย่างชาญฉลาดเพื่อนำเราไปหาพระเจ้า
และสู่เป้าหมายสูงสุดที่เรามุ่งหวังคือชีวิตนิรันดร
เรื่องราวของเศรษฐีหนุ่มในพระวรสารวันนี้ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเรา
การจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์มิใช่อยู่ที่การไม่กระทำความผิด
หรือถือปฏิบัติตามบทบัญญัติทุกประการอย่างเคร่งครัดเท่านั้น
แต่เราต้องเลือกที่จะกระทำสิ่งที่ดีงาม
กล้าที่จะสละน้ำใจตนเองและทุกสิ่งที่มีเพื่อแบ่งปันกับคนอื่น เราต้องกล้าแลกสิ่งอนิจจังของโลกนี้กับสมบัติแท้แห่งเมืองสวรรค์
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว13 ตุลาคม 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น