วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

กางเขน เครื่องหมายแห่งความรอด


กางเขน เครื่องหมายแห่งความรอด

14 กันยายน
ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน
ของพระเยซูเจ้า
กดว 21:4-9
ฟป 2:6-11
ยน 3:13-17

บทนำ

ปัจจุบัน กางเขนได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคริสตชนทั่วโลกที่เราพบเห็นอยู่ทั่วไป เช่น บนยอดวัด หลุมฝังศพ หรือซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านคริสตชน เมื่อเราเห็นใครทำเครื่องหมายกางเขน เช่น นักกีฬาทำเครื่องหมายกางเขนก่อนลงสนามหรือเริ่มการแข่งขัน เราทราบทันทีว่าเขาเป็นคริสตชน นอกนั้น กางเขนยังได้กลายเป็นเครื่องประดับที่แพร่หลายซึ่งผู้คนสวมใส่ตามแฟชั่น อาทิ สร้อยคอ ต่างหู ที่เราพบเห็นกันทั่วไปในหมู่ดารา นักแสดง นักร้อง แม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นคริสตชนก็ตาม

วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนที่เราฉลองในวันที่ 14 กันยายนของทุกปี เป็นการเทิดเกียรติกางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเยซูเจ้าได้สิ้นพระชนม์ด้วยความรักต่อมนุษย์ เพื่อนำความรอดพ้นมาสู่โลก กางเขนของพระเยซูเจ้าจึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด การฉลองเทิดทูนไม้กางเขนเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 4 เริ่มจากการที่พระนางเฮเลนา (นักบุญเฮเลนา) พระมารดาของจักรพรรดิคอนสแตนตินได้ค้นพบกางเขนของพระเยซูเจ้าอย่างอัศจรรย์ ขณะไปแสวงบุญที่เยรูซาเลม เมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 326

ต่อมาภายหลังจักรพรรดิคอนสแตนตินได้สร้างวิหารขึ้น 2 หลัง บนเนินกัลวารีโอและ ณ สถานที่ฝังพระศพของพระเยซูเจ้า และโปรดให้มีการเฉลิมฉลองในวันที่ 13 และ 14 กันยายน ส่วนการฉลองนี้เป็นที่แพร่หลายในพระศาสนจักรตะวันตกในศตวรรษที่ 7 หลังจากจักรพรรดิเฮราคลิอุสแห่งคอนสแตนติโนเปิล ได้ยึดครองกางเขนของพระเยซูเจ้าคืนจากพวกเปอร์เซีย และนำกลับกรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า


1.           กางเขน เครื่องหมายแห่งความรอด

ในพระวรสาร พระเยซูเจ้าตรัสกับเราถึงการที่พระองค์จะถูกยกขึ้นบนกางเขน เพื่อช่วยเราให้รอดพ้น โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่โมเสสได้ยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดาร อันเนื่องมาจากการถูกงูพิษกัดเพราะการบ่นว่าพระเจ้าของชาวอิสราแอล การถูกยกขึ้นบนกางเขนของพระองค์ได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ ที่พระเจ้าทรงเรียกมาเพื่อรับใช้และสรรเสริญพระองค์ ดังที่นักบุญยอห์นบอกเราว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก จึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16)

ในอดีต กางเขนคือเครื่องประหารที่ชาวโรมันใช้ประหารนักโทษอุฉกรรจ์ กางเขนจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการทรมาน ความตาย ความพ่ายแพ้และการดูหมิ่นเหยียดหยาม ที่ทุกคนหวาดกลัวและขยะแขยง พระเยซูเจ้าได้แปรเปลี่ยนเครื่องหมายนี้ให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรอด ด้วยการรับทนทรมาน ถูกตรึงบนกางเขน สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนม์ชีพ กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายที่เตือนคริสตชนให้ระลึกถึงความรักของพระเจ้าและความรอดพ้นที่พระเยซูเจ้านำมาสู่โลก ผ่านทางการมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเราบนไม้กางเขน

กางเขนยังเตือนคริสตชนให้ระลึกถึงชัยชนะของพระเยซูเจ้าเหนือบาปและความตาย ผ่านทางการสิ้นพระชนม์บนกางเขนและการกลับคืนชีพ พระเยซูเจ้าทรงชนะความตายและมอบชีวิตใหม่ให้แก่เรา กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะและความรักที่ช่วยให้รอดของพระเจ้าสำหรับเราคริสตชน นอกนั้น กางเขนยังเป็นเครื่องหมายแห่งการให้อภัย ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงกระทำสิ่งนี้ในห้วงเวลาที่กำลังทรมานอย่างแสนสาหัสบนกางเขน ด้วยการวอนขอพระบิดาให้อภัยผู้ที่ประหารพระองค์ “พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” (ลก 23:34)

2.           บทเรียนสำหรับเรา

โอกาสฉลองเทิดทูนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า และเมื่อมองดูกางเขนของพระองค์ เราได้บทเรียนที่สำคัญอะไรบ้าง

ประการแรก  จงมีความถ่อมตน กางเขนของพระเยซูเจ้าสะท้อนให้เห็นถึงการถ่อมตนจนถึงที่สุดของพระองค์เพื่อช่วยเราให้รอด เราในฐานะเป็นศิษย์ของพระองค์ต้องมีใจสุภาพถ่อมตน ปฏิเสธตัวเอง ไม่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง หรือสำคัญผิดว่าตัวเองคือความถูกต้อง แต่ให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุด “พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้นส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง (ยน 3:30)

ประการที่สอง จงเทิดทูนไม้กางเขน ทุกวันนี้มีการประดับกางเขนด้วยเพชร นิล จินดา แต่เครื่องประดับที่มีค่าที่สุดคือ การช่วยให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความรักและการช่วยให้รอดของพระเจ้าบนไม้กางเขน พระเยซูเจ้าได้ชนะบาปและความตายแล้ว มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่สามารถช่วยเราให้ได้รับชัยชนะและเดินในหนทางที่ถูกต้อง

ประการที่สาม จงดำเนินชีวิตบนหนทางแห่งไม้กางเขน ทุกครั้งที่เรามองดูกางเขนหรือทำสำคัญมหากางเขน ต้องเตือนตัวเราให้เลียนแบบพระเยซูเจ้า ผู้ถูกตรึงกางเขน บนเส้นทางแห่งการรับใช้ ความรักและการให้อภัยอย่างหาที่สุดมิได้  พระเจ้ามิได้ส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อพิพากษาโลก แต่เพื่อช่วยโลกให้รอด เราจึงไม่ควรบ่นว่าหรือตำหนิกันและกัน  แต่สนับสนุนส่งเสริมและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

บทสรุป

พี่น้องที่รัก การฉลองเทิดทูนไม้กางเขน เตือนใจเราให้ตระหนักถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อเรา ผ่านทางกางเขนของพระเยซูเจ้าเราได้รับการช่วยให้รอด กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรอด บ่อเกิดแห่งชีวิต การให้อภัยและพระทัยเมตตาของพระเจ้า ที่เราจะต้องแบกด้วยความยินดี เพื่อช่วยโลกให้ตระหนักถึงความรักของพระคริสตเจ้าที่ถูกตรึงเพื่อความรอดของทุกคน

พระเยซูเจ้าทรงไถ่เราด้วยกางเขนศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และทรงเปลี่ยนเครื่องหมายแห่งความตายในสมัยนั้นให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรอดนิรันดร ให้เราได้เทิดทูนกางเขนและนำเครื่องหมายที่นำความรอดนี้ไปสู่ทุกคน เพื่อช่วยทุกคนให้ได้พบความรักของพระเจ้าและความรอดนิรันดร ผ่านทางแบบอย่างชีวิตของเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com

วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
13 กันยายน 2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น