กางเขน เครื่องหมายแห่งความรอด
14 กันยายน
ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน
ของพระเยซูเจ้า
|
กดว 21:4-9
ฟป 2:6-11
ยน 3:13-17
|
บทนำ
ปัจจุบัน กางเขนได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคริสตชนทั่วโลกที่เราพบเห็นอยู่ทั่วไป
เช่น บนยอดวัด หลุมฝังศพ หรือซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านคริสตชน เมื่อเราเห็นใครทำเครื่องหมายกางเขน
เช่น นักกีฬาทำเครื่องหมายกางเขนก่อนลงสนามหรือเริ่มการแข่งขัน
เราทราบทันทีว่าเขาเป็นคริสตชน นอกนั้น กางเขนยังได้กลายเป็นเครื่องประดับที่แพร่หลายซึ่งผู้คนสวมใส่ตามแฟชั่น
อาทิ สร้อยคอ ต่างหู ที่เราพบเห็นกันทั่วไปในหมู่ดารา นักแสดง นักร้อง แม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นคริสตชนก็ตาม
วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนที่เราฉลองในวันที่ 14 กันยายนของทุกปี
เป็นการเทิดเกียรติกางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเยซูเจ้าได้สิ้นพระชนม์ด้วยความรักต่อมนุษย์
เพื่อนำความรอดพ้นมาสู่โลก กางเขนของพระเยซูเจ้าจึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด
การฉลองเทิดทูนไม้กางเขนเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 4 เริ่มจากการที่พระนางเฮเลนา
(นักบุญเฮเลนา)
พระมารดาของจักรพรรดิคอนสแตนตินได้ค้นพบกางเขนของพระเยซูเจ้าอย่างอัศจรรย์
ขณะไปแสวงบุญที่เยรูซาเลม เมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 326
ต่อมาภายหลังจักรพรรดิคอนสแตนตินได้สร้างวิหารขึ้น 2 หลัง
บนเนินกัลวารีโอและ ณ สถานที่ฝังพระศพของพระเยซูเจ้า
และโปรดให้มีการเฉลิมฉลองในวันที่ 13 และ 14 กันยายน ส่วนการฉลองนี้เป็นที่แพร่หลายในพระศาสนจักรตะวันตกในศตวรรษที่ 7
หลังจากจักรพรรดิเฮราคลิอุสแห่งคอนสแตนติโนเปิล
ได้ยึดครองกางเขนของพระเยซูเจ้าคืนจากพวกเปอร์เซีย และนำกลับกรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า
ในพระวรสาร
พระเยซูเจ้าตรัสกับเราถึงการที่พระองค์จะถูกยกขึ้นบนกางเขน เพื่อช่วยเราให้รอดพ้น
โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่โมเสสได้ยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดาร
อันเนื่องมาจากการถูกงูพิษกัดเพราะการบ่นว่าพระเจ้าของชาวอิสราแอล
การถูกยกขึ้นบนกางเขนของพระองค์ได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์
ที่พระเจ้าทรงเรียกมาเพื่อรับใช้และสรรเสริญพระองค์ ดังที่นักบุญยอห์นบอกเราว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก
จึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร”
(ยน 3:16)
ในอดีต
กางเขนคือเครื่องประหารที่ชาวโรมันใช้ประหารนักโทษอุฉกรรจ์
กางเขนจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการทรมาน ความตาย ความพ่ายแพ้และการดูหมิ่นเหยียดหยาม ที่ทุกคนหวาดกลัวและขยะแขยง
พระเยซูเจ้าได้แปรเปลี่ยนเครื่องหมายนี้ให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรอด
ด้วยการรับทนทรมาน ถูกตรึงบนกางเขน สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนม์ชีพ
กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายที่เตือนคริสตชนให้ระลึกถึงความรักของพระเจ้าและความรอดพ้นที่พระเยซูเจ้านำมาสู่โลก
ผ่านทางการมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเราบนไม้กางเขน
กางเขนยังเตือนคริสตชนให้ระลึกถึงชัยชนะของพระเยซูเจ้าเหนือบาปและความตาย
ผ่านทางการสิ้นพระชนม์บนกางเขนและการกลับคืนชีพ
พระเยซูเจ้าทรงชนะความตายและมอบชีวิตใหม่ให้แก่เรา กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะและความรักที่ช่วยให้รอดของพระเจ้าสำหรับเราคริสตชน
นอกนั้น กางเขนยังเป็นเครื่องหมายแห่งการให้อภัย
ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงกระทำสิ่งนี้ในห้วงเวลาที่กำลังทรมานอย่างแสนสาหัสบนกางเขน
ด้วยการวอนขอพระบิดาให้อภัยผู้ที่ประหารพระองค์ “พระบิดาเจ้าข้า
โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” (ลก 23:34)
2.
บทเรียนสำหรับเรา
โอกาสฉลองเทิดทูนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า
และเมื่อมองดูกางเขนของพระองค์ เราได้บทเรียนที่สำคัญอะไรบ้าง
ประการแรก จงมีความถ่อมตน กางเขนของพระเยซูเจ้าสะท้อนให้เห็นถึงการถ่อมตนจนถึงที่สุดของพระองค์เพื่อช่วยเราให้รอด
เราในฐานะเป็นศิษย์ของพระองค์ต้องมีใจสุภาพถ่อมตน ปฏิเสธตัวเอง
ไม่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง หรือสำคัญผิดว่าตัวเองคือความถูกต้อง
แต่ให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต
มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุด “พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้นส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง” (ยน 3:30)
ประการที่สอง จงเทิดทูนไม้กางเขน ทุกวันนี้มีการประดับกางเขนด้วยเพชร
นิล จินดา แต่เครื่องประดับที่มีค่าที่สุดคือ การช่วยให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความรักและการช่วยให้รอดของพระเจ้าบนไม้กางเขน
พระเยซูเจ้าได้ชนะบาปและความตายแล้ว มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่สามารถช่วยเราให้ได้รับชัยชนะและเดินในหนทางที่ถูกต้อง
ประการที่สาม จงดำเนินชีวิตบนหนทางแห่งไม้กางเขน
ทุกครั้งที่เรามองดูกางเขนหรือทำสำคัญมหากางเขน ต้องเตือนตัวเราให้เลียนแบบพระเยซูเจ้า
ผู้ถูกตรึงกางเขน บนเส้นทางแห่งการรับใช้ ความรักและการให้อภัยอย่างหาที่สุดมิได้ พระเจ้ามิได้ส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อพิพากษาโลก
แต่เพื่อช่วยโลกให้รอด เราจึงไม่ควรบ่นว่าหรือตำหนิกันและกัน แต่สนับสนุนส่งเสริมและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
การฉลองเทิดทูนไม้กางเขน
เตือนใจเราให้ตระหนักถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อเรา
ผ่านทางกางเขนของพระเยซูเจ้าเราได้รับการช่วยให้รอด กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรอด
บ่อเกิดแห่งชีวิต การให้อภัยและพระทัยเมตตาของพระเจ้า
ที่เราจะต้องแบกด้วยความยินดี
เพื่อช่วยโลกให้ตระหนักถึงความรักของพระคริสตเจ้าที่ถูกตรึงเพื่อความรอดของทุกคน
พระเยซูเจ้าทรงไถ่เราด้วยกางเขนศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
และทรงเปลี่ยนเครื่องหมายแห่งความตายในสมัยนั้นให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรอดนิรันดร
ให้เราได้เทิดทูนกางเขนและนำเครื่องหมายที่นำความรอดนี้ไปสู่ทุกคน
เพื่อช่วยทุกคนให้ได้พบความรักของพระเจ้าและความรอดนิรันดร
ผ่านทางแบบอย่างชีวิตของเรา
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
13 กันยายน 2011
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น