พระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล
วันที่ 8 ธันวาคม
สมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล
ปี A B C
|
ปฐก 3:9-15,
20
อฟ 1:3-6
ลก 1:26-38
|
บทนำ
เราทุกคนทราบดีถึงเรื่องที่บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่ง
ซึ่งถูกจับได้ขณะทำผิดประเวณีมาหาพระเยซูเจ้า และถามพระองค์ว่าจะให้ทำอย่างไรกับหญิงนั้น
เพราะตามกฎของโมเสสนางจะต้องถูกทุ่มหินให้ตาย พระเยซูเจ้าทรงก้มลงใช้นิ้วเขียนที่พื้นเหมือนไม่สนใจ
เมื่อพวกเขายังคงเซ้าซี้เพื่อให้ได้คำตอบ ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นและตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป
จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” (ยน 8:7)
เหตุการณ์ที่ตามมาอย่างที่ผู้นิพนธ์พระวรสารเล่าคือ
พวกเขาเริ่มเดินออกไปทีละคนเริ่มจากผู้อาวุโสก่อน
เพราะทุกคนล้วนเคยทำบาปมาด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งคนที่อายุมากด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าตนเองเคยประพฤติผิดมากกว่าใคร
จากเหตุการณ์นี้คือที่มาของเรื่องเล่ากันสนุกๆ ว่า หลังจากนั้นมีก้อนหินขว้างมายังหญิงที่ถูกจับได้เต็มๆ
จนเธอร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด ทุกคนรวมทั้งพระเยซูเจ้าหันมองไปยังที่มาของก้อนหิน
เป็นแม่พระนั่นเอง จนพระเยซูเจ้าต้องเอ่ยปากห้ามว่า “ขอทีเถอะ คุณแม่
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณแม่”
แม้เป็นเรื่องเล่าสนุกๆ แต่ก็สะท้อนความจริงที่ว่า
แม่พระเป็นผู้บริสุทธิ์ ปราศจากมลทินบาปใดๆ ดังที่เราเฉลิมฉลองในวันนี้
ซึ่งเป็นข้อความเชื่อที่สำคัญที่เตือนใจเราว่า
การปราศจากมลทินบาปของแม่พระไม่ได้มาจากฤทธิ์อำนาจของพระนาง แต่เป็นพระหรรษทานของพระเจ้าที่ประทานแก่แม่พระตั้งแต่วินาทีแรกที่ปฏิสนธิในครรภ์มารดา
1. พระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล
ความเชื่อว่าแม่พระเป็นผู้ปฎิสนธินิรมล
มีมาช้านานในพระศาสนจักร ในปี ค.ศ. 1215 สังคายนาแห่งลาเตรัน ครั้งที่ 4
ได้ประกาศว่า “พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์ พรมจารีเสมอ
ด้วยเดชะพระจิตเจ้า” ต่อมาในปี ค.ศ. 1555 พระสันตะปาปาเปาโลที่
5 ได้ยืนยันความเป็นพรมจารีของแม่พระทั้ง “ก่อนการเกิด
ระหว่างการเกิด และหลังจากการเกิด ตลอดไป”
กระทั่งปี ค.ศ. 1854 สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ได้ประกาศข้อความเชื่อเรื่อง
“การปฏิสนธินิรมลของพระนางมารีย์” เพื่อยืนยันความเชื่อที่ว่าแม่พระเกิดมาโดยปราศจากบาป
นั่นหมายความว่า แม่พระได้รับการยกเว้นจากบาปกำเนิดซึ่งมนุษย์ทุกคนมีอันเนื่องมาจากอาดัม
พระเจ้าได้ประทานสิทธิพิเศษแก่แม่พระในฐานะที่เป็นมารดาของพระเจ้าตั้งแต่เวลาที่ปฏิสนธิในครรภ์ของมารดา
ในปี ค.ศ. 1858 แม่พระได้ยืนยันกับเด็กหญิงอายุ 14 ปีที่ชื่อแบร์นาแด็ท
ในการประจักษ์มาที่ลูร์ด ประเทศฝรั่งเศสว่า “ฉันคือผู้ปฏิสนธินิรมล”
เท่ากับเป็นการยืนยันข้อความเชื่อที่พระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ประกาศเมื่อสี่ปีก่อน
(ค.ศ. 1854) ข้อความเชื่อนี้บอกให้เราทราบถึงสิ่งที่แม่พระเป็น
และทำให้เราทราบถึงพระญาณสอดส่องแห่งความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์ผ่านทางแม่พระ
โดยทรงปกป้องพระนางให้เป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง สมกับการเป็นมารดาของพระเจ้า และพระผู้ไถ่กู้ประชากรของพระองค์ให้รอด
2. บทเรียนสำหรับเรา
แม่พระได้น้อมรับแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไข
“ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด”
(ลก 1:38)
ไม่ใช่เพียงในเวลาที่ได้รับแจ้งข่าวจากเทวทูตของพระเจ้าเท่านั้น
แต่ตลอดชีวิตของพระนาง แม้ในเวลาที่ยืนอยู่แทบเชิงกางเขน
พระนางได้ร่วมส่วนในแผนการไถ่กู้มนุษย์ของพระเจ้า
สิ่งนี้เอง
ทำให้แม่พระยิ่งใหญ่ต่อหน้าพระเจ้า และได้รับพระหรรษทานพิเศษจากพระเจ้า ดังนั้น
ในวันนี้ที่เราสมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล
เราจึงถูกเรียกร้องให้ติดตามแม่พระในการมอบตนเองทั้งครบ
และในความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระเจ้า ท่าทีของแม่พระที่พร้อมจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
จะต้องเตือนใจเราเสมอว่า “ข้าพเจ้าพร้อมแล้วพระเจ้าข้า
ข้าพเจ้ายินดีทำตามน้ำพระทัย”
แม่พระจึงเป็นแบบอย่างของเรา
ที่นำเราให้เข้ามาหาพระเยซูเจ้าอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้เพราะแม่พระเป็นเครื่องหมายแห่งความรอด ศีลศักดิ์สิทธิ์
และที่มาแห่งความหวังสำหรับเรา แม่พระได้สอนเราให้รู้จักที่จะแบ่งปันพระหรรษทานและพระเกียรติมงคลของพระเจ้า
ดังนั้น
ให้เราฟื้นฟูความเชื่อของเราในเทศกาลเตรียมรับเสด็จนี้
และดำเนินชีวิตตามพระวรสารตามแบบอย่างของแม่พระ
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ท่าทีที่เราควรแสดงออกต่อแม่พระคือขอบคุณพระเจ้าและยอมมอบตนต่อพระนางด้วยความถ่อมตน
เพราะแม่พระคือแบบอย่างที่ดีที่สุดสำหรับการเจริญชีวิตในเรื่องความเชื่อ ความวางใจ
และความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระเจ้า ดังนั้น เราคริสตชนจึงต้องเลียนแบบอย่างชีวิตแม่พระ
และภาวนาวอนขอพระพรจากพระเจ้าผ่านทางแม่พระ เพื่อเราจะสามารถสู้ทนกับความยากลำบากต่างๆ
ในชีวิต และดำเนินชีวิตตามแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าเช่นเดียวกับแม่พระ มารดาของพระเยซูเจ้า และแม่ของชาวเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
สำนักอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง7 ธันวาคม 2010
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น