วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล


พระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล

วันที่ 8 ธันวาคม
สมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล
ปี A B C
ปฐก 3:9-15, 20
อฟ 1:3-6
ลก 1:26-38

บทนำ

เราทุกคนทราบดีถึงเรื่องที่บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่ง ซึ่งถูกจับได้ขณะทำผิดประเวณีมาหาพระเยซูเจ้า และถามพระองค์ว่าจะให้ทำอย่างไรกับหญิงนั้น เพราะตามกฎของโมเสสนางจะต้องถูกทุ่มหินให้ตาย พระเยซูเจ้าทรงก้มลงใช้นิ้วเขียนที่พื้นเหมือนไม่สนใจ เมื่อพวกเขายังคงเซ้าซี้เพื่อให้ได้คำตอบ ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นและตรัสว่า ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” (ยน 8:7)

เหตุการณ์ที่ตามมาอย่างที่ผู้นิพนธ์พระวรสารเล่าคือ พวกเขาเริ่มเดินออกไปทีละคนเริ่มจากผู้อาวุโสก่อน เพราะทุกคนล้วนเคยทำบาปมาด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งคนที่อายุมากด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าตนเองเคยประพฤติผิดมากกว่าใคร จากเหตุการณ์นี้คือที่มาของเรื่องเล่ากันสนุกๆ ว่า หลังจากนั้นมีก้อนหินขว้างมายังหญิงที่ถูกจับได้เต็มๆ จนเธอร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด ทุกคนรวมทั้งพระเยซูเจ้าหันมองไปยังที่มาของก้อนหิน เป็นแม่พระนั่นเอง จนพระเยซูเจ้าต้องเอ่ยปากห้ามว่า “ขอทีเถอะ คุณแม่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณแม่”

แม้เป็นเรื่องเล่าสนุกๆ แต่ก็สะท้อนความจริงที่ว่า แม่พระเป็นผู้บริสุทธิ์ ปราศจากมลทินบาปใดๆ ดังที่เราเฉลิมฉลองในวันนี้ ซึ่งเป็นข้อความเชื่อที่สำคัญที่เตือนใจเราว่า การปราศจากมลทินบาปของแม่พระไม่ได้มาจากฤทธิ์อำนาจของพระนาง แต่เป็นพระหรรษทานของพระเจ้าที่ประทานแก่แม่พระตั้งแต่วินาทีแรกที่ปฏิสนธิในครรภ์มารดา

1.  พระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล

ความเชื่อว่าแม่พระเป็นผู้ปฎิสนธินิรมล มีมาช้านานในพระศาสนจักร  ในปี ค.ศ. 1215 สังคายนาแห่งลาเตรัน ครั้งที่ 4 ได้ประกาศว่า “พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์ พรมจารีเสมอ ด้วยเดชะพระจิตเจ้า” ต่อมาในปี ค.ศ. 1555 พระสันตะปาปาเปาโลที่ 5 ได้ยืนยันความเป็นพรมจารีของแม่พระทั้ง “ก่อนการเกิด ระหว่างการเกิด และหลังจากการเกิด ตลอดไป”

กระทั่งปี ค.ศ. 1854 สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ได้ประกาศข้อความเชื่อเรื่อง “การปฏิสนธินิรมลของพระนางมารีย์” เพื่อยืนยันความเชื่อที่ว่าแม่พระเกิดมาโดยปราศจากบาป นั่นหมายความว่า แม่พระได้รับการยกเว้นจากบาปกำเนิดซึ่งมนุษย์ทุกคนมีอันเนื่องมาจากอาดัม พระเจ้าได้ประทานสิทธิพิเศษแก่แม่พระในฐานะที่เป็นมารดาของพระเจ้าตั้งแต่เวลาที่ปฏิสนธิในครรภ์ของมารดา

ในปี ค.ศ. 1858 แม่พระได้ยืนยันกับเด็กหญิงอายุ 14 ปีที่ชื่อแบร์นาแด็ท ในการประจักษ์มาที่ลูร์ด ประเทศฝรั่งเศสว่า “ฉันคือผู้ปฏิสนธินิรมล” เท่ากับเป็นการยืนยันข้อความเชื่อที่พระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ประกาศเมื่อสี่ปีก่อน (ค.ศ. 1854) ข้อความเชื่อนี้บอกให้เราทราบถึงสิ่งที่แม่พระเป็น และทำให้เราทราบถึงพระญาณสอดส่องแห่งความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์ผ่านทางแม่พระ โดยทรงปกป้องพระนางให้เป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง สมกับการเป็นมารดาของพระเจ้า และพระผู้ไถ่กู้ประชากรของพระองค์ให้รอด

2.  บทเรียนสำหรับเรา

แม่พระได้น้อมรับแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไข “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก 1:38) ไม่ใช่เพียงในเวลาที่ได้รับแจ้งข่าวจากเทวทูตของพระเจ้าเท่านั้น แต่ตลอดชีวิตของพระนาง แม้ในเวลาที่ยืนอยู่แทบเชิงกางเขน พระนางได้ร่วมส่วนในแผนการไถ่กู้มนุษย์ของพระเจ้า

สิ่งนี้เอง ทำให้แม่พระยิ่งใหญ่ต่อหน้าพระเจ้า และได้รับพระหรรษทานพิเศษจากพระเจ้า ดังนั้น ในวันนี้ที่เราสมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล เราจึงถูกเรียกร้องให้ติดตามแม่พระในการมอบตนเองทั้งครบ และในความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระเจ้า ท่าทีของแม่พระที่พร้อมจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า จะต้องเตือนใจเราเสมอว่า “ข้าพเจ้าพร้อมแล้วพระเจ้าข้า ข้าพเจ้ายินดีทำตามน้ำพระทัย”

แม่พระจึงเป็นแบบอย่างของเรา ที่นำเราให้เข้ามาหาพระเยซูเจ้าอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เพราะแม่พระเป็นเครื่องหมายแห่งความรอด ศีลศักดิ์สิทธิ์ และที่มาแห่งความหวังสำหรับเรา แม่พระได้สอนเราให้รู้จักที่จะแบ่งปันพระหรรษทานและพระเกียรติมงคลของพระเจ้า  ดังนั้น ให้เราฟื้นฟูความเชื่อของเราในเทศกาลเตรียมรับเสด็จนี้ และดำเนินชีวิตตามพระวรสารตามแบบอย่างของแม่พระ

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ท่าทีที่เราควรแสดงออกต่อแม่พระคือขอบคุณพระเจ้าและยอมมอบตนต่อพระนางด้วยความถ่อมตน เพราะแม่พระคือแบบอย่างที่ดีที่สุดสำหรับการเจริญชีวิตในเรื่องความเชื่อ ความวางใจ และความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระเจ้า ดังนั้น เราคริสตชนจึงต้องเลียนแบบอย่างชีวิตแม่พระ และภาวนาวอนขอพระพรจากพระเจ้าผ่านทางแม่พระ เพื่อเราจะสามารถสู้ทนกับความยากลำบากต่างๆ ในชีวิต และดำเนินชีวิตตามแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าเช่นเดียวกับแม่พระ มารดาของพระเยซูเจ้า และแม่ของชาวเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
สำนักอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง
7 ธันวาคม 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น