วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ดวงตาแห่งความเชื่อ

ดวงตาแห่งความเชื่อ
วันเสาร์
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา
กจ 13:44-52
ยน 14:7-14
การสนทนาระหว่างพระเยซูเจ้ากับฟิลิปในพระวรสารวันนี้ เป็นตอนหนึ่งของคำสอนในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับบรรดาอัครสาวก คำตอบของพระเยซูเจ้าได้บอกให้เราทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูเจ้ากับพระบิดาเจ้า ที่ทรงเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแน่นแฟ้น ใครที่เห็นพระองค์ก็เห็นพระบิดาเจ้า นี่คือความจริงพื้นฐานที่ศิษย์ของพระองค์ควรเชื่อและเข้าใจนานแล้ว (แต่สำหรับชาวยิวนี่ถือเป็นเรื่องสะดุดอย่างร้ายแรง)
พระเยซูเจ้าได้อธิบายให้ฟิลิปและเราได้เข้าใจอีกครั้งว่า “ท่านทั้งหลายจงเชื่อเราเถิดว่าเราดำรงอยู่ในพระบิดา และพระบิดาก็ทรงดำรงอยู่ในเรา หรืออย่างน้อยท่านทั้งหลาย จงเชื่อเพราะกิจการเหล่านี้เถิด” (ยน 14:11) พระองค์ได้แสดงให้เห็นถึงงานและพระวาจาของพระบิดาเจ้า ด้วยการเทศน์สอนและกระทำการอัศจรรย์ต่างๆ มากมาย ซึ่งศิษย์ของพระองค์ต้องมองด้วยดวงตาแห่งความเชื่อ
พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องความเชื่อจากบรรดาอัครสาวกและศิษย์ของพระองค์ ภายหลังจากได้รับพระจิตเจ้า ฟิลิปได้เจริญชีวิตตามความเชื่อและได้เป็นพยานถึงความเชื่อนี้ด้วยชีวิตของท่าน โดยการถูกตรึงกางเขนที่เอเชียน้อย ซึ่งบรรดาอัครสาวกต่างได้เป็นพยานถึงความเชื่อนี้ และเราคริสตชนถูกเรียกร้องให้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อนี้เช่นกัน เราต้องเป็นดังกระจกเงาที่สะท้อนภาพของพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวัน
พระเยซูเจ้ายังตรัสด้วยว่า “ผู้ที่เชื่อในเราก็จะทำกิจการที่เรากำลังทำอยู่ด้วย และจะทำกิจการที่ใหญ่กว่านั้นอีก” (ยน 14:12) นั่นหมายความว่า ความเชื่อที่เรามีต้องแสดงออกในภาคปฏิบัติ ด้วยการเลียนแบบอย่างของพระองค์ ในความรัก ความเมตตา และการรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยใจกว้าง นี่คือความเชื่อที่มีชีวิตและเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งพระศาสนจักรต้องการจากบรรดาคริสตชนมากที่สุดในปัจจุบัน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com

San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
12 พฤษภาคม 2017
ที่มาของภาพ: https://christianlifemissions.org/wp-content/uploads/2015/02/Faith-Statement-Pic.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น