วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

นี่คือลูกแกะของพระเจ้า



นี่คือลูกแกะของพระเจ้า
สัปดาห์ที่ 2
เทศกาลธรรมดา
ปี A
อสย 49:3, 5-6
1 คร 1:1-3
ยน 1:29-34
บทนำ
นักท่องเที่ยวคนหนึ่งไปเยี่ยมชมวัดหนึ่งในประเทศเยอรมัน เขาแปลกใจมากที่เห็นรูปแกะสลักเป็นรูปลูกแกะบนยอดสุดของหอระฆัง เขาจึงถามมัคคุเทศก์ว่าทำไมจึงทำไว้ตรงนั้นและได้รับคำอธิบายว่า เมื่อแรกสร้างวัดนั้น คนงานได้พลัดตกลงมาจากนั่งร้านตรงจุดนั้น เพื่อนคนงานต่างวิ่งไปหาเขาและคิดว่าเขาคงตายแน่ แต่พวกเขาต้องแปลกใจระคนดีใจที่พบว่า เขายังมีชีวิตอยู่และได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
เขารอดชีวิตเพราะมีฝูงแกะผ่านมาตรงจุดนั้นพอดี เขาหล่นลงบนตัวแกะทำให้แกะตายแต่เขารอดชีวิต เพื่อระลึกถึงการรอดชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ในวันนั้น จึงได้สลักรูปลูกแกะบนหอระฆังตรงจุดที่เขาร่วงลงมา รูปลูกแกะบนหอระฆังที่ช่วยชีวิตคนให้รอดตาย คล้ายกับถ้อยคำที่ยอห์นบัปติสต์กล่าวในพระวรสารวันนี้ “นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก” (ยน 1: 29)
ในพระวรสาร ยอห์น บัปติสต์ได้บอกประชาชนว่าพระเยซูเจ้าเป็นใคร และอะไรคือพันธกิจของพระองค์ พระเยซูเจ้าเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรเพื่อลบล้างบาปของโลก พระองค์ทรงเป็น “ผู้รับใช้ของพระเจ้า” ที่ประกาศกอิสยาห์พูดถึงในบทอ่านแรก ซึ่งจะเป็นผู้รวบรวมทุกเผ่าของอิสราแอลให้กลับมาหาพระเจ้า  เพราะพระองค์เป็น “แสงสว่างส่องนานาชาติ” ที่นำความรอดพ้นมาสู่ทุกคนจนสุดปลายแผ่นดิน

1.         นี่คือลูกแกะของพระเจ้า
คำว่า “ลูกแกะของพระเจ้า” เป็นคำที่ใช้สื่อถึงพระเยซูเจ้าที่มีความหมายมากที่สุดในพระคัมภีร์ หนังสือวิวรณ์ได้ใช้คำนี้ถึง 29 ครั้ง ซึ่งเป็นคำสรุปที่บอกให้ทราบถึงความรัก การบูชาและชัยชนะของพระเยซูเจ้า ยอห์นได้เป็นพยานถึงพระเยซูเจ้า โดยชี้ให้เห็นว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก เรามนุษย์เกิดมาในบาปและบาปนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งแห่งชีวิตของเรา ทำให้เราถูกตัดขาดจากพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง เป็นเหมือนกับบาดแผลที่ทำให้เราทุกข์ทรมานและต้องการการเยียวยารักษาให้หาย
นี่คือเหตุผลที่พระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลก เพื่อสถาปนาสัมพันธภาพแห่งรัก ระหว่างเรากับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องให้กลับมาอีกครั้ง พระองค์เสด็จมาในโลกเพื่อประทับท่ามกลางคนบาป ทรงเสาะแสวงหาคนที่สูญเสียและถูกทอดทิ้ง ทำให้พวกเขาตระหนักว่าพวกเขามีคุณค่ายิ่งใหญ่ต่อหน้าพระเจ้า และนำพวกเขาให้กลับมีความสัมพันธ์อันดีกับพระเจ้าอีกครั้ง
ข่าวที่พระเยซูเจ้าประกาศจึงเป็นข่าวดีแห่งการช่วยให้รอดสำหรับมนุษยชาติ พระองค์ได้สถาปนาอาณาจักรแห่งความรักของพระเจ้าให้บังเกิดขึ้นในใจเรา ในสังคมและหมู่คณะของเรา พระองค์ทรงเสด็จมาเพื่อนำทุกคนให้กลับไปเป็นหนึ่งเดียวกัน กลายเป็นประชากรใหม่ของพระเจ้า ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แต่ชาวยิวเท่านั้น แต่สำหรับมนุษยชาติ

2.         บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในสัปดาห์นี้ ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องเจริญชีวิตและตายเยี่ยงลูกแกะของพระเจ้า การเจริญชีวิตเหมือนลูกแกะคือการดำเนินชีวิตในความซื่อบริสุทธิ์ สุภาพถ่อมตน ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรักของพระคริสต์เจ้าโดยปราศจากความเห็นแก่ตัว การตายเยี่ยงลูกแกะคือการแบ่งปันพระพร ความรู้ความสามารถและสิ่งที่เรามีกับผู้อื่นในครอบครัว สังคมและหมู่คณะ และร่วมทรมานกับพระเยซูเจ้าในความเจ็บป่วยและความทุกข์ทรมานต่างๆ อีกทั้งมอบถวายความทรมานของเราเพื่อความรอดของวิญญาณ เพื่อชดเชยบาปของเราและผู้อื่น
ประการที่สอง เราต้องเป็นพยานถึงลูกแกะของพระเจ้า การเป็นศิษย์พระคริสตเจ้าหมายถึงการเติบโตในความเชื่อเพื่อเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้าลูกแกะของพระเจ้า ซึ่งต้องเป็นกิจการที่มีชีวิตชีวาในความสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ รู้จักและมีประสบการณ์กับพระองค์ในแบบที่ลึกซึ้ง ผ่านทางการอ่านพระคัมภีร์ การภาวนา การรับศีลศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเราจะสามารถนำพระพรแห่งความรัก สันติสุข ความยุติธรรม ความเพียรทนและความเมตตากรุณาแบบลูกแกะของพระเจ้าไปสู่ผู้อื่นในชีวิตประจำวัน
ประการที่สาม เราต้องเป็น “ผู้รับใช้ของพระเจ้า” คริสตชนแต่ละคนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และทำหน้าที่ของการเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าให้สมบูรณ์ หากเราต้องการเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า ไม่เพียงรู้ว่าพระองค์เป็นใครสำหรับเรา แต่เราจะต้องสานต่อพันธกิจของพระองค์ในโลกให้สำเร็จสมบูรณ์ ด้วยการเจริญชีวิตตามพระวรสาร ช่วยให้คนอื่นได้รู้ถึงข่าวดีแห่งพระวรสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความรักต่อกัน การให้อภัยและการปฏิบัติต่อกันเหมือนพี่น้อง กระทั่งยอมรับข่าวดีนี้เป็นส่วนหนึ่งแห่งชีวิตของเขา

บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเป็น “ผู้รับใช้ของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก” พระองค์ทรงเป็นแสงสว่างส่องโลก พระองค์ต้องการให้เราแต่ละคนได้มีประสบการณ์แห่งการช่วยให้รอดของพระองค์ และเข้าในอาณาจักรของพระเจ้าที่พระองค์ได้เริ่มต้นขึ้น เพื่อนำทุกคนให้กลับไปหาพระเจ้าพระผู้สร้าง เราแต่ละคนได้รับการเรียกจากพระเจ้าให้มีหน้าที่พิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หน้าที่แห่งการเป็นคริสตชน” ที่จะต้องทำให้พระเยซูเจ้าเป็นที่รู้จัก ในการทำให้ความรักและพระเกียรติมงคลของพระเจ้าฉายแสงในตัวเรา
พันธกิจของพระคริสตเจ้าคือพันธกิจของเรา หน้าที่ของเราไม่เพียงช่วยตัวเองให้รอดไปสวรรค์เท่านั้น แต่เราจะต้องแบ่งปันความเชื่อของเรากับคนอื่น ช่วยพวกเขาให้ได้รู้จักพระเยซูเจ้าและข่าวดีแห่งพระวรสารของพระองค์ เพื่อว่าพวกเขาจะได้มีประสบการณ์ด้วยตนเองเกี่ยวกับความรักและการให้อภัยของพระเจ้า เราสามารถทำหน้าที่นี้ได้โดยเริ่มจากในบ้านและครอบครัวของเรา ก่อนจะขยายไปสู่ผู้อื่นในที่ทำงานและที่เราพบเห็นในแต่ละวัน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
18 มกราคม 2014

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น