ความรักและการให้อภัยของพระเจ้า
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา
ปี C
|
อพย 32:7-11, 13-14
1 ทธ 1:12-17
ลก 15:1-10
|
บทนำ
ในบรรดาคำอุปมาต่างๆ ของพระเยซูเจ้าซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในพระวรสาร
มีอยู่
3 เรื่องที่เกี่ยวกับความรักและการให้อภัยของพระเจ้า
ซึ่งพบในพระวรสารของนักบุญลูกา บทที่ 15 ได้แก่
คำอุปมาเรื่อง “แกะที่พลัดหลง” “เงินเหรียญที่หายไป” และ “ลูกล้างผลาญ”
หรือบิดาผู้ใจดี บางคนถึงกับกล่าวว่า คำอุปมาสามเรื่องนี้ได้เปิดเผยให้เห็นถึงความคิดใหม่เกี่ยวกับพระเจ้า
ที่เสาะหาคนบาปที่ผิดหลงให้ได้รับความรอด
คำอุปมาทั้งสามเรื่องเกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่พระเยซูเจ้าถูกวิจารณ์ว่า
เป็นมิตรกับคนเก็บภาษีและคนบาปซึ่งเป็นกลุ่มคนที่สังคมรังเกียจ พระเยซูเจ้าทรงร่วมชีวิตกับคนเหล่านี้อย่างไม่รังเกียจเดียดฉันท์เหมือนอย่างคนอื่น
แต่ได้แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงรักพวกเขา การกระทำเช่นนี้ พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีรับไม่ได้
บางคนในพวกเขาจึงพูดว่า “คนนี้ต้อนรับคนบาปและกินอาหารร่วมกับเขา” (ลก
15:2)
พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสี
ถือว่าตนเองเป็นคนชอบธรรมและมุ่งหมายจะทำลายเกียรติภูมิของพระเยซูเจ้า ให้อับอายขายหน้าเพราะการปฏิบัติตนเช่นนั้น
แต่นี่คือพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าที่ทรงถ่อมพระองค์ลงมาช่วยคนบาปให้รอด
เรื่องราวในคำอุปมาทั้งสาม มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่า
การกระทำของพระเยซูเจ้านั้นถูกต้อง และเปิดเผยความรักและการให้อภัยของพระบิดาเจ้าให้ปรากฏ
ในคำอุปมาสองเรื่องแรก
พระเยซูเจ้าทรงเน้นถึงการสูญเสียและความกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งที่หายไปอย่างละเอียดถี่ถ้วน
และความชื่นชมยินดีเมื่อพบมันอีกครั้ง ในคำอุปมาเรื่องสุดท้าย
พระเยซูเจ้าทรงสอนบทเรียนเดียวกัน ด้วยการแสดงให้เห็นถึงความสุขใจอย่างล้นเหลือของบิดาเมื่อบุตรคนเล็กกลับมา
โดยเน้นที่การกลับใจของบุตรคนเล็กและท่าทีที่ไม่พอใจของบุตรชายคนโต
ซึ่งอยู่กับบิดามาโดยตลอด
1.
ความรักและการให้อภัยของพระเจ้า
ความคล้ายคลึงกันที่เห็นอย่างชัดเจนของคำอุปมาทั้งสามคือ
มีบางสิ่งบางอย่างที่หายไป คำอุปมาเรื่องแรกสิ่งที่หายไปคือ “แกะ”
เรื่องที่สอง “เงินเหรียญ” และเรื่องที่สาม “บุตรคนเล็ก” การสูญหายนี้แสดงให้เห็นถึงความทุกข์ยากของเราเมื่ออยู่ในสภาพบาปและแยกจากพระเจ้า
ในแต่ละคำอุปมาสะท้อนให้เห็นความจริงที่ว่า สิ่งที่หายไปยังคงมีคุณค่าในใจของเจ้าของ
ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นได้หายไปแล้ว
เจ้าของแกะคนหนึ่งอาจคิดว่า
คงไม่ได้แกะตัวที่หายไปกลับคืนแล้ว แต่เขายังมีแกะอีก 99 ตัว ความสูญเสียที่เกิดขึ้นคิดเป็น 1% เท่านั้น ในทำนองเดียวกัน
หญิงคนที่ทำเงินเหรียญหายไม่จำเป็นต้องค้นหาให้เหนื่อยเปล่า เพราะเพียงแค่เหรียญเดียวจากที่มีอยู่
(สิบเหรียญ) ยังมีเหลืออีกเก้าเหรียญ แต่เจ้าของทั้งสองกรณีไม่ได้ทำอย่างนั้น พวกเขายังคงขะมักเขม้นค้นหาสิ่งที่หายไปจนกว่าจะพบ
ยิ่งคนที่เป็นบิดาที่สูญเสียบุตรคนเล็กด้วยแล้วจะไม่มีทางคิดเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด
แต่เฝ้าคอยการกลับมาของบุตรชายอย่างใจจดใจจ่อ
พฤติกรรมของเจ้าของและบิดาในเรื่องสะท้อนให้เห็นว่า
สิ่งที่หายไปมีคุณค่า เจ้าของมุ่งมั่นที่จะหามันจนพบ ในคำอุปมา พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นว่า
เราแต่ละคนมีคุณค่าต่อพระเจ้าแม้ว่าจะเดินหลงทางไป พระเจ้าทรงมีความทุกข์และความพยายามมากเพียงใด
ที่จะทำให้สิ่งที่หายไปนั้นกลับมาเป็นของพระองค์อีก เพราะพระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งใครและไม่ปล่อยให้ใครสูญหาย
แต่ทรงตามหาจนกว่าจะพบ
2.
บทเรียนสำหรับเรา
คำอุปมาทั้งสามเรื่อง: “แกะที่หาย” “เงินเหรียญที่หาย” และ “บุตรที่หลงผิด” ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก
พระเจ้าทรงรักและให้อภัยมนุษย์ นั่นหมายความว่า พระเจ้าต้องการให้มนุษย์ทุกคนได้รอด
ทรงเป็นองค์ความดีบริบูรณ์ที่เสด็จมาหามนุษย์แม้คนบาปที่สุด ด้วยความรักที่เต็มเปี่ยมและพร้อมจะให้อภัย
ดังนั้น เราแต่ละคนควรตระหนักว่า พระเจ้าของเราทรงเป็นพระเจ้าที่แสนดีที่รักและให้อภัยคนบาป
อีกทั้ง ทรงประสงค์ให้เราทุกคนได้รักและให้อภัยซึ่งกันและกันด้วย
ประการที่สอง
พระเจ้าทรงต้องการคนบาป มนุษย์มีคุณค่าในตัวเอง
แม้เราจะเป็นคนบาปกระทำเคืองพระทัยพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงต้องการคนบาป แม้มนุษย์จะกระทำชั่วแต่เขายังมีคุณค่าสำหรับพระเจ้าและพระองค์ยังต้องการเขาอยู่
ดังนั้น
พระเจ้าจึงทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาในโลกเพื่อช่วยพวกเขาให้เดินในหนทางแห่งความรอด
ประการทีสาม
พระเจ้าทรงเสาะหาคนบาป ทรงประสงค์ให้ทุกคนได้กลับมาหาพระองค์
คำอุปมาทั้งสามได้แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงเสาะหาเราแม้ว่าเราจะหลงหายไปแล้ว เพื่อนำเรากลับไปหาพระเจ้า
ดังพระดำรัสที่ว่าว่า “บุตรแห่งมนุษย์มาเพื่อแสวงหาและเพื่อช่วยผู้ที่เสียไปให้รอดพ้น”
(ลก 19:10) ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำเช่นนี้ตลอดชีวิตของพระองค์ จนถึงกับยอมตายบนไม้กางเขน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
เราพบว่า “แกะหลงฝูง” เพราะความโง่เขลาไม่รู้จักคิด หากคนเรารู้จักคิดก่อนลงมือทำบ้างคงผิดหลงน้อยกว่านี้
เช่นเดียวกับ “เหรียญเงินที่หายไป” ไม่ใช่เพราะความผิดของตัวมันเอง หากแต่มีคนทำให้หาย
นั่นคือมีคนล่อลวงหรือบีบบังคับให้กระทำความผิด ขณะที่ “ลูกล้างผลาญ” เขาตั้งใจและเต็มใจหันหลังให้บิดาของเขาเอง
กระนั้นก็ดี ความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่และพร้อมที่จะให้อภัยทุกคน ไม่ว่าความผิดนั้นจะเกิดจากความโง่เขลา หรือถูกผู้อื่นล่อลวง หรือเกิดจากความตั้งใจของเขาเองก็ตาม พระเจ้าไม่จดจำความผิด แต่เพียรทนแสวงหาและรอคอยวันที่เขากลับใจมาหาพระองค์
แม้เรามนุษย์จะเป็นคนบาป
แต่เราโชคดีที่มีพระเจ้าที่ทรงรักเราและเต็มเปี่ยมไปด้วยพระทัยเมตตากรุณาอย่างหาที่สุดมิได้
ไม่ใช่เพราะเรารักพระเจ้าก่อน
หากแต่พระองค์ทรงรักเราก่อน สิ่งที่เราแต่ละคนควรกระทำคือ การสำนึกผิดและกลับใจ
เปลี่ยนแปลงชีวิตของตนจากบาปมาสู่หนทางที่ถูกต้อง เพื่อตอบสนองความรักของพระเจ้าและทำทุกอย่างเพื่อให้พระองค์ทรงพอพระทัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความรักต่อกันและให้อภัยความผิดของกันและกันด้วยใจกว้าง
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
13 กันยายน 2013
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น