พระมหาทรมานที่พระเยซูเจ้าได้รับ
วันอาทิตย์
มหาทรมาน (แห่ใบลาน)
ปี C
|
อสย 50:4-7
ฟป 2:6-11
ลก 22:14-23:56
|
บทนำ
มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่สร้างเกี่ยวกับพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า แต่ที่โด่งดังและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดคือเรื่อง “The Passion of Christ” ที่กำกับและร่วมสร้างโดย เมล กิบสัน โดยเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ที่สหรัฐอเมริกาในวันพุธรับเถ้าที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 และติดอันดับสี่หนังทำเงินตลอดกาลของสหรัฐทันทีที่เปิดฉายในวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่วนในประเทศไทยภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดฉายเมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2004
The Passion of Christ เป็นเรื่องราวเหตุการณ์ 12 ชั่วโมงสุดท้ายแห่งชีวิตของพระเยซูเจ้าชาวนาซาเร็ธ โดยเปิดฉากที่สวนเกทเสมนี สถานที่ที่พระองค์ทรงภาวนาและเข้าตรีทูตจนพระเสโทเป็นโลหิต จนถึงฉากสุดท้ายบนกางเขนที่ทรงตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าขอมอบจิตวิญญาณของข้าพเจ้าไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” (ลก 23:46) เมื่อตรัสดังนี้แล้วก็สิ้นพระชนม์ ทำให้ทองฟ้ามืดมัวม่านในพระวิหารฉีกขาด
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้พยายามนำเสนอความเป็นจริงเกี่ยวกับพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า โดยเรียบเรียงจากพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่โดยเฉพาะพระวรสารทั้งสี่ มีการศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์และธรรมประเพณีในสมัยนั้นอย่างละเอียด ภาพที่ออกมาจึงสมจริงจนหลายคนทนดูไม่ได้ เพราะความทารุณโหดร้ายที่พระเยซูเจ้าได้รับ แต่นี่คือ ภาพยนตร์ที่สะท้อนเหตุการณ์จริงที่เกิดกับพระเยซูเจ้ามากที่สุด
วันนี้พระศาสนจักรให้เราทำการฉลองอาทิตย์ใบลานหรืออาทิตย์พระมหาทรมาน ซึ่งเป็นการเข้าสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์และต้อนรับพระเยซูเจ้าเข้ามาในชีวิตของเรา อีกทั้งมีส่วนในการแบ่งปันพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระองค์ พิธีกรรมในวันนี้จึงมีทั้งความยินดีและความเศร้าโศก ใบลานที่เราแห่ในวันนี้ยังหมายถึงการเดินทางของเราพร้อมกับพระเยซูเจ้า ร่วมในพระมหาทรมานของพระองค์เพื่อจะได้กลับคืนชีพและอยู่กับพระองค์ตลอดไป
1. พระมหาทรมานที่พระเยซูเจ้าได้รับ
พระเยซูเจ้าไม่เพียงมีชีวิตในยุคที่มีความรุนแรง แต่พระองค์ยังทรงเป็นเหยื่อของความรุนแรงด้วย พระองค์ทรงน้อมรับความความรุนแรงโหดร้ายของการทรมานเหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า พระมหาทรมานของพระองค์ที่เราระลึกถึงในวันนี้ ได้กลายเป็นแหล่งพลังและความเข้มแข็งของผู้คนเป็นจำนวนมากตลอดประวัติศาสตร์ เมื่อเราพิจารณาดูพระมหาทรมานของพระองค์อย่างลึกซึ้ง เราจะเห็นถึงความทุกข์ทรมานของพระองค์ใน 3 ลักษณะ
ประการแรก ความทรมานทางด้านจิตใจ พระเยซูเจ้าทรงถูกยูดาสทรยศ เหตุการณ์ที่สวนเกทเสมนีได้แสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงอยู่ในห้วงความทุกข์อย่างแสนสาหัส ขณะกำลังอธิษฐานภาวนาทรงเห็นภาพล่วงหน้าถึงมหาทรมานที่กำลังจะได้รับ จนต้องร้องขอพระบิดาให้ถ้วยนี้ผ่านพ้นไป (The will of man) แต่ที่สุด ทรงขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า (The will of God) ความทรมานด้านจิตใจได้ส่งผลต่อร่างกายของพระองค์จนพระเสโทเป็นโลหิต นี่คืออาการของคนที่ทุกข์หนักอย่างแสนสาหัส
ประการที่สอง ความทรมานด้านร่างกาย พระเยซูเจ้าทรงถูกทรมานอย่างทารุณด้วยการเฆี่ยน การสวมมงกุฎหนาม การตรึงการเขน และการแทงด้วยหอก รอยเลือดที่ปรากฏที่ผ้าตราสังข์แห่งตูริน มองเห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าของร่างที่ปรากฏได้ผ่านการทารุณที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม โดยเฉพาะรอยเลือดที่ไหลลงมาเป็นทางจากศีรษะและแขนทั้งสอง รอยเปื้อนขนาดใหญ่ที่สีข้าง ที่ข้อมือและเท้า บาดแผลตามร่างกายอันเกิดจากการเฆี่ยนตี ที่ปลายของรอยแผลมีรอยลึกซึ่งเกิดจากแส้ “ฟลากรัม” (Flagrum) ที่ทำด้วยเชือกหรือเส้นหนังมีก้อนตะกั่วหรือกระดูกผูกติดไว้ตรงปลายแส้
ประการที่สาม ความทรมานด้านวิญญาณ พระเยซูเจ้าทรงถูกทอดทิ้งจากบรรดาศิษย์ และขณะที่ทรงถูกตรึงบนกางเขนพระองค์ทรงรู้สึกสิ้นหวัง เพราะดูคล้ายกับว่าพระบิดาทรงทอดทิ้งพระองค์ด้วย “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเล่า” (มธ 27:46) คงไม่มีความทุกข์ใดที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการที่ใครคนหนึ่งรู้สึกว่า ตนเองถูกทอดทิ้งจากบุคคลอันเป็นที่รัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาของความยากลำบาก
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า คือที่มาแห่งความรอดพ้นของมนุษยชาติ อีกทั้ง ได้ให้บทเรียนที่สำคัญแก่เราคริสตชนในการดำเนินชีวิตหลายประการ
ประการแรก เราต้องต้อนรับพระเยซูเจ้าเข้ามาในจิตใจของเรา ตลอดสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้เราต้องพร้อมที่จะต้อนรับพระองค์ในฐานะองค์พระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดเข้ามาในชีวิตของเรา เพื่อให้พระองค์เป็นกษัตริย์ครอบครองดวงใจและครอบครัวของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศีลมหาสนิทที่เรากำลังจะรับ ในการภาวนา การอ่านและรำพึงพระวาจาของพระองค์ในแต่ละวัน
ประการที่สอง เราต้องร่วมส่วนในพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า พระทรมานของพระองค์คือ เครื่องหมายแห่งความรักที่แท้จริงสำหรับมนุษยชาติ พระองค์ทรงรักและมอบชีวิตของพระองค์บนไม้กางเขนเพื่อเราทุกคน “ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15:13) ดังนั้น เราจึงต้องพร้อมที่จะน้อมรับความทุกข์ยากลำบากต่างๆ เพื่อเป็นการใช้โทษบาปของเราและร่วมส่วนในพระมหาทรมานของพระองค์
ประการที่สาม เราต้องเลียนแบบอย่างความรักอันหาขอบเขตมิได้ของพระเยซูเจ้า ด้วยการดำเนินชีวิตในความรักตามมาตรฐานเดียวกันกับพระองค์ที่ทรงรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก ทรงคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ ขณะที่กำลังแบกกางเขนทรงหันพระพักตร์ไปให้กำลังใจหญิงชาวเยรูซาเล็มกลุ่มหนึ่งที่ร้องไห้คร่ำครวญถึงพระองค์ (ลก 23:28) ทรงภาวนาขอให้พระบิดาทรงอภัยแก่ผู้ที่ประหารพระองค์ (ลก 23:33) อีกทั้ง ทรงยกโทษแก่นักโทษคนหนึ่งที่ถูกตรึงพร้อมกับพระองค์ (ลก 24:43)
บทสรุป
พี่น้องที่รัก อาทิตย์ใบลาน เตือนเราถึงการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระเยซูเจ้าอย่างผู้มีชัย เพื่อน้อมรับการทรมาน การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นและเป็นปัจจุบันทุกครั้งในพิธีบูชาขอบพระคุณที่เรามาร่วมทุกอาทิตย์ เหนือสิ่งอื่นใด ให้เราการเลียนแบบอย่างพระองค์ในความรักอันหาขอบเขตมิได้และการให้อภัยไม่สิ้นสุด เป็นต้น ในครอบครัว หมู่คณะและหมู่บ้านของเรา
ประการสำคัญ เมื่อเราต้องเผชิญกับความยากลำบากหรือความทุกข์ทรมานใดๆ ในชีวิต เราควรหันมาหาพระเยซูเจ้า เพื่อพระองค์จะได้บรรเทาและช่วยเหลือเรา อีกทั้ง พระมหาทรมานของพระองค์ควรเตือนใจเราให้สำนึกในบาปที่เรากระทำ และกลับมาหาพระองค์ผ่านทางศีลอภัยบาป เพื่อเราจะได้รับการช่วยให้รอดด้วยพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และมีส่วนในการกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
22 มีนาคม 2013
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น