สารวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
|
เลขที่ 154 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแวงใต้ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร 47120. 086-231-3231
พี่น้องชาวนาบัวร่วมแรงร่วมใจกันยกเสาศาลาบริเวณต้นจามจุรี วันที่ 23 กันยายน
รา
สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา
พี่น้องที่รัก พระวาจาของพระเจ้าวันนี้เชื้อเชิญเราให้กระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
อย่างที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำด้วยการมอบชีวิตเพื่อรับใช้ผู้อื่น
ทรงเรียกร้องการอุทิศตนและรับใช้ด้วยความสุภาพและความรัก
นี่คือเครื่องหมายที่แท้จริงของการเป็นคริสตชนและศิษย์ของพระคริสตเจ้า ทั้งนี้เพราะ
พันธกิจของพระศาสนจักรและของเราคริสตชนคือ “การรับใช้”
พระเยซูเจ้าทรงสอนเราว่า
เพื่อจะเป็นใหญ่ที่แท้จริงและบรรลุถึงชีวิตนิรันดรจะต้องถ่อมตัวเองลงรับใช้ทุกคน
แม้คนที่เล็กน้อยที่สุดซึ่งไม่มีสถานะทางสังคม
เช่น คนต่ำต้อย คนถูกทอดทิ้ง เพราะพวกเขาเหล่านี้เป็นพระคริสตเจ้าที่ประทับท่ามกลางเรา
และชีวิตที่มีความสุขคือชีวิตที่อุทิศตนรับใช้ผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
เริ่มจากการตัดและชักลากไม้ที่ได้รับการบริจาคจากพี่น้องชาวนาบัว วันที่ 17 กันยายน
ช่วยกันขนมารวมไว้ที่วัดบริเวณพื้นที่ก่อสร้างใต้ต้นจามจุรี
บทอ่านแรก หนังสือปรีชาญาณได้สะท้อนชีวิตชาวยิวที่เมืองอเล็กซานเดรียในประเทศอียิปต์
ซึ่งเป็นเมืองท่าที่กอปรไปด้วยวัฒนธรรมกรีกอันสลับซับซ้อน ชาวยิวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยมีศัตรูมากเพราะวิถีชีวิตของพวกเขาที่เคร่งครัดและซื่อสัตย์ต่อธรรมบัญญัติ
พระศาสนจักรเริ่มแรกได้ประยุกต์พระวาจาตอนนี้กับพระเยซูเจ้าที่รับทุกข์ทรมานเพื่อรับใช้ผู้อื่น
บทอ่านที่สอง นักบุญยากอบพูดถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในทุกที่ทุกแห่ง
นั่นคือความอิจฉาและการทะเลาะเบาะแว้ง
ซึ่งเป็นสาเหตุของความวุ่นวายและความชั่วร้ายนานาชนิด
“เมื่อท่านมักได้แต่ไม่สมหวัง ท่านก็ทะเลาะวิวาททำสงครามกัน”
หนทางที่จะนำมาซึ่งสันติสุขคือแนวทางที่พระเยซูเจ้าทรงวางไว้ให้ในพระวรสาร
พระวรสาร พระเยซูเจ้าได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับบรรดาสาวกและเราแต่ละคน
ใครที่รับใช้ด้วยความสุภาพและความรักคือคนที่เป็นใหญ่ที่สุด “ถ้าใครอยากเป็นคนที่หนึ่ง
ก็ให้ผู้นั้นทำตนเป็นคนสุดท้ายและเป็นผู้รับใช้ของทุกคน” (มก 9:35)
คนที่เป็นใหญ่ที่แท้จริงคือคนที่รับใช้คนอื่นด้วยความสุภาพและความรัก
ช่างกำลังตีผังขุดหลุมและเทฐานเสา วันที่ 21-22 กันยายน
หลังมิสซาวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน มีพิธีเสกพื้นที่ก่อสร้าง
°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
1)
ขอบคุณกลุ่มวิถีชุมชนวัดกลุ่มที่
6 ที่ช่วยกันทำความสะอาดวัด
กลุ่มที่รับผิดชอบอาทิตย์ต่อไปคือ กลุ่มที่ 7
2)
ในการประชุมสภาอภิบาลเมื่อวันจันทร์ที่
17 กันยายนที่ผ่านมา
ได้มีการพูดถึงการสวดเดือนแม่พระและวันเสกสุสาน วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม เปิดเดือนแม่พระ แห่แม่พระจากบ้านยายกลมรีมายังวัด
มีมิสซาที่วัด และขอให้แต่ละกลุ่มได้สวดสายพระคำตามบ้านในกลุ่มในคุ้มของตนเอง
เงินสวดเดือนแม่พระในปีนี้จะเป็นทุนสร้างถนนคอนกรีตหน้าวัดไม้
3)
วันปิดเดือนแม่พระ วันพุธที่ 31 ตุลาคม มีแห่แม่พระรอบหมู่บ้าน เริ่มเวลา 18.30 น.
และมีมิสซาปิดที่วัดเวลา 19.30 น.
4)
วันสมโภชนักบุญทั้งหลายและวันภาวนาอุทิศให้ผู้ล่วงลับ (เสกสุสาน) คือ
วันพฤหัสบดีที่ 1 และศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2012 เย็นวันที่
1 พฤศจิกายน
มีมิสซาอุทิศให้ธรรมทูต
ผู้แพร่ธรรมและคุณพ่อเจ้าอาวาสที่ล่วงลับไปแล้วที่สุสาน
ตอนสายวันอาทิตย์ที่ 23 ร่วมแรงร่วมใจกันขนย้ายเสาเตรียมตั้ง
เสาขนาดใหญ่เมื่อทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันก็เคลื่อนย้ายได้โดยง่าย
5)
วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมนี้
ขอเชิญร่วมฉลองบ้านเณรฟาติมาท่าแร่และบวชพระสงฆ์ สังฆานุกร เทพณรงค์ พุดษา
ลูกวัดท่าแร่ กับ สังฆานุกร ทินกร เหลือหลาย ลูกวัดดอนม่วย โดยพระคุณเจ้าจำเนียร
สันติสุขนิรันดร์ มิสซาเวลา 10.00 น.
6)
วันที่ 24 กันยายน ถึงวันที่ 13 ตุลาคม คุณพ่อจะไปแสวงบุญที่ประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี
ระหว่างที่คุณพ่อไม่อยู่ คุณพ่อธีรพงษ์ นาแว่น จะมาทำหน้าที่แทน
7)
เงินทานวันเสาร์ 503.- บาท, เงินทานวันอาทิตย์ที่
16 กันยายน 6,597.- บาท
8)
วัดโพนสวาง เงินทานวันอาทิตย์
620.- บาท; นางคำเบา วงศ์บัว สมทบทุนสร้างหอระฆัง 500.- บาท
เด็กๆ ขอมีส่วนร่วมด้วยการโยนเงินเหรียญลงหลุมตามธรรมเนียมเมื่อเริ่มการก่อสร้าง
ผู้ใหญ่ชาญชัย นาแว่น ทำพิธีผูกเสาเอกตามประเพณี
† พิธีมิสซาและวันฉลองในรอบสัปดาห์ †
วัน
|
ที่
|
เวลา
|
ผู้ขอ/วันฉลอง
|
จุดประสงค์
|
อาทิตย์
|
23
|
07.00
น.
10.00 น.
|
มิสซาที่นาบัว
มิสซาที่โพนสวาง
|
†
สุขสำราญ สำหรับพี่น้องชาวนาบัว
†
สุขสำราญ สำหรับพี่น้องชาวโพนสวาง
|
จันทร์-พุธ
|
24-26
|
06.00
น.
|
สัปดาห์ที่
25
เทศกาลธรรมดา
|
|
พฤหัส
|
27
|
06.00
น.
|
ระลึกถึง
น.วินเซนต์ เดอ ปอล
|
|
ศุกร์
|
28
|
06.00
น.
|
สัปดาห์ที่
25
เทศกาลธรรมดา
|
|
เสาร์
|
29
|
06.30
น.
19.30
น.
|
ฉลองอัครทูตสวรรค์
สัปดาห์ที่ 26
เทศกาลธรรมดา
|
ทั้งพ่อบ้าน แม่บ้านและเยาวชนช่วยกันตั้งเสาต้นแรก
ทุกคนอยากมีส่วนร่วม ศาลาหลังนี้จึงควรได้ชื่อ "ศาลารวมใจ"
เป็นศาลาขนาดย่อม กว้าง 5 เมตร ยาว 7 เมตร
มีเสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50-70 เซนติเมตร จำนวน 6 ต้น
เสาทั้ง 6 ต้น สามารถตั้งได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง
และใช้แรงของพี่น้องชาวนาบัวล้วนๆ โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องจักรกล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น