วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555

สวนองุ่นของพระเจ้ากับคนเช่าสวน


สวนองุ่นของพระเจ้ากับคนเช่าสวน

วันศุกร์
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต
ปฐก 37:3-4, 12-13, 17-28
มธ 21:33-43, 45-46

การทำสวนองุ่นเป็นวิธีดำรงชีพธรรมดาทั่วไปในดินแดนปาเลสไตน์ แต่สถานการณ์และความยากลำบากในปาเลสไตน์สมัยนั้น ทำให้เจ้าของที่ดินไปหาที่อยู่ ณ ดินแดนใหม่ที่สงบสุขมากกว่า โดยปล่อยให้คนเช่าสวนทำประโยชน์และตนเองคอยเก็บค่าเช่า ซึ่งอาจกำหนดเป็นตัวเงินหรือส่วนแบ่งพืชผลที่เก็บได้ตามแต่จะตกลงกัน หรือเป็นจำนวนพืชผลตายตัวไม่ว่าจะเก็บได้หรือไม่ก็ตาม เหตุการณ์ที่กล่าวถึงในคำอุปมาจึงเป็นไปได้ว่า คนเช่าสวนไม่ยอมจ่ายค่าเช่าและทุบตีตัวแทนของเจ้าของสวน บางทีถึงขั้นใช้วิธีรุนแรงเพื่อยึดที่ดินมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตน

เรื่องราวของโยเซฟที่ถูกพวกพี่ชายขายไปเป็นทาสในดินแดนอียิปต์ในบทอ่านแรก คือภาพพจน์ของพระเยซูเจ้าที่ถูกยูดาสทรยศและขายเป็นเงินสามสิบเหรียญ คำอุปมาในพระวรสารวันนี้ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับตัวพระองค์อย่างเด่นชัด สวนองุ่นหมายถึงชนชาติอิสราแอล เจ้าของสวนคือพระเจ้า คนเช่าสวนคือพวกเจ้าคณะสงฆ์และฟาริสี ผู้รับใช้ที่ถูกส่งมาคือบรรดาประกาศกที่ไม่ได้รับการต้อนรับ แต่กลับถูกดูหมิ่นเหยียดหยามบางคนถูกฆ่าตาย ส่วนบุตรหมายถึงพระเยซูเจ้าที่ไม่ได้รับการต้อนรับและถูกฆ่าตายเช่นกัน

คำอุปมานี้ได้ให้บทเรียนแก่เราเรื่อง “สิทธิพิเศษของมนุษย์” มัทธิวได้ให้รายละเอียดว่าเจ้าของสวนได้ทำสิ่งที่จำเป็นทุกอย่างสำหรับสวนองุ่น เขาล้อมรั้วป้องกันสัตว์ร้ายมาทำลายสวนองุ่น เขาสร้างบ่อย่ำองุ่นซึ่งเป็นบ่อหินขุดลึกลงไปในดินเพื่อจะได้ย่ำและสกัดน้ำองุ่น นอกจากนี้ยังสร้างหอเฝ้าเพื่อป้องกันโจรผู้ร้าย (มธ 21:33) นั่นหมายความว่า พระเจ้าได้ทำทุกอย่างสำหรับชนชาติอิสราแอลเพื่อเตรียมพวกเขาให้รู้จักพระบุตรที่จะเสด็จมา แต่พวกเขาได้กระทำความผิดและปฏิเสธพระองค์ สิทธิพิเศษนี้จึงถูกเพิกถอนและมอบให้กับคนต่างชาติ

เราในฐานะคริสตชนได้รับสิทธิพิเศษนี้ เป็นสิทธิพิเศษของการเป็นบุตรพระเจ้า ค่าของคนไม่ได้อยู่ที่ผลของงานอย่างที่พูดกัน แต่แต่อยู่ที่ว่าเป็น “คนของใคร” คำตอบคือ “คนของพระ” เราทุกคนเป็นลูกของพระบิดาองค์เดียวกัน มีคุณค่าและศักดิ์ศรีเท่าเสมอกันต่อหน้าพระเจ้า การเดินทางไปแดนไกลของเจ้าของสวนคือ เครื่องหมายว่าพระเจ้าทรงมอบหมายงานและความรับผิดชอบให้แก่เราด้วยความเชื่อใจ ดังนั้น เราจึงมีอิสรภาพที่จะร่วมมือกับพระเจ้าหรือต่อต้านพระองค์ และมีอิสระในการเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ นี่คือสิทธิพิเศษที่มนุษย์ได้รับ

นอกนั้น คำอุปมานี้ยังแสดงให้เห็นถึง “ความอดทนของพระเจ้า” ที่มีต่อความผิดพลาดของมนุษย์ เจ้าของสวนองุ่นได้ให้โอกาสคนเช่าสวนครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยหวังว่าเขาจะปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ พระเจ้าได้ให้โอกาสทุกคนเท่าเทียมกันไม่ทรงลงโทษใครในทันที แต่ทรงให้เวลาและรอคอยด้วยหวังว่าเขาจะกลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิตหันกลับมาหาพระองค์อีกครั้ง เทศกาลมหาพรตนี้ จึงเป็นช่วงเวลาพิเศษของการกลับใจมาหาพระเจ้า โดยผ่านทางการภาวนา พลีกรรม และให้ทาน อีกทั้งอดทนต่อความผิดพลาดของกันและกัน

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย
5 มีนาคม 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น