วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บาปและการให้อภัย


บาปและการให้อภัย

สัปดาห์ที่ 7
เทศกาลธรรมดา
ปี B
อสย 43:18-19, 21-22, 24-25
2 คร 1:18-22
มก 2:1-12

บทนำ

บราเดอร์ อันดรูว์ ธรรมทูตในประเทศอินโดนีเซียเล่าว่า วันหนึ่งท่านได้ไปที่ตลาดพบลิงตัวหนึ่งที่พ่อค้านำมาขายจึงซื้อเอามาเลี้ยง เมื่อมาถึงบ้านได้สังเกตว่าลิงตัวที่ซื้อมามีรอยกิ่วบริเวณเอวผิดปกติ เมื่อดูโดยละเอียดก็พบว่า มีเชือกที่รัดเป็นร่องลึกลงไปในแผ่นหนังของมันจนเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นไปได้ว่าเวลาที่ลิงตัวนี้ยังเล็กๆ บางคนได้ใช้เชือกผูกเอวของมัน เมื่อมันโตขึ้นเชือกจึงรัดแน่นและฝังลึกในแผ่นหนังของทำให้มันเจ็บปวดเรื่อยมา

วันนั้น บราเดอร์ อันดรูว์ได้ใช้มีดโกนค่อยๆ โกนขนรอบเอวออกและเลาะเชือกเส้นนั้นออกจากแผ่นหนังของมันด้วยความระมันระวัง ขณะที่มันยืนนิ่งด้วยความอดทน กระพริบตาไปมาจนกระทั่งการผ่าตัดเส้นเชือกที่รัดเอวออกได้สำเร็จ มันกระโดดโลดเต้นไปมาและกระโดดขึ้นบ่าและหอมแก้มท่านเหมือนเป็นการขอบคุณ การผ่าเอาเส้นเชือกที่ฝังในแผ่นหนังของมันออกทำให้มันเป็นอิสระ ปัญหาและความลำบากที่ผูกติดกับตัวมันมาเป็นเวลานานได้รับการเยียวยา กลับมามีชีวิตที่ปกติสุขเหมือนลิงทั่วไปอีกครั้ง

“คนง่อย” ในความเชื่อและสายตาของชาวยิวทั่วไปมองว่า “นี่เป็นการลงโทษของพระเจ้า” ที่เขาเป็นเช่นนั้นเพราะบาปที่เขากระทำหรือบาปที่บิดามารดาของเขากระทำ การเป็นง่อยจึงเป็นผลของบาป การยกบาปและการช่วยให้หายจากการเป็นง่อยของพระเยซูเจ้า จึงเป็นการช่วยให้เขาเป็นอิสระจากความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดที่เขาเผชิญมาเป็นเวลานาน ทำให้เขาพบความสุขความยินดีจนไม่สามารถเก็บงำความยินดีนี้ไว้กับตัวคนเดียว

1.           บาปและการให้อภัย

ค่านิยมที่น่ากลัวที่สุดในสังคมปัจจุบันคือความคิดที่ว่า “ไม่มีบาป” ฉะนั้น หากจะทำอะไรก็จงทำเถิด ไม่ต้องกลัวบาป จะคดโกง ช่อราษฎร์บังหลวงหรือผิดลูกเมียใครไม่เป็นไร เพราะบาป “บ่ได้ขี่ช้างสูบยา” เป็นตัวเป็นตนมาหาเรา ทำให้เรากลัวเหมือนเพลง “บ่ย้านบาป” ที่เราได้ยินได้ฟัง หรือความคิดที่บอกว่า ถ้าคนส่วนใหญ่เขาทำกัน สิ่งนั้นไม่ใช่บาป” เราสามารถทำได้ ไม่เป็นไร ทุกคนก็ทำอย่างนี้กันทั้งนั้น ซึ่งความคิดนี้เป็นค่านิยมที่อันตรายมาก ทำให้สังคมของเราจบปลักในความเลวร้ายไม่มีที่สิ้นสุด เต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่น ปัญหายาเสพติดที่ระบาดไปทั่ว ความเกลียดชังและการแก้แค้นที่เกิดขึ้นทุกวัน

มนุษย์ทุกคนเป็นคนบาปและมีความโน้มเอียงไปในทางบาป จึงมีคำพูดที่ว่า ผิดพลาดคือมนุษย์ อภัยไม่สิ้นสุดคือพระเจ้า” (Alexander Pope) งานยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่อช่วยมนุษย์คือ การอภัยบาปที่เรากระทำ ความจริงที่เราพบเกี่ยวกับตัวเองคือเราสามารถผิดพลาดได้ และเราต้องการการให้อภัยจากใครสักคน คนที่เคยกระทำผิดพลาดในชีวิต หากได้รับความรักที่ให้อภัย ย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองและเริ่มต้นใหม่ได้

ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงเป็นบุตรพระเจ้าที่สามารถอภัยบาปได้ เมื่อทรงเห็นความเชื่อของคนง่อยและเพื่อนของเขาที่พยายามนำตัวเขามาอยู่เฉพาะพระพักตร์ พระองค์ได้ตรัสกับคนง่อยว่า “ลูกเอ๋ย บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว” และพระองค์ไม่เพียงอภัยบาปที่เขาได้กระทำ แต่ทรงรักษาเขาให้หายจากการเป็นง่อย “ลุกขึ้น แบกแคร่เดินไป” ทรงรักษาเขาทั้งด้านจิตใจและร่างกาย ทำให้เขาพบกับความสุขและความยินดีในชีวิต

2.           บทเรียนสำหรับเรา

บทอ่านวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวทางในการปฏิบัติในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันสำหรับเราหลายประการ

ประการแรก พระเยซูเจ้าสามารถอภัยบาปและช่วยเราได้ เวลาที่เรามีปัญหาหรือประสบความยากลำบากในชีวิต เราไปหาใคร บ่อยครั้งเราลืมและทิ้งพระเจ้า ในพระวรสารพระเยซูเจ้าได้แสดงให้เราเห็นว่า พระองค์เป็นบุตรพระเจ้าที่ไม่เพียงอภัยบาปเรา แต่สามารถช่วยเหลือเราได้ทุกอย่าง ประการสำคัญ พระองค์ได้มอบอำนาจในการอภัยบาปแก่พระศาสนจักร ผ่านทางศีลอภัยบาปซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่ให้อภัยของพระเจ้า เราต้องมั่นมาหาพระองค์บ่อยๆ ทางศีลศักดิ์สิทธิ์ประการนี้ (ไม่ใช่เพียงปีละครั้ง)

ประการที่สอง เราต้องมีความเชื่อและความพยายาม  พระเยซูเจ้าทรงเห็นถึงความเชื่อและความพยายามของคนง่อยและเพื่อนของเขา ที่พยายามจะมาอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ให้ได้ แม้จะมีอุปสรรค (ไม่สามารถเข้าทางประตูได้เพราะคนเยอะ) แต่ไม่ละความพยายาม (ขึ้นไปบนหลังคาและหย่อนแคร่ลงมาต่อหน้าพระองค์) เราต้องมีความเชื่อและความพยายาม ออกแรงทำส่วนของเราอย่างเต็มที่ แล้วพระเจ้าจะสดับฟังและช่วยเหลือเราอย่างที่เราคาดไม่ถึง

 ประการที่สาม เราต้องพร้อมที่จะให้อภัยความผิดของกันและกัน การให้อภัยคือการลืมสิ่งที่เขาเคยกระทำไม่ดีต่อเรา และปฏิบัติต่อเขาประหนึ่งว่าไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น ดังคำกล่าวของประกาศกอิสยาห์ที่ว่า “อย่าจดจำเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องราวในอดีตอีกต่อไป” นี่คือท่าทีที่พระเยซูเจ้าทรงสอนเราเป็นพิเศษ

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าจะตอบสนองทุกคนที่มาหาพระองค์ด้วยความเชื่อที่แรงกล้า ดังที่ทรงอภัยบาปและรักษาคนง่อยและเพื่อนของเขาที่มาหาพระองค์ด้วยความเชื่อ พระองค์ทรงให้คำมั่นสัญญากับเราว่า ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนักจงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน (มธ 11:28) ดังนั้น เมื่อพบกับปัญหาและความยากลำบากในชีวิต เราต้องมาหาและวางทุกอย่างเฉพาะพระพักตร์พระเยซูเจ้า ด้วยความเชื่อและความวางใจ

พระวรสารวันนี้ได้ให้ความมั่นใจกับเราว่า พระเยซูเจ้าทรงพร้อมเสมอที่จะรักษาและช่วยเหลือเราทุกคนที่มาหาพระองค์ เพราะเราแต่ละคนมีค่ายิ่งใหญ่เสมอต่อหน้าพระองค์ พระองค์ได้แสดงให้เห็นถึงความรักที่ให้อภัยอันยิ่งใหญ่และไม่มีวันสิ้นสุดของพระองค์ ประการสำคัญ เราต้องพร้อมที่จะ “รัก ให้อภัยและไม่จดจำความผิด” เช่นเดียวกับพระองค์ โดยเฉพาะกับเพื่อนพี่น้องในครอบครัว หมู่คณะและหมู่บ้านของเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
17 กุมภาพันธ์ 2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น