วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อัศจรรย์ของการแบ่งปัน


อัศจรรย์ของการแบ่งปัน

วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา
ปี A
อสย 55:1-3
รม 8:35.37-39
มธ 14:13-21

บทนำ

ข่าวที่สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา (22 กรกฎาคม) คือ ข่าวนายอันเดรส เบย์ริ่ง เบรวิก ฝ่ายขวาหัวรุนแรงชายชาวนอร์เวย์ วัย 32 ปี ที่ก่อเหตุวางระเบิดทำเนียบรัฐบาลใจกลางกรุงออสโล เมืองหลวงของประเทศ และก่อเหตุกราดยิงกลุ่มเยาวชนที่กำลังเข้าค่ายบนเกาะอูโทยา ชานกรุงออสโล เป็นเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากรวม 76 คน ในจำนวนนี้มีคนไทยรวมอยู่ด้วย 1 คน (นางสาวภรทิพย์ อดัม วัย 21 ปี)

ทุกวันนี้ดูเหมือนผู้คนทั่วโลกกำลังหวาดผวากับภัยก่อการร้าย แต่มหันตภัยที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดคือ “ความหิวโหยและการขาดแคลนอาหาร” องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้มีประชากรโลกอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหารประมาณ 925 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 7 ของประชากรโลกและส่วนมากอยู่ในทวีปอัฟริกาและเอเชีย ตัวเลขที่น่าตกใจคือทุกสามวันจะมีผู้เสียชีวิตจาการขาดอาหาร 120,000 คน (เท่ากับความสูญเสียที่เกิดจากการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิในอดีต)

บ่อยครั้งเราคริสตชนแสดงความห่วงใยต่อเพื่อนมนุษย์ ด้วยการภาวนาให้กับคนยากจนที่กำลังหิวโซตามท้องถนน แต่การภาวนาและความปรารถนาดีอย่างเดียวคงไม่พอ เราต้องแสดงออกในการทำบางสิ่งบางอย่าง ในความเป็นจริงเมื่อเราภาวนา พระเจ้าจะตรัสกับเราว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” นี่คือสิ่งที่เราพบในพระวรสารวันนี้ ซึ่งบรรดาสาวกแสดงความห่วงใยประชาชนที่กำลังหิว โดยทูลพระเยซูเจ้าปล่อยให้พวกเขากลับไปซื้อหาอาหารกินเอง

1. อัศจรรย์ของการแบ่งปัน

พระเยซูเจ้าไม่ได้แสดงความรู้สึกผิดหวังหรือไม่พอใจผู้ที่ติดตามพระองค์ ตรงข้ามพระองค์ทรงตอบสนองความต้องการของพวกเขาและแบ่งปันสิ่งที่พระองค์มีกับพวกเขาเสมอ ในพระวรสารวันนี้ พระองค์ทรงแสดงความรักต่อประชาชน พระองค์ตรัสสอนพวกเขาและพวกเขาก็ฟังพระองค์ด้วยความยินดี พระองค์ทรงรู้สึกสงสารคนเจ็บป่วยและทรงรักษาพวกเขา ทรงรู้สึกเห็นใจคนยากจนและทรงช่วยพวกเขา ทรงห่วงใยคนหิวโหยและทรงเลี้ยงพวกเขาให้อิ่มหนำอย่างทั่วหน้า

ในที่เปลี่ยว พระเยซูเจ้าทรงตอบสนองความต้องการของประชาชน และทรงสอนบรรดาสาวกให้แบ่งปันสิ่งเล็กน้อยที่พวกเขามี “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” (มธ 14:16) พระวรสารของนักบุญยอห์นบอกให้เราทราบว่า ขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวเป็นของเด็กคนหนึ่ง (ยน 6:9) และจากขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนี้ พระเยซูเจ้าได้ทรงทำอัศจรรย์เลี้ยงคนห้าพันคน ไม่นับผู้หญิงและเด็ก และเก็บเศษที่เหลือได้ถึงสิบสองกระบุง (มธ 14:20-21) หากเด็กคนนั้นไม่ยอมมอบขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวของเขาให้พระเยซูเจ้า อัศจรรย์คงไม่เกิดขึ้น

มีการตีความและความเข้าใจอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในอีกแง่หนึ่งว่า ความจริงแล้ว “ขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว” เป็นอาหารส่วนที่แม่พระเตรียมสำหรับพระเยซูเจ้าและบรรดาสาวก และวานให้เด็กคนนั้นนำมาให้พระองค์ (เพราะเด็กตัวคนเดียวคงกินอาหารมากมายขนาดนั้นไม่หมดแน่) เมื่อพระเยซูเจ้าทรงกล่าวถวายพระพร และสั่งให้บรรดาสาวกแบ่งปันแจกจ่ายอาหารส่วนที่เป็นของพระองค์นี้แก่ประชาชน ทุกคนที่เห็นจึงนำอาหารที่ตนเองนำติดตัวมาแบ่งปันซึ่งกันและกันบ้าง อัศจรรย์จึงเกิดขึ้น นั่นคือ พระองค์ทรงเปลี่ยนใจที่เห็นแก่ตัวของพวกเขาแต่ละคนให้เป็นคนใจกว้างและคิดถึงคนอื่น

2.  บทเรียนสำหรับเรา

พระวรสารวันนี้และอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ ได้ให้บทเรียนที่สำคัญกับเราหลายประการ

ประการแรก พระเจ้าทรงดูแลประชากรของพระองค์ ความรักของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่และไร้ขีดจำกัด ทรงเอาพระทัยใส่และเลี้ยงดูประชากรของพระองค์ในเวลาที่พวกเขาเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ “พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม” (มธ 5:45)

ประการที่สอง เราต้องแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้อื่น  เราได้รับการเรียกให้เป็นเหมือนอย่างบรรดาสาวก ในการเป็นเครื่องมือของพระเจ้าในการแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้อื่นด้วยใจกว้าง เป็นต้น คนอดอยาก เดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือ ภัยพิบัติใดๆ ที่เกิดขึ้นในโลก ไม่สามารถเอาชนะธารน้ำใจของมนุษย์ได้ อัศจรรย์จะเกิดขึ้นหากเราเริ่มที่จะแบ่งปัน “ขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัว” ของเรากับผู้อื่น

ประการที่สาม พระเยซูเจ้าคืออาหารของชาวเรา ในพิธีบูชาขอบพระคุณที่เรามาร่วมทุกอาทิตย์ พระเยซูเจ้าทรงเป็นอาหารของชาวเราผ่านทางพระวาจาและศีลมหาสนิทที่เราได้รับ ในการเฉลิมฉลองศีลมหาสนิท เราได้กลายเป็นผู้แบ่งปันองค์พระคริสต์เจ้า ผู้ไม่ปล่อยให้ใครกลับไปมือเปล่า พระองค์ทรงประทับอยู่เคียงข้างเราและรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก เราถูกเรียกร้องให้นำพระองค์กลับออกไปในชีวิตประจำวัน และแบ่งปันความรักของพระองค์กับทุกคน

บทสรุป

พี่น้องที่รัก สิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในการทวีขนมปังและการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย พระองค์ทรงหยิบขนมปัง กล่าวถวายพระพร บิขนมปังและส่งให้ศิษย์ของพระองค์  ในศีลมหาสนิทพระเยซูเจ้าทรงบิพระองค์เองและทรงเลี้ยงเราด้วยพระกายของพระองค์ การมีส่วนร่วมของเราจะบรรลุถึงความสมบูรณ์เมื่อเราบิตัวเราเองกับผู้อื่น

พระเยซูเจ้าทรงต้องการ “ขมมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว” ของเรา เพื่อพระองค์จะสามารถทำอัศจรรย์ได้ พระองค์ทรงเรียกร้องให้เราทำบางสิ่งบางอย่าง ด้วยการแบ่งปันความรักและชีวิตของเรากับผู้ที่อดอยาก เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ หากเราแต่ละคนได้ใช้ความสามารถและพระพรต่างๆ ที่เรามีเพื่อผู้อื่น อัศจรรย์ย่อมเกิดขึ้นในแบบที่เราคาดไม่ถึง
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
30 กรกฎาคม 2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น