วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทุกอย่างต่างมีเหตุผลของมัน

 “ทุกอย่างต่างมีเหตุผลของมัน”

ชีวิตจะต้องพบความสุข หรือความทุกข์

จะมีรอยยิ้มหรือมีน้ำตา

พ่อสอนว่า “มันมีเหตุผลของมัน”

ย้อนกลับไปที่คำๆเดิม

“สุดแต่น้ำพระทัยพระองค์..”

ในเมื่อมันต่างมีเหตุผลของมัน พ่อจึงสอนอีกว่า

เพียงแค่เราเชื่อว่ามันจะผ่านไปด้วยดี

เพียงแค่เรามีความเชื่อว่ามันจะผ่านไปด้วยพระเมตตาของพระเจ้า

ทุกอย่างก็จะผ่านไป

.........................................

ฉันเคยสงสัยว่าทำไมคนบางคนต้องก้าวร้าว

ทำไมคนบางคนจึงกล้าทำร้ายคนอื่นอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร

ทำไมคนบางคนต้องคอยจับผิดแม้เรื่องเล็กน้อยของคนอื่น

และมากมายที่สงสัยว่าทำไมต้องมีคนแบบนี้บนโลกใบนี้

“ทุกอย่างต่างมีเหตุผลของมัน”

ฉันมานั่งนึก ไตร่ตรองแล้วว่า

ถ้าไม่มีคนก้าวร้าว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าความอ่อนโยนเป็นอย่างไร

เค้าเป็นครูของเราให้เราเรียนรู้จักว่านี่แหละที่เรียกว่าก้าวร้าว

ถ้าไม่มีคนเข้มงวด คอยจับผิด หรือตำหนิแม้เรื่องเล็กน้อย

องค์กรจะมีระเบียบวินัยได้อย่างไร

บางทีเราต้องชื่นชมและเห็นใจเขา

เพราะเขานี่แหละที่จะโดนคนรอบข้างทำร้ายและไม่หวังดี

สำคัญคือเราเองก็ทำอย่างเขาไม่ได้มิใช่หรือ

ฉันพร่ำย้ำคำสั่งสอนเหล่านี้ให้จดจำไว้ในใจ

เพราะการยอมรับใครสักคนที่ก้าวร้าว

ใครสักคนที่มีแต่คำพูดเชิงลบสม่ำเสมอ

เป็นสิ่งที่ฉันยากจะทำใจให้รักพวกเขาได้

ฉันแทบจะนับเวลาเป็นนาทีเมื่ออยู่ในสถานการณ์กับพวกเขาเหล่านั้น

เมื่อสิ้นสุดความอดทน ฉันมักจะเดินออกจากสถานการณ์นั้นไป

ไปหาที่สงบๆ พักพิง

บางสิ่งบางอย่างต้องใช้เวลา

และต้องใช้ความคิดทางบวกให้มากๆ

เพื่อความสงบสุขของจิตใจตัวเราเอง

หลังจากนี้..ฉันคงได้คำใหม่เพื่อสงบตัวเองได้ดีขึ้น

“ทุกอย่างต่างมีเหตุผลของมัน”

และ

“สุดแต่น้ำพระทัยพระองค์”

................................................

ด้วยรักค่ะ

น้ำผึ้งหวาน
27 กุมภาพันธ์ 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น