หลุมศพพระสังฆราชแกวงและพระสังฆราชโทมิน
เอ๋ยชื่อ “พระสังฆราชแกวง” กับ “พระสังฆราชโทมิน”
คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันคงไม่มีใครรู้จักแล้ว อีกทั้งคนในยุคเดียวกันกับท่านได้ลาโลกกันไปหมดแล้วด้วย
จึงไม่มีใครให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระสังฆราชทั้งสองได้ นอกจากบันทึกของ พระสังฆราชเกลาดิอุส
บาเย พระสังฆราชองค์สุดท้ายของมิสซังลาวที่ พระอัครสังฆราชไมเคิ้ล เกี้ยน
เสมอพิทักษ์ ได้แปลและพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ “ประวัติการเผยแพร่พระศาสนาในภาคอีสานและประเทศลาว”
ซึ่งได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า
เมื่อกองทัพญี่ปุ่นได้ยึดอินโดจีนของฝรั่งเศสในวันที่
9 มีนาคม ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) ได้จับกุมและควบคุมตัวพระสังฆราชแกวงในห้องทำงานที่ท่าแขกโดยมิทันรู้ตัว
ส่วนพระสังฆราชโทมินและคุณพ่อทีโบต์ได้ซ่อนตัวอยู่ในสวนกล้วยของมิสซังตลอดคืน
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถซ่อนตัวต่อไปได้ พระสังฆราชโทมิน ได้เขียนจดหมายมอบหน้าที่ปกครองมิสซังให้คุณพ่อหึ่ว
พระสงฆ์ชาวเวียดนามผู้ดูแลชาวเวียดนามในท่าแขกและใกล้เคียง
จากนั้นได้มอบตัวกับทางการญี่ปุ่น
พระสังฆราชอังเยโล-มารีย์ แกวง พระสังฆราชองค์ที่ 3 ของมิสซังลาว |
“ผู้บัญชาการทหารญี่ปุ่นที่ท่าแขกได้มีคำสั่งให้ยิงเป้าชาวฝรั่งเศสทั้งหมด
จะเป็นพลเรือน ทหารหรือนักบวชก็ตาม ดังนั้น พระสังฆราชแกวง และพระสังฆราชโทมิน
จึงได้ถูกยิงเป้าพร้อมกับคุณพ่อทีโบต์ที่บ้านนาไก่
ห่างจากตัวเมืองท่าแขกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 21 มีนาคม
ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488)” (ประวัติการเผยแพร่พระศาสนาในภาคอีสานและประเทศลาว หน้า 210-211)
ข้อมูลเกี่ยวกับพระสังฆราชผู้ปกครองมิสซังลาวทั้งสอง
และคุณพ่อทีโบต์หลังจากนั้นไม่มีการกล่าวถึงอีก แม้กระทั่งการจัดการเกี่ยวกับร่างไร้วิญญาณของท่านทั้งสาม
เคยสอบถามเรื่องนี้จากพระสงฆ์อาวุโสหลายท่านแต่ไม่มีใครให้ข้อมูลได้ เรื่องนี้จึงอยู่ในใจของผู้เขียนเรื่อยมา
อีกทั้งได้เคยเสนอความเห็นต่อผู้ใหญ่ให้นำร่างของท่านทั้งสามกลับมาฝังที่หนองแสง ศูนย์กลางของมิสซังลาวในอดีตโอกาสฉลอง
125 ปีแห่งความเชื่อและการแพร่ธรรม
ซึ่งจะมีประโยชน์มากกว่า แต่ไม่ได้รับคำตอบ
พระสังฆราชอองรี-อัลแบร์ต โทมิน พระสังฆราชองค์ที่ 4 ของมิสซังลาว |
กระทั่งเวลาที่ พระสังฆราชปรีดา
อินทิลาด พระสังฆราชผู้ปกครองสังฆมณฑลคำม่วน-สะหวันนะเขดองค์ปัจจุบัน มาเทศน์เข้าเงียบประจำปีให้กับคณะสงฆ์อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง
(พฤศจิกายน 2014)
ผู้เขียนได้สอบถามเรื่องนี้ และพระคุณเจ้าได้ให้ความกระจ่างว่าได้นำร่างของท่านทั้งสามมาฝังไว้ที่สุสานของสังฆมณฑลที่ท่าแขกแล้ว
ดังนั้น เมื่อมีโอกาสเดินทางไปท่าแขก สปป.ลาว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา จึงได้ติดตามเรื่องนี้
อีกทั้งได้เดินทางไปดูสถานที่ซึ่งพระคุณเจ้าทั้งสองและคุณพ่อทีโบต์ถูกยิงเป้า
และได้ข้อมูลว่า “นาไก่” ที่ พระคุณเจ้าเกี้ยน เสมอพิทักษ์ แปล
ที่ถูกต้องคือ “นากาย” ซึ่งเป็นภูเขาต้นน้ำของแม่น้ำเทินก่อนไหลลงแม่น้ำเซปั้งไฟและแม่น้ำโขง
นากายในปัจจุบันได้กลายสภาพเป็นเมืองใหม่อันเนื่องมาจากโครงการน้ำเทิน 2 ก่อให้เกิดอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 450 ตารางกิโลเมตรบนเทือกเขานากาย และส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 100,000
คนอันเนื่องมาจากโครงการนี้
เส้นทางหมายเลข 12 จากท่าแขกถึงนากายซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาน้อยใหญ่สองข้างทาง
แม้จะไม่สามารถทราบได้เลยว่าทหารญี่ปุ่นยิงเป้าที่ไหนเนื่องจากไม่เหลือสภาพเดิมอีกแล้ว
แต่อย่างน้อยได้ทำให้ทราบถึงลักษณะภูมิประเทศของนากายซึ่งเป็นภูเขา
อยู่ห่างจากท่าแขกไปตามถนนหมายเลข 12 ประมาณ 80 กิโลเมตร
ก่อนจะแยกเข้าโครงการที่เมืองยมลาด ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่าการลงทุน 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีกำลังการผลิต 1,070 เมกะวัตต์ เริ่มดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าในปี
ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้
90 เปอร์เซ็นต์ส่งขายให้ประเทศไทยของเรา
อีกทั้ง บริษัทอิตาเลียน-ไทย ดีเวลลอปเมนท์
หรือ อิตัลไทย (Italian-Thai Development) เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
ถือหุ้น 15 เปอร์เซ็นต์ และบริษัทผลิตไฟฟ้าไทยจำกัด
หรือเอ็กโก (Electricity Generating Company – EGCO) บริษัทลูกของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ถือหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รัฐบาลลาวถือหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ สร้างโดยใช้รูปแบบที่เรียกว่า BOOT คือ
สร้าง–เป็นเจ้าของ–ดำเนินการ
และถ่ายโอน (Build-Own-Operate-Transfer) ซึ่งบริษัทผู้ลงทุนจะรับผลประโยชน์ในการขายไฟฟ้าเป็นเวลา
25 ปีก่อนที่จะมอบโอนให้รัฐบาลลาว
นากายในปัจจุบันที่กลายเป็นเมืองใหม่อันเนื่องจากโครงการน้ำเทิน 2
ตอนขากลับได้แวะคารวะหลุมศพของ พระสังฆราชแกวง
พระสังฆราชโทมิน และคุณพ่อทีโบต์ ซึ่งฝังรวมกันในหลุมเดียว
คุณพ่อเหี้ยนเล่าให้ฟังว่า ครั้งแรกที่นำศพกลับมาจากนากายได้นำมาฝังแยกไว้ที่สุสานเดิมซึ่งอยู่ตรงข้ามกับไปรษณีย์ท่าแขก
ต่อมาได้ถูกทางการยึดและบังคับให้ย้ายหลุมศพออกไปอยู่ที่ใหม่ จึงได้ย้ายไปฝังที่สุสานบริเวณกิโลเมตรที่สอง
แต่การย้ายครั้งหลังสุดนี้ไม่สามารถแยกได้ว่าใครเป็นใคร จึงฝังรวมในหลุมเดียวกันอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
สภาพหลุมศพที่เห็นเก่าแก่และเสื่อมโทรมตามกาลเวลา
ควรอย่างยิ่งที่อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสงจะเป็นเจ้าภาพพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของ พระสังฆราชแกวง
พระสังฆราชโทมิน และคุณพ่อทีโบต์ และทำหลุมศพใหม่ เพราะด้วยกำลังทรัพย์และวิทยาการสมัยใหม่ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากหากคิดจะทำ
อีกทั้งควรนำชิ้นส่วนกระดูกมาฝังไว้ที่สุสานวัดหนองแสงด้วย เพื่อจะได้เคียงคู่กับหลุมศพพระสังฆราชยอห์นบัปติสต์
โปรดม คุณพ่อซาเวียร์ เกโก และเพื่อนธรรมทูตมิสซังลาว ให้คริสตชนไทยได้เคารพเชิดชู
พระสังฆราชแกวงและคณะสงฆ์มิสซังลาวที่หนองแสง ปี ค.ศ. 1937 |
พระสังฆราชโทมิน (แถวนั่งซ้ายสุด) ที่ท่าแร่ ปี ค.ศ. 1938 |
ส่วน พระสังฆราชโทมิน หรือ พระสังฆราชอองรี-อัลแบรต์ โทมิน (Hnri-Alberte TOMIN) เป็นพระสังฆราชองค์ที่สี่ของมิสซังลาว
ในช่วงยากลำบากที่มีการเบียดเบียนศาสนาและสงครามอินโดจีน ค.ศ.
1944-1945 ได้รับแต่งตั้งวันที่
29 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 (พ.ศ. 2487) และได้รับอภิเษกที่วัดนักบุญหลุยส์ท่าแขก
วันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1944
(พ.ศ. 2487) โดยพระสังฆราชเลอมาล
แห่งเมืองเว้ มีพระสังฆราชแกวง และพระสังฆราชปีเกต์ แห่งมิสซังกวินญอน
เป็นผู้ช่วยอภิเษก พระสังฆราชโทมินเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดนาโพธิ์และจันทร์เพ็ญ และเป็นผู้ก่อตั้งหมู่บ้านจอมแจ้งในปัจจุบัน
หลุมฝังศพพระสังฆราชแกง พระสังฆราชโทมินและคุณพ่อทีโบต์ที่ท่าแขก
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
San Tomasso Ashram, ป่าพนาวัลย์
18 สิงหาคม 2015
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น