วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

ดูงานญี่ปุ่น 4



ศึกษาและดูงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น (ต่อ)
วันเวลาที่อยู่ญี่ปุ่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ได้พบเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ดีงามและเป็นความประทับใจ ทั้งเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับประเทศนี้ ความเจริญก้าวหน้าที่ล้ำสมัย ธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดใจ และการศึกษาที่มีคุณภาพสูงในระดับต้นของโลก วันนี้ (15 มกราคม 2015) จึงขอพูดถึงเจ้าของบ้านอย่างคนญี่ปุ่นบ้าง
ต้องยอมรับว่าสิ่งหนึ่งที่ส่งเสริมให้ญี่ปุ่นเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวคือ ความน่ารัก จิตใจดี มีระเบียบวินัย และน้ำใจงามของคนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดทุกคนจากทั่วโลกให้มาเยือน และเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง คุณลักษณะเหล่านี้มีพื้นฐานมาจากประเพณีปฏิบัติของศาสนาชินโต ซึ่งเป็นศูนย์รวมพิธีการดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น
ธรรมเนียมปฏิบัติเหล่านี้เมื่อผสมผสานกับวัฒนธรรมของจีน และแนวคิดตามลัทธิขงจื้อที่เข้ามามีอิทธิพลในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ทำให้ชาวญี่ปุ่นเป็นคนรักธรรมชาติ รักหมู่คณะ เคารพบรรพบุรุษ สุภาพอ่อนน้อม ขยันอดทน ซื่อสัตย์ และกล้าหาญ ซึ่งเป็นลักษณะที่ถ่ายทอดมาถึงคนญี่ปุ่นในปัจจุบัน

4.           คนญี่ปุ่น
สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเมื่อมาญี่ปุ่นคือ ธรรมเนียมปฏิบัติและมารยาท คนญี่ปุ่นมีมารยาทและธรรมเนียมปฏิบัติหลายอย่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ กล่าวกัน หากเรารู้จักคนญี่ปุ่นคนหนึ่งก็เท่ากับรู้จักคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ สืบเนื่องมาจากวิถีชีวิตและธรรมเนียมปฏิบัติที่เหมือนกันทุกคน จนกลายเป็นลักษณะเฉพาะของคนญี่ปุ่น อาทิ
การตรงต่อเวลา เวลานัดหมายกับใครต้องรักษาเวลา เมื่อไปไม่ได้หรือไม่สามารถไปตรงตามที่นัดหมายได้ ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพราะหากไม่รักษาสัญญาจะทำให้อีกฝ่ายขาดความเชื่อถือ คนญี่ปุ่นจึงให้ความสำคัญและปลูกฝังเรื่องนี้ตั้งแต่เวลาเป็นเด็ก รวมถึงสภาพแวดล้อม สังคม และการคมนาคมขนส่งที่หลอมรวมคนญี่ปุ่นให้ตรงเวลา หากไม่รักษาเวลาจะทำให้พลาดเครื่องบิน รถไฟ รถโดยสาร เป็นต้น

ความซื่อสัตย์ คนญี่ปุ่นจะเป็นคนที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดโกงใครและไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น หากใครลืมสิ่งของอะไรไว้ที่ไหนก็มั่นใจได้ว่าจะได้คืน ไม่หายไปไหน ไม่มีใครหยิบฉวยไปเป็นของตนเอง อย่างมากผู้พบเห็นอาจวางไว้ที่ใหม่ใกล้ที่เดิม แต่สามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด เพื่อให้เจ้าของพบได้ง่าย พวกเราบางคนที่มาศึกษาและดูงานครั้งนี้ถึงกับพูดว่า “มาญี่ปุ่นแล้วสบายใจ  จะซื้อหาอะไรก็มั่นใจได้ว่าเขาจะไม่โกงเรา” มีการพูดกันด้วยว่า คนญี่ปุ่นจองที่นั่งโดยใช้ IPhone หรือ Ipad นี่คือความซื่อสัตย์ของคนญี่ปุ่น นอกนั้น คนญี่ปุ่นยังเป็นคนที่รู้คุณคน โดยเฉพาะต่อผู้มีพระคุณ 
ความรับผิดชอบสูง คนญี่ปุ่นเป็นคนที่มีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบสูง ต่องานและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เราจึงเห็นคนญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังในการทำงาน เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพและประสบผลสำเร็จ สิ่งนี้เองที่ส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นผู้นำของโลกในหลายๆ ด้าน รวมถึงความรับผิดชอบทางการเมือง หากเกิดความผิดพลาดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง นักการเมืองญี่ปุ่นจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกทันที

การถือเรื่องเท้า คนญี่ปุ่นจะถือเรื่องเท้าคล้ายคลึงกับคนไทย เช่น ห้ามสวมรองเท้าในบ้าน วัด โรงแรมแบบญี่ปุ่น รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ ร้านหรือห้องอาหารบางแห่ง โดยปกติแล้วจะมีการเตรียมรองเท้าแตะไว้ให้ก่อนเข้าบริเวณที่ห้ามสวมรองเท้า แต่ถ้าเป็นพื้นที่ปูเสื่อตะตะมิ แม้รองเท้าแตะต้องถอดไว้ที่เกงคัง (ที่วางรองเท้า) โดยหันปลายรองเท้าไปทางประตู นอกจากนี้เวลาเข้าห้องน้ำจะมีรองเท้าแตะที่จัดไว้ใช้เฉพาะสำหรับห้องน้ำ
การพูดโทรศัพท์ คนญี่ปุ่นไม่ค่อยนิยมพูดโทรศัพท์ในที่สาธารณะอย่างในรถไฟฟ้าหรือร้านอาหาร เพราะถือเรื่องการให้เกียรติคนอื่นค่อนข้างมาก (ดูอย่างคุณเรียวตะที่ดูแลคณะของพวกเราระหว่างอยู่ที่ญี่ปุ่น เขามีเรื่องต้องติดต่อมากมาย แต่ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์เขาเลยเพราะปิดเสียงไว้) แม้แต่คุยกันเองกับเพื่อนฝูงยังคุยกันเบาๆ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา หากจะมีคุยกันบ้างนิดหน่อยคงไม่ว่าอะไร

การต่อราคา ที่ญี่ปุ่นจะไม่มีการต่อราคากัน ของฝากของที่ระลึกต่างๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวไม่สามารถต่อราคาได้และไม่ควรลองด้วย อาจจะโดนว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ ร้านค้าส่วนใหญ่จะติดป้ายราคาสินค้าไว้อย่างชัดเจนทุกร้าน ไม่ต้องเดินเข้าไปถามว่าอันนี้เท่าไร อันนั้นเท่าไร
การให้ทิป คนญี่ปุ่นไม่นิยมให้ทิปกัน เนื่องจากถือว่าทุกคนต้องทำงานของตนให้ดีที่สุดอยู่แล้วตามค่าจ้างที่ได้รับ ไม่เหมาะสมที่จะได้รับเงินเพิ่มจากลูกค้า และสุดท้ายสำหรับคนสูบบุหรี่ ควรสูบบุหรี่เฉพาะในที่ที่จัดไว้ หากฝ่าฝืนไปสูบในที่สาธารณะเข้า อาจจะถูกมองและถูกปรับไหมได้

คุณสมบัติ 10 ประการ ของคนญี่ปุ่น ได้แก่
1)   ตรงต่อเวลา
2)   รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
3)   ทำงานด้วยความกระตือรือร้น
4)   สะอาดเป็นระเบียบ
5)   อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่พูดโอ้อวด
6)   ประหยัด รู้คุณค่าของเงิน สิ่งของและเครื่องใช้ต่างๆ
7)   พิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียด
8)   ซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดโกงระลึกถึงบุญคุณของผู้มีพระคุณ
9)   แยกแยะเรื่องส่วนตัวและความรับผิดชอบในหน้าที่
10) ทำงานเป็นทีม

ส่วนการศึกษาและดูงานวันนี้ คณะของเราเดินทางไปเมืองนิกโก้ เมืองมรดกโลก ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว 149 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ แต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ มีวัดและศาลเจ้าสำคัญที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ มองเห็นสะพานชินเคียวสีแดงทอดข้ามแม่น้ำไดยะ ตั้งเด่นเป็นสง่าท่ามกลางธรรมชาติ
สะพานชินเคียวแห่งนี้ เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองนิกโก้ มีอีกชื่อหนึ่งว่า “สะพานอสรพิษคู่”  มีความยาว 28 เมตร กว้าง 7 เมตร สูงจากระดับน้ำ  10 เมตร  สร้างจากไม้โดยมีเสาหินรองรับน้ำหนัก ได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกที่นิกโก้

เมื่อคณะของพวกเราเดินทางถึงนิกโก้ หิมะเริ่มตกปรอยๆ เหมือนสายฝน เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ทุกคนที่ได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ตลอดเส้นทางที่เดินขึ้นชมศาลเจ้านิกโกโทโชกุที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หิมะเริ่มตกหนักมากขึ้น จนพื้นและหลังคาศาลเจ้าเริ่มขาวโพลน หิมะเริ่มจับตัวตามกิ่งไม้และต้นสนจนกลายสภาพเป็นสีขาวแลดูสวยงามยิ่งนัก ก่อนจะเข้าสู่ที่พักที่ YUMMY GROUP และเลือกแช่ออนเซนกลางแจ้งกันได้ตามความพึงพอใจของแต่ละคน
Don Daniele ภาพ/รายงาน
Nikko, JAPAN
15 มกราคม 2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น