วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การให้อภัยและการรักศัตรู



การให้อภัยและการรักศัตรู
สัปดาห์ที่ 7
เทศกาลธรรมดา
ปี A
ลนต 19:1-2,17-18
1 คร 3:16-23
มธ 5:38-48
บทนำ
ในการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของ อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) ต้องเผชิญกับคู่อริตัวฉกาจอย่าง เอ็ดวิน เอ็ม สแทนทัน (Edwin M. Stanton) ที่เกลียดลินคอล์นเข้ากระดูกดำ และกล่าวหาให้ร้ายเขาต่อสาธารณะอย่างเผ็ดร้อนในทุกเวทีการรณรงค์หาเสียง แต่คนที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันและเป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกาคือ อับราฮัม ลินคอล์น
เมื่อถึงเวลาของการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ลินคอล์นได้ทำให้คณะที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนต้องแปลกใจมาก เพราะเขาได้เลือกสแทนทัน เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยเขายุติสงครามกลางเมืองและการเลิกทาส หากลินคอล์นยังถือโทษโกรธเคืองสแทนทัน ทั้งคู่คงเป็นอริกันจนวันตาย แต่พลังแห่งความรักและการให้อภัยของลินคอล์นได้แปรเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตรและผู้ร่วมงานคนสำคัญ ที่ทำให้เขากลายเป็นมหาบุรุษของยุคสมัย
คนไทยเวลานี้กำลังเผชิญกับบรรยากาศแห่งความเกลียดชัง อันเป็นที่มาของความขัดแย้งรุนแรงในสังคม มีการต่อสู้ ทำร้ายและเข่นฆ่ากันแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” เหมือนในสังคมอดีต ทำให้เกิดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ต่อหน้าสถานการณ์เช่นนี้ คริสตชนควรมีท่าทีเช่นไร ในพระวรสารพระเยซูเจ้าได้ปฏิรูปหลักคำสอนและวิธีปฏิบัติของยุคสมัย ด้วยการนำเสนอกฎ การให้อภัยและการรักศัตรู” ทั้งนี้เพราะพระองค์ตระหนักว่า ความชั่วไม่สามารถชนะได้ด้วยความรุนแรงและการแก้แค้น แต่ด้วย “ความดี ความรัก และการให้อภัย”
1.       การให้อภัยและการรักศัตรู
 ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าต้องการวางกรอบสำหรับผู้ที่อยากเป็นศิษย์ของพระองค์ เพื่อการดำเนินชีวิตในความรักที่ครบครัน โดยเฉพาะในความรักต่อเพื่อนพี่น้อง ซึ่งสามารถเข้าใจได้ใน 2 ลักษณะคือ การทำดีต่อทุกคนและต้อนรับทุกคนโดยไม่แบ่งแยก แต่ความรักที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ การรักศัตรูและภาวนาให้ผู้ที่ทำไม่ดีกับเรา ซึ่งเห็นได้อย่างเด่นชัดในชีวิตของพระเยซูเจ้า ในแบบอย่างแห่งความรักของพระองค์บนไม้กางเขน
 “การให้อภัยและการรักศัตรู” เป็นมาตรฐานของความรักแบบคริสตชน เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความรักของพระเจ้า ที่ทรงรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก ไม่มีเงื่อนไข และไร้ขีดจำกัด แต่ธรรมชาติและความอ่อนแอตามประสามนุษย์ ทำให้เรารักศัตรูได้ยาก เราจะเลือกรักเฉพาะผู้ที่รักเราและทำดีต่อเรา พระเยซูเจ้าทรงเข้าใจและรู้ถึงความยากลำบากนี้ พระวาจาของพระองค์ในวันนี้จึงท้าทายเราให้ออกจากตัวเอง เพื่อมุ่งสู่ความดีบริบูรณ์
รูปแบบของ “ความดีบริบูรณ์” ในชีวิตคริสตชนที่พระเยซูเจ้าตรัสถึงคือ พระบิดาเจ้าสวรรค์ ที่โปรดให้ดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว และให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม (มธ 5:45) เราจะสามารถเลียนแบบพระบิดาได้โดยการเลียนแบบพระเยซูเจ้า ในความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระบิดาจนถึงที่สุดคือ ความตายบนไม้กางเขนและทรงร้องขอพระบิดาให้อภัยผู้ที่ตรึงพระองค์ (ลก 23:34) ยิ่งเราเลียนแบบพระเยซูเจ้ามากเท่าใด เราก็จะละม้ายคล้ายกับพระบิดาจ้ามากเท่านั้น
2.       บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในสัปดาห์นี้ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องมีหัวใจแห่งการให้อภัย พระเยซูเจ้าได้วางแนวทางสำหรับศิษย์ของพระองค์บนพื้นฐานของ “ความรักและการให้อภัย” ในการปฏิบัติต่อผู้ที่ทำไม่ดีต่อเรา ที่ทำให้เราต้องลำบากเดือดร้อนหรือไม่มีความสุข พระองค์บอกเราว่า เราจะต้องยกโทษและให้อภัยด้วยใจกว้าง แม้จะเป็นเรื่องยากลำบากในการรักตอบ แต่อย่างน้อยเราต้องไม่ถือโทษโกรธเคืองหรือผูกพยาบาท นี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงท้าทายเราคริสตชน
ประการที่สอง เราต้องรักและภาวนาให้ผู้ที่ทำไม่ดีต่อเรา สิ่งที่พระเยซูเจ้าตรัส “จงรักศัตรูและจงภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน” ชัดเจนในตัวมันเอง เพราะเวลาที่เราเกลียดชังและแค้นเคือง ผลสุดท้ายคือการทำลายตัวเราเองมากกว่าทำลายศัตรูของเรา ทำให้เราวุ่นวายใจ อยู่ไม่เป็นสุข เป็นผลเสียต่อสุขภาพ ความเกลียดชังไม่ได้ทำอะไรศัตรูของเราเลย ตรงข้ามมันได้เปลี่ยนวันชื่นคืนสุขของเราให้กลายเป็นนรก “กระสุนแห่งความเกลียดชังและแค้นเคืองจะทำลายศัตรูของเราได้ เมื่อมันทะลุผ่านร่างของเราแล้วเท่านั้น”
ประการที่สาม เราต้องพยายามที่จะเป็นคนดีบริบูรณ์เหมือนพระบิดาเจ้า เราจะกลายเป็นคนดีบริบูรณ์เมื่อเราพยายามที่จะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ในการให้อภัยด้วยใจกว้าง และในกิจการดีทุกอย่างที่เรากระทำ เราต้องพยายามดำเนินชีวิตเยี่ยงพระบิดาเจ้าสวรรค์ที่ทรงรักทั้งคนดีและคนชั่ว คนชอบธรรมและคนอธรรม ความรักจึงเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่ความครบครันเหมือนพระบิดาเจ้าสวรรค์
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องเราให้รักเพื่อนมนุษย์โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ต้องรักแบบไร้ข้อจำกัดและไม่มีกรณียกเว้น มาตรฐานความรักแบบคริสตชนที่พระเยซูเจ้าทรงกำหนดและทำให้เห็นด้วยชีวิตของพระองค์คือ การรักและการให้อภัยศัตรู ให้เราได้รักและให้อภัยผู้ที่ทำไม่ดีต่อเราด้วยใจกว้าง ตอบแทนความชั่วด้วยความดี แม้เป็นสิ่งที่ทำได้อยาก แต่อย่างน้อยเราต้องภาวนาเพื่อเขา
เราคริสตชนจะต้องเป็นคนดีและปฏิบัติต่อกันเยี่ยงพระบิดาเจ้าสวรรค์ที่ทรงความดีบริบูรณ์ ทัศนคติและกิจการทุกอย่างที่เราทำต้องเลียนแบบพระเจ้าในความใจดี มีเมตตา และความรัก เป็นการง่ายที่จะรักคนที่รักเรา แต่พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องให้เราทำมากกว่านั้น “จงรักศัตรูและจงภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน” เราจะต้องเป็นผู้นำความรักและการให้อภัยเช่นเดียวกับ นักบุญฟรังซิส อัสซีซี “ที่ใดมีความเกลียดชัง  ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความรัก ที่ใดมีความเจ็บแค้น   ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำการอภัย” เช่นนี้เอง สันติสุขก็จะบังเกิดขึ้นในใจเรา ในครอบครัว ในหมู่คณะ และประเทศชาติของเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
20 กุมภาพันธ์ 2014

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น