จงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนา
วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 1
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ปี C
|
ยรม 33:14-16
1 ธส 3:12-4:2
ลก 21:25-28, 34-36
|
บทนำ
นานมาแล้ว
คนขับรถประจำทางในรัฐโอกลาโฮมาได้สร้างสถิติที่ใครได้ยินแล้วต้องทึ่ง
กล่าวคือตลอดเวลา 23 ปีของการขับรถประจำทางมากกว่า
9 แสนไมล์ เขาไม่เคยประสบอุบัติเหตุเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เมื่อนักข่าวถามว่าทำเช่นนั้นได้อย่างไร เขาตอบอย่างซื่อๆ ว่า “ก็มองถนนสิ”
นั่นคือต้องมีสมาธิและสายตาจดจ่ออยู่ที่ถนนที่ตนเองกำลังขับรถอยู่
มีสติและไม่ประมาท นักเรียนที่ดีต้องเตรียมพร้อม สนใจและตั้งใจฟังเวลาครูสอน
และคริสตชนที่ดีควรตื่นตัวในการปฏิบัติศาสนกิจ มาวัดร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
การภาวนาและการขับร้องอย่างตั้งใจ
วันนี้เราเริ่มต้นปีพิธีกรรม
(ปี C)
ด้วยเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
พระศาสนจักรเชิญชวนเราให้เตรียมพร้อมสำหรับการต้อนรับองค์พระเจ้า ชาวโรมันมีเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อ
“จานุส” ซึ่งมีสองหน้า หน้าหนึ่งสำหรับมองไปข้างหลังและอีกหน้าหนึ่งสำหรับมองไปข้างหน้า
ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านี้ คริสตชนแต่ละคนควรมองย้อนไปยังอดีตถึงการเสด็จมาครั้งแรกของพระเยซูเจ้าในโลก
และมองไปยังอนาคตด้วยความหวังถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
(Advent)
หมายถึง “การเสด็จมา” เป็นการรอคอยการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า
บุคคลที่เรารักด้วยความชื่นชมยินดี
เรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต้อนรับพระองค์ ซึ่งเสด็จมาในโลก 3 ลักษณะด้วยกัน: 1) เรามองไปยังอดีตเพื่อเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของพระองค์ในโลกเมื่อสองพันปีก่อน,
2) เรามองไปที่ปัจจุบันเพื่อเตรียมต้อนรับพระองค์เข้ามาในชีวิตของเรา
ผ่านทางพระวาจาที่เราได้ยินและศีลมหาสนิทที่เรากำลังจะรับ และที่สุด 3) เรามองไปยังอนาคตเพื่อรอคอยการเสด็จมาในวาระสุดท้ายอย่างรุ่งโรจน์เพื่อพิพากษาโลก
1.
จงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนา
ในพระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าได้ให้คำแนะเราหลายวิธีด้วยกัน
“จงยืนตัวตรง เงยหน้าขึ้น” (ลก 21:28), “จงระวังไว้ให้ดี
อย่าปล่อยใจของท่านให้หมกมุ่นอยู่ในความสนุกสนานรื่นเริง
ความเมามายและความกังวลถึงชีวิตนี้” (ลก 21:34), “จงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่ตลอดเวลาเถิด” (ลก 21:36) ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ดีในการดำเนินชีวิตคริสตชน ไม่เพียงในช่วงเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯนี้เท่านั้น
แต่ถือเป็นแนวปฏิบัติที่ดีเยี่ยมในการดำเนินชีวิตประจำวัน สำหรับเราคริสตชนทุกยุคทุกสมัย
การตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ
เป็นท่าทีที่ถูกต้องสำหรับเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ
เพื่อเราจะได้มีความเข้มแข็งในการถอยห่างจากสิ่งไม่ดีต่างๆ “ความสนุกสนานรื่นเริง
ความเมามาย และความกังวลถึงชีวิตนี้” พระเยซูเจ้าทรงประสงค์ให้เราเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ
ที่จะเกิดขึ้นในวาระสุดท้าย
นั่นคือเข้าใจถึงพระวาจาและสิ่งที่พระจิตเจ้ากำลังทำอยู่ ประการสำคัญ
พระองค์ทรงประสงค์ให้เราได้นำความหวัง
ความวางใจและความรักของพระคริสตเจ้าไปสู่ผู้อื่น และพระวาจาของพระองค์ “จงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนา”
ใช้ได้เสมอแม้ในปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่า
พระเยซูเจ้าไม่ได้บอกเราถึงวันเวลาของการสิ้นโลกและการพิพากษาที่เราจะต้องหวาดกลัว
แต่พระองค์ทรงต้องการให้เรามีความมั่นใจและเข้าใจว่า
พระเจ้าทรงรักษาพระสัญญาและเวลาแห่งการปกครองของพระองค์อยู่ใกล้แล้ว
พระองค์ได้บอกเราถึงเครื่องหมายแห่งการมาถึงของพระอาณาจักร
เพื่อเราจะได้เตรียมตัวเองให้พร้อม จงมองดูรอบๆ จงเพ่งมองที่ถนน
จงยืดตัวตรงและเงยหน้าขึ้น ก้าวเดินไปบนหนทางแห่งการภาวนาและความหวัง
ความชอบธรรมและความรัก
เพื่อเราจะได้ตระหนักว่าพระสัญญาของพระเจ้าสมบูรณ์แล้วในวันที่พระคริสตเจ้าบังเกิด
และจะบรรลุความบริบูรณ์ในวาระสุดท้าย
2.
บทเรียนสำหรับเรา
ในพระวรสารวันนี้
พระเยซูเจ้าได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติ
ประการแรก
จงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ การตื่นเฝ้าแสดงให้เห็นถึงลักษณะของผู้ที่เป็นศิษย์
ซึ่งมุ่งหวังและรอคอยพระคริสตเจ้าเสด็จกลับมา การตื่นเฝ้าไม่ใช่การอยู่เฉยๆ แต่ต้องอธิษฐานภาวนา
เพื่อช่วยเราให้มีความเข้มแข็งในการเอาชนะความโน้มเอียงไม่ดีต่างๆ “จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะไม่เข้าสู่การทดลอง”
(มก 14:38) การภาวนาแท้จริงแล้วหมายถึง การทำหน้าที่ของเราตามบทบาทและฐานะของเราในแต่ละวันให้ดีที่สุด
ประการที่สอง
เราต้องเตรียมพร้อมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ให้พระองค์องค์บังเกิดในชีวิตประจำวันของเรา ด้วยการกลับใจใช้โทษบาป
ฟื้นฟูชีวิตของเราผ่านทางการภาวนา การรับศีลอภัยบาปและการแบ่งปันพระพรของพระเจ้ากับผู้อื่น
“จะมีประโยชน์อะไร
ถ้าพระเยซูเจ้าบังเกิดในถ้ำนับพันแห่งทั่วโลก แต่มิได้บังเกิดในใจฉัน”
(อเล็กซานเดอร์ โป๊ป)
พระเยซูเจ้าจะต้องบังเกิดในใจเราและชีวิตของเราตลอดเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯนี้
ในความรัก ความใจกว้าง ความเมตตากรุณาและการให้อภัยของเรา ที่พึงมีต่อผู้ที่กำลังเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
ประการที่สาม เราต้องวางใจในพระเยซูเจ้า ท่ามกลางความทุกข์โศกเศร้าที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา อาทิ
การหย่าร้าง การตกงาน การเจ็บป่วย หรือการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นความทุกข์หนักเกินกำลังและทำให้ชีวิตของเราไม่มีความหมาย
พระเยซูเจ้าตรัสกับเราในวันนี้ว่า “ท่านทั้งหลายจงยืนตรง
เงยศีรษะขึ้น เพราะในไม่ช้าท่านจะได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระแล้ว” (ลก 21:28)
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ไม่เพียงเป็นช่วงเวลาที่เราระลึกถึงการเสด็จมาบังเกิดของพระเยซูเจ้า
หรือการเสด็จมาครั้งสุดท้ายในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ แต่เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เปิดใจต้อนรับพระองค์เข้ามาในชีวิตของเราและในโลก ในความรัก ความใจกว้าง ความเมตตากรุณาและการให้อภัยของเรา
ที่พึงมีต่อกันในสังคม หมู่คณะและหมู่บ้านของเรา
พระวรสารวันนี้เตือนใจเราว่า
เราต้องตื่นเฝ้าภาวนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อเราจะได้มีความเข้มแข็งในการต่อสู้และเอาชนะความโน้มเอียงไม่ดีต่างๆ
ในชีวิตเรา อีกทั้งตื่นเฝ้าเพื่อต้อนรับและจดจำพระเยซูเจ้าที่เสด็จมาหาเราในบุคคล สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ
ในแบบที่เราคาดไม่ถึง เราจึงต้องดำเนินชีวิตคริสตชนของเราในเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯนี้ด้วยความเชื่อ
ก้าวเดินไปด้วยความหวังและรื้อฟื้นชีวิตของเราในแต่ละวันด้วยความรัก เพื่อเราจะได้ต้อนรับและจำพระองค์ได้
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์
นาบัว30 พฤศจิกายน 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น