วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า


การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า

วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 33
เทศกาลธรรมดา
ปี B
ดนล 12:1-3
ฮบ 10:11-14, 18;
มก 13:24-32

บทนำ

 ในการเรียนคำสอนวันหนึ่ง คุณครูได้ถามนักเรียนในชั้นว่า “ถ้าครูขายบ้านและรถยนต์ที่มีได้เงินมาสิบล้านบาท และมอบเงินทั้งหมดให้วัด ครูจะได้เข้าสวรรค์ไหม” ทุกคนตอบพร้อมกันว่า “ไม่” ครูถามต่อไปว่า “ถ้าครูช่วยทำความสะอาดวัด ช่วยตัดหญ้าในสนามและรดน้ำดอกไม้ในวัดทุกวัน ครูจะได้เข้าสวรรค์ไหม” คำตอบของเด็กเหมือนเดิมคือ “ไม่” ครูจึงถามอีกว่า “ถ้าครูทำแต่ความดี ให้ขนมนักเรียนทุกคน ช่วยคนที่เดือดร้อนและรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก แบบนี้ครูจะได้เข้าสวรรค์ไหม” พวกเขายังคงตอบว่า “ไม่” คุณครูจึงถามว่า “แล้วทำอย่างไรครูถึงจะได้เข้าสวรรค์” เด็กชายอายุ 5 ขวบคนหนึ่งตะโกนว่า “คุณครูต้องตายก่อนครับ”

บทอ่านวันนี้ได้ให้หลักประกันกับเราว่า พระเจ้าทรงประสงค์จะอยู่กับเราทุกวันในชีวิตของเรา เป็นการประทับอยู่อย่างต่อเนื่องของพระจิตเจ้า เพื่อนำทางและปกป้องเราจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต เมื่อพระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งอย่างรุ่งโรจน์ เพื่อพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย โดยเชิญชวนเราให้พุ่งความสนใจไปที่ การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า พระองค์เสด็จมาครั้งแรกในการรับเอากายเป็นมนุษย์ในฐานะพระผู้ไถ่ ครั้งที่สองในการเสด็จมาอย่างรุ่งโรจน์ในวาระสุดท้ายเพื่อนำความรอดที่สมบูรณ์มาสู่เรา และพระองค์เสด็จมาหาเราทุกครั้งที่เราเจริญคริสตชนอย่างแท้จริง

บทอ่านวันนี้จัดอยู่ในวรรณกรรมแบบ “วิวรณ์” ซึ่งผู้เขียนใช้เพื่อบรรเทาใจและให้กำลังใจผู้ที่กำลังทนทุกข์จากการเบียดเบียนเพราะความเชื่อ เป็นการเขียนด้วยภาษาสัญลักษณ์ ใช้การพูดเป็นนัยและเอ่ยถึงทางอ้อมที่รู้กันเฉพาะคริสตชน โดยที่ผู้เบียดเบียนไม่เข้าใจ เราต้องพยายามฟังพระวาจาของพระเจ้าแบบวิวรณ์นี้ เพื่อให้ความหวังในอนาคตที่สุกใสกว่าสำหรับชนทุกยุคทุกสมัย

1.           การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า

พระวรสารนักบุญมาระโกเขียนขึ้นในปี ค.ศ. 69 หนึ่งปีก่อนกองทัพโรมันรุกรานกรุงเยรูซาเล็ม ทำลายพระวิหารและเบียดเบียนกลุ่มคริสตชน ทำให้บรรดาคริสตชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้าว่าจะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของพวกเขา นักบุญมาระโกได้ให้ความหวังคริสตชนที่กำลังทนทุกข์ โดยย้ำเตือนพวกเขาถึงพระดำรัสของพระเยซูเจ้า เกี่ยวกับการเสด็จกลับมาอีกครั้ง อย่างทรงฤทธานุภาพและเกียรติมงคลยิ่งใหญ่ เพื่อพิพากษา รวบรวมและให้รางวัลแก่ผู้ที่เชื่อในพระองค์

ดังนั้น นักบุญมาระโกจึงพยายามที่จะทำให้ความเชื่อของบรรดาคริสตชนเหล่านี้เข้มแข็ง ด้วยการอ้างถึงคำทำนายของพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับการเบียดเบียนกลุ่มคริสตชน (มก 13:9-13) การทำลายกรุงเยรูซาเล็ม (มก 13:2, 7-9, 14-20) การปรากฏของพระคริสต์เทียมและประกาศกเทียม (มก 13:5-6, 21-23) วาระสุดท้ายของโลกและการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสตเจ้า (มก 13:24-26)

นักบุญมาระโกยังให้ความหวังแต่กลุ่มคริสตชนที่ถูกเบียดเบียน โดยเตือนพวกเขาถึงคำทำนายของพระเยซูเจ้าว่า สงคราม ภัยพิบัติทางธรรมชาติและการทรยศหักหลังที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่เหล่านี้ การเสด็จมาของบุตรแห่งมนุษย์จะชนะทุกอย่างและรวบรวมผู้ที่รักพระองค์ ทั้งนี้เพื่อเตือนเราว่า ชีวิตเรามิได้สั้นหวังโดดเดี่ยว ความสัมพันธ์อันดีกับพระคริสตเจ้าจะช่วยให้เรามีจิตใจสงบและความหวังอันสดใสท่ามกลางปัญหาต่างๆ ในโลก

2.           บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติสำหรับเราคริสตชนหลายประการ

ประการแรก เราต้องมองเห็นการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวัน พระองค์ทรงเสด็จมาหาเราในเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เราต้องเรียนรู้ที่จะจดจำและต้อนรับพระองค์ที่เสด็จมาในแบบที่เราไม่คาดคิด ในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งในเวลาแห่งความสุข ความทุกข์หรือความผิดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระองค์ประทับอยู่เมื่อเราปฏิบัติต่อกันด้วยความสุภาพ ใจกว้างและห่วงใย ให้เราพยายามที่จะนำพระองค์ไปสู่โลก เหมือนบุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาที่ทำสิ่งเล็กน้อยต่อทุกคนด้วยความรักอันยิ่งใหญ่

ประการที่สอง เราต้องไม่หวั่นไหวและวิตกทุกข์ร้อน วันสิ้นโลกจะต้องไม่ทำให้เราอกสั่นขวัญแขวน เพราะชีวิตของเราวางไว้ในพระหัตถ์และความรักของพระเจ้า การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้าบอกให้เราทราบว่า พระเจ้าทรงร่วมเดินทางไปกับเราท่ามกลางอุปสรรคปัญหาและสถานการณ์แห่งความยากลำบากในชีวิต พระองค์ตรัสกับเราทางพระคัมภีร์ ทรงประทับอยู่ท่ามกลางเราทางศีลมหาสนิท เราจึงต้องมั่นมาร่วมพิธีมิสซาและรับพระองค์ในศีลมหาสนิท

ประการที่สาม เราต้องอ่านเครื่องหมายแห่งกาลเวลา คำอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อ เตือนเราให้รู้จักมองดูเครื่องหมายแห่งกาลเวลาว่ามีความหมายอะไรสำหรับเรา และมอบความวางใจในพระเจ้า เราไม่รู้วันเวลา วาระสุดท้ายแห่งชีวิตเราและการเสด็จมาของพระองค์ เราจึงต้องเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับการพิพากษาโดยไม่สิ้นหวัง ด้วยการเจริญชีวิตประจำวันของเราในความรักต่อพระเจ้าและผู้อื่นให้ดีที่สุด

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงประสงค์จะอยู่กับเราทุกวันในชีวิตของเรา เป็นการประทับอยู่อย่างต่อเนื่องของพระจิตเจ้า เพื่อนำทางและปกป้องเราจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต เมื่อพระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งอย่างรุ่งโรจน์ และพระองค์เสด็จมาหาเราทุกครั้งที่เราเจริญคริสตชนอย่างแท้จริง ในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง

เราถูกเรียกร้องให้แสวงหาและพบพระเจ้าในทุกสิ่ง ในบุคคลแต่ละคน ในทุกสถานที่และทุกสถานการณ์ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราคือการเตรียมตัวเผชิญกับวาระสุดท้ายของโลกและของชีวิตเรา ด้วยการรักและรับใช้พระเจ้าในผู้อื่นในทุกช่วงเวลาของชีวิตในแต่ละวัน ด้วยความเชื่อวางใจในพระเจ้าและด้วยความเพียรทนจนถึงวาระสุดท้าย

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
สำนักมิสซัง, สกลนคร
16 พฤศจิกายน 2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น