ฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง
วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 16
เทศกาลธรรมดา
ปี B
|
ยรม 23:1-6
อฟ 2:13-18
มก 6:30-34
|
บทนำ
จากเรื่องราวชีวิตของบุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา
ที่แสดงความรักต่อคนที่โดดเดี่ยวและไม่เป็นที่ต้องการ ซึ่งคุณแม่มองว่าพวกเขาเป็นเหมือนฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง
บางครั้งคนเหล่านี้อาจเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวย เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งคุณแม่เทเรซาได้ไปเยี่ยมบ้านพักคนชราที่สร้างอย่างดี
มีเครื่องอำนวยความสะดวกและเครื่องใช้ทันสมัย อาหารดีมาก มีหมอและพยาบาลคอยดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด
คุณแม่เทเรซาสังเกตเห็นว่าบรรดาคนชราเหล่านั้นไม่มีใครยิ้มเลย
จนกระทั่งคุณแม่สัมผัสพวกเขาจึงเห็นรอยยิ้มจากพวกเขาเป็นครั้งแรก
คุณแม่ยังสังเกตอีกว่า พวกเขามักจะมองไปที่ประตูขณะที่กำลังฟังคุณแม่พูด คุณแม่จึงถามพยาบาลที่ดูแลว่า
“ทำไมจึงเป็นเช่นนี้” พยาบาลตอบว่า “พวกเขากำลังมองดูว่าจะมีญาติคนไหนสักคนมาเยี่ยมพวกเขาไหม นอกจากส่งของขวัญวันเกิดหรือการ์ดอวยพรมาให้บางโอกาส”
คุณแม่เทเรซาจึงตระหนักว่า
“โรคที่คนเป็นกันมากที่สุดในปัจจุบันคือ โรคขาดความรักและมีความรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นที่ต้องการ” ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่อ่อนโยนและเมตตาสงสารต่อบรรดาอัครสาวกที่เหน็ดเหนื่อยจากการงาน
และต่อประชาชนที่ตามหาพระองค์ขณะที่พระองค์กำลังจะขึ้นฝั่งเพื่อพักผ่อน
พระองค์ทรงเชื้อเชิญเราให้สนใจ แสดงความเมตตาสงสารและความรักต่อคนเหล่านี้ ซึ่งเป็นดังฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง
1.
ฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง
ผู้เลี้ยง เป็นภาพพจน์ที่ชาวยิวคุ้นเคย
เนื่องจากบรรพบุรุษของพวกเขามีอาชีพเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนไปทั่ว
ต่อมาเมื่อตั้งหลักแหล่งมั่นคง คำว่า “ผู้เลี้ยง” ได้กลายเป็นภาพพจน์ที่ใช้กับผู้นำศาสนา
ส่วน “ฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง” คือสภาพความเป็นจริงของชาวยิวในห้วงเวลาที่อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมัน
ขาดผู้นำทางศาสนาและการเมืองที่จะมาช่วยพวกเขา ดังเช่นฝูงแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง
ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ประการสำคัญ การไม่มีคนเลี้ยงหมายถึงการไม่มีอาหาร
เพราะไม่มีผู้พาไปยังทุ่งหญ้าและแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้ง
ไม่มีคนคอยปกป้องจากอันตรายต่างๆ ที่อยู่รอบข้าง อาจถูกหมาป่ากัดกินได้
ในฐานะผู้เลี้ยงแกะที่ดีที่ประกาศกเยเรมีย์กล่าวถึง พระเยซูเจ้าทรงรักและสงสารประชาชนเหล่านั้น
แผนการที่วางไว้ (การพักผ่อนกับบรรดาอัครสาวก) ถูกพับเก็บ ทรงเลิกนึกถึงตนเองและลืมความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมด
ทรงสอนพวกเขาด้วยพระวาจาที่ให้กำลังใจและให้ชีวิต ทรงเลี้ยงอาหารพวกเขาให้อิ่มหนำและทรงปกป้องพวกเขาจากอันตราย
พระองค์ทรงเติมเต็มจิตใจและร่างกายของพวกเขาให้พบสันติสุข ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ยิ่งใหญ่ผู้เป็น
“หนทาง ความจริงและชีวิต” (ยน 14:6) ที่มีเวลาสำหรับพวกเขาเสมอ
บรรดาอัครสาวกและคริสตชนแต่ละคน เป็นส่วนหนึ่งของฝูงแกะของพระคริสตเจ้า การสรวลอยู่กับการทำมาหาเลี้ยงชีพของพ่อบ้านแม่เรือน
การยุ่งอยู่กับการกินดื่มและเที่ยวเตร่ในกลุ่มเพื่อนของหนุ่มสาว
จนไม่มีเวลาสวดภาวนา แม้วันอาทิตย์ก็ไม่มีเวลามาวัดหาพระเจ้า
คือสภาพของฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยงในยุคสมัยของเรา
ที่เราจะต้องใส่ใจและหาทางช่วยเหลือพวกเขาให้ได้มาพบและพักผ่อนกับพระเยซูเจ้า
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้
ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติสำหรับเราคริสตชนหลายประการ
ประการแรก เราต้องเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี
พระเยซูเจ้าได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับอัครสาวกและเราแต่ละคนว่า พวกเราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่พระองค์ทรงเลือก
ที่จะต้องลืมนึกถึงตนเอง ผลประโยชน์ส่วนตนและสิทธิพิเศษต่างๆ ที่เราจะได้รับ
แต่หัวใจของเราจะต้องเปิดกว้างต่อความเดือดร้อนและความต้องการของผู้อื่นที่อยู่รอบข้างเรา
พร้อมกับยื่นมือช่วยเหลือ
ประการที่สอง
เราต้องเป็นแกะที่ดีในฝูงของพระเยซูเจ้า เราแต่ละคนจะไม่ตกอยู่ในอันตรายหากเราอยู่ภายใต้การนำของพระเยซูเจ้าในพระศาสนจักรและฟังเสียงของพระองค์
ไม่หลงไปตามกระแสค่านิยมที่ผิดของสังคม (ที่มุ่งเน้นสุขนิยม วัตถุนิยมและบริโภคนิยม)
เพื่อเราจะได้รับพลังและความช่วยเหลือจากพระองค์ เราต้องหมั่นมาหาพระองค์บ่อยๆ
ในศีลศักดิ์สิทธิ์และการภาวนา เป็นต้น ในพิธีบูชาขอบพระคุณวันอาทิตย์
ซึ่งเป็นสถานที่สงบที่เราจะได้พบและพักผ่อนกับพระองค์
ประการที่สาม เรามีพันธกิจที่จะต้องเทศน์สอนและเลี้ยงอาหาร คริสตชนแต่ละคนมีหน้าที่ที่จะต้องภาวนาและกระทำกิจการดี
การภาวนาจะทำให้เราตระหนักถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและมีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระองค์
ในอันที่จะช่วยเราให้แสดงออกให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าในภาคปฏิบัติ
ในความช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับเพื่อนพี่น้องที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่อ่อนโยนและสงสาร ทั้งต่อบรรดาอัครสาวกและประชาชน
บรรดาอัครสาวกเหน็ดเหนื่อยจากทำงานจนไม่มีเวลาแม้จะรับประทานอาหาร
พระองค์จึงเชิญชวนพวกเขาไปพักผ่อนกับพระองค์
แต่ก็ต้องพบกับฝูงชนที่สิ้นหวังและไร้ที่พึ่งซึ่งออกตามหาพระองค์
พระองค์ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราแต่ละคน
ให้มีจิตใจที่อ่อนโยนและสงสารเช่นเดียวกับพระองค์
ที่ลืมแผนการทุกอย่างและเลิกนึกถึงตนเอง
ให้เราได้วอนขอพระเยซูเจ้า เพื่อเราจะได้มีจิตใจอ่อนโยนและสงสารคนที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือที่อยู่รอบตัวเรา
ให้เราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงโครงการพักผ่อนและแผนงานทุกอย่างของเรา
เพื่อเห็นแก่ความรักต่อเพื่อนพี่น้องที่อยู่ต่อหน้าเรา
นี่คือเครื่องหมายแห่งการเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อฝูงแกะที่พระเจ้าทรงมอบให้อยู่ในความดูแลของเรา
ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว เพื่อนบ้านหรือหมู่คณะที่เราสังกัดอยู่
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว20 กรกฎาคม 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น