วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พระเยซูเจ้า ผู้เลี้ยงแกะที่ดี

วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา ปี A
กจ 2:14ก, 36-41
1 ปต 2:20ข, 25
ยน 10:1-10

บทนำ

ในระหว่างสงครามเกาหลีมีเรื่องเล่าว่า ทหารคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บใกล้จะตาย เขาได้ร้องหาพระสงฆ์ แต่แพทย์สนามหาพระสงฆ์ไม่พบ ทหารบาดเจ็บคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ได้ยินเสียงร้องนั้นจึงพูดว่า “ผมเป็นพระสงฆ์” แพทย์สนามหันไปยังเสียงนั้นและพบว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสยิ่งกว่าอีก จึงเตือนว่า “อย่าขยับเขยื้อน เพราะอาจทำให้คุณตายได้” แต่พระสงฆ์ประจำกองทัพองค์นั้นตอบว่า “ชีวิตวิญญาณของมนุษย์คนหนึ่ง มีค่ายิ่งกว่าเวลาแห่งชีวิตของผม” จากนั้น เขาได้คลานไปยังทหารบาดเจ็บ ฟังคำสารภาพบาปและยกบาปให้ ก่อนที่ทั้งคู่จะสิ้นใจโดยจับมือกันแน่น

อาทิตย์นี้ เราฉลองพระเยซูเจ้านายชุมพาบาลที่ดี พระศาสนจักรเรียกเราให้ไตร่ตรองถึงความหมายแห่งการเรียกของพระเจ้าและภาวนาเพื่อกระแสเรียกเป็นพิเศษ อีกทั้งเตือนใจเราว่า ในฐานะคริสตชนเรามีหน้าที่และความรับผิดชอบในการส่งเสริมกระแสเรียก พระคัมภีร์ได้ใช้ภาพพจน์ของ “นายชุมพา” หรือ “ผู้เลี้ยงแกะ” เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพระเจ้ากับประชากรอิสราแอล

ในดินแดนปาเลสไตน์อาชีพเลี้ยงแกะถือเป็นอาชีพหลักที่สำคัญอย่างหนึ่ง ชาวยิวเลี้ยงแกะไว้เพื่อตัดขนมากกว่าเป็นอาหาร แกะแต่ละตัวมีอายุยืนและอยู่กับคนเลี้ยงนานจนจำชื่อที่ตั้งให้ได้ทุกตัว ปกติคนเลี้ยงจะเดินนำหน้าฝูงแกะเพื่อดูให้แน่ใจว่าหนทางข้างหน้าปลอดภัย และคอยส่งเสียงร้องเป็นครั้งคราวเพื่อให้แกะรู้ตำแหน่งที่อยู่ของตน ลักษณะพิเศษของแกะคือจะฟังเสียงและติดตามคนเลี้ยงเสมอ หากได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยจะหยุดอยู่กับที่และจะหันหลังวิ่งหนีทันทีหากเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง

1. พระเยซูเจ้า ผู้เลี้ยงแกะที่ดี

ภาพพจน์เรื่องนายชุมพาและฝูงแกะ เป็นภาพพจน์ที่รู้จักแพร่หลายในพระคัมภีร์ ตั้งแต่แรกเริ่มชาวยิวมองว่า พระเจ้าคือนายชุมพาที่ทรงเลี้ยงดูพวกเขาดุจลูกแกะ (สดด 23) ในเวลาต่อมาคำว่า “นายชุมพา” หรือ “ผู้เลี้ยงแกะ” ได้ใช้หมายถึงผู้นำชาวยิว ซึ่งเป็นตัวแทนของพระเจ้าพระยาเวห์ในโลก แต่ในความเป็นจริง ผู้เลี้ยงแกะเหล่านี้ไม่ได้เป็นผู้เลี้ยงที่ดีสมกับการเป็นตัวแทนของพระองค์ ในพันธสัญญาใหม่ พระเยซูเจ้าทรงเรียกผู้ติดตามและฟังพระองค์ว่า “ฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง” (มก 6:34) และได้เปิดเผยว่า พระองค์เป็น “ผู้เลี้ยงแกะที่ดี” (ยน 10:11)

ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าได้เปรียบเทียบให้เห็นว่า พระองค์ทรงเป็นทั้ง “ผู้เลี้ยงแกะ” และ “ประตูแกะ” การเป็นผู้เลี้ยงแกะแสดงถึงความเป็นเจ้าของแกะของพระองค์ที่ต่างจากคนรับจ้างทั่วไป ทรงเรียกชื่อแกะแต่ละตัว แกะเหล่านั้นจำเสียงของพระองค์ได้ ประการสำคัญ พระองค์ทรงยอมตายเพื่อฝูงแกะ ส่วนการเป็น “ประตูแกะ” แสดงถึงความเป็นผู้นำของพระองค์ที่นำฝูงแกะมาหาพระบิดาเจ้า และปกป้องคุ้มครองแกะให้ได้รับความปลอดภัย

“เราเป็นประตู ผู้ที่เข้ามาทางเราก็จะรอดพ้น” (ยน 10:9) นั่นหมายความว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นหนทาง เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ และเชื้อเชิญเราให้เดินตรงไปยังพระองค์ ผ่านทางพระองค์เราจะได้รับการช่วยให้รอด เพราะพระองค์คือหนทางที่นำไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์ครบครัน ผ่านทางพระองค์เท่านั้นที่เราจะเป็นหนึ่งเดียวกับฝูงแกะคือพระศาสนจักร ที่จะได้รับการพิทักษ์คุ้มครองให้ได้รับความรอด

2. บทเรียนสำหรับเรา

ชีวิตของสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ที่ได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นบุญราศีเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา คือรูปแบบชีวิตที่สะท้อนการเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีที่ ซึ่งบิลลี่ แกรแฮม นักเทศน์ทางโทรทัศน์ชาวอเมริกันได้ให้คำอธิบายไว้อย่างลึกซึ้งว่า “พระองค์เจริญชีวิตเหมือนพระอาจารย์ ผู้เลี้ยงแกะที่ดี และพระองค์สิ้นพระชนม์เหมือนพระอาจารย์ ผู้เลี้ยงแกะที่ดี” พระวรสารวันนี้ได้ให้บทเรียนแก่เรา

ประการแรก เราต้องเป็นผู้เลี้ยงและผู้นำที่ดี เราจะกลายเป็นผู้เลี้ยงที่ดีได้ในความรักที่เรามีต่อเพื่อนพี่น้อง ภาวนาเพื่อเขา ให้เวลาและใช้พระพรพิเศษต่างๆ ที่เรามีเพื่อผู้อื่น ในการส่งเสริมความรัก และความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ประการที่สอง เราต้องเป็นแกะที่ดีในฝูงแกะของพระเยซูเจ้า ด้วยการฟังเสียงผู้เลี้ยงของเรา อย่างบิดามารดา ครูบาอาจารย์ เจ้าอาวาส หรือพระสังฆราชของเรา ปฏิบัติตามคำแนะนำและร่วมมือกับท่านในงานหน้าที่ต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายด้วยความรับผิดชอบ มิใช่การหลงไปตามเสียงอื่น เช่น เสียงเรียกร้องของความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนัง ความมักได้เห็นแก่ตัว หรือความสะดวกสบายฝ่ายโลก

ประการที่สาม เราต้องภาวนาเพื่อกระแสเรียกและชีวิตผู้อภิบาล พระศาสนจักรได้ใช้อาทิตย์นี้ในการภาวนาเพื่อกระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์ และชีวิตแห่งการอุทิศตนเพื่อพระเจ้า คริสตชนแต่ละคนมีส่วนในการส่งเสริมและสนับสนุนกระแสเรียก “แม้เราจะเป็นนักบวชหรือพระสงฆ์ไม่ได้ แต่เราสามารถสนับสนุนใครบางคนให้เป็นนักบวชหรือพระสงฆ์ได้”

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงยืนยันกับเราในวันนี้ว่า พระองค์เป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ทรงรักและรู้จักแกะทุกตัว ทรงดูแลเอาใจใส่แกะแต่ละตัวเป็นอย่างดี และทรงปกป้องฝูงแกะจากสุนัขป่าและอันตรายต่างๆ ด้วยชีวิตของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทิ้งฝูงแกะแล้วหนีไป ปล่อยให้แกะอยู่ตามยถากรรม หรือทิ้งให้เผชิญกับอันตรายตามลำพังเหมือนผู้รับจ้างทั่วไป แต่พระองค์ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แกะทุกตัวปลอดภัยและไม่กระจัดกระจายไป เพื่อว่า “จะมีแกะแต่ฝูงเดียวและนายชุมพาบาลแต่ผู้เดียว”

พระวรสารวันนี้ยืนยันกับเราว่า ใครที่มาหาพระเยซูเจ้าและฟังเสียงของพระองค์จะไม่หลงทางและจะได้รับชีวิตนิรันดร และให้เราเลียนแบบความรักของผู้เลี้ยงแกะที่ดีในการปฏิบัติต่อผู้อื่น หากพระเยซูเจ้าเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีสำหรับเรา เราจะต้องดำรงตนในความรักของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความรักต่อผู้อื่น “ถ้าท่านมีความรักต่อกัน ทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา” (ยน 13:35) ที่สำคัญมากกว่านั้น หากเราต้องการเป็นผู้เลี้ยงที่ดีเช่นเดียวกับพระองค์ เราจะต้องมีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้า ในการรักซึ่งกันและกันกับเพื่อนพี่น้อง ในครอบครัว หมู่คณะ และหมู่บ้านของเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
13 พฤษภาคม 2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น