สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา ปี A
กจ 2:14,22-28
1ปต 1:17-21
ลก 24:13-35
เอมมาอูสและพิธีบิขนมปัง
บทนำ
หลังร่วมพิธีมิสซาวันอาทิตย์ เด็กหนุ่มคนหนึ่งได้เดินกลับบ้านผ่านสวนสาธารณะ เขาฉุดคิดถึงบทเทศน์ที่ได้ยินในมิสซาที่คุณพ่อเทศน์ว่า “เมื่อท่านให้บางสิ่งกับใครคนหนึ่ง แท้จริงแล้วท่านได้ให้พระเยซูเจ้า และท่านจะเห็นพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพในทุกคนที่ท่านพบ” เขาสังเกตเห็นคุณยายคนหนึ่งนั่งอยู่บนม้านั่งโดยลำพังและดูเหมือนเธอกำลังหิว เขาจึงนั่งลงข้างคุณยายและแบ่งชอกโกแลตของเขาให้เธอ
คุณยายยิ้มกว้างรับชอกโกแลตจากเขาและกินอย่างอเหร็ดอร่อย เขานั่งมองคุณยายอย่างมีความสุขโดยไม่พูดอะไร ที่สุด เขาได้ลุกขึ้นสวมกอดคุณยายและเดินจากไป เมื่อเขากลับถึงบ้าน แม่ของเราเห็นเขายิ้มอย่างมีความสุขจึงถามเขาว่า “อะไรนะที่ทำให้ลูกมีความสุขวันนี้” เขาตอบแม่ว่า “ผมได้แบ่งชอกโกแลตของผมให้พระเยซูเจ้า” ก่อนที่แม่จะถามอะไรอีก เขาได้กล่าวเสริมว่า “แม่รู้ไหมว่าพระองค์ยิ้มสวยมาก”
ในเวลาเดียวกัน คุณยายได้เดินกลับห้องพักซึ่งเธออาศัยอยู่กับน้องสาว “ทำไมวันนี้ดูยิ้มอย่างความสุขกว่าทุกวัน” น้องสาวถาม “วันนี้ฉันได้รับชอกโกแลตจากพระเยซูเจ้า ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในสวนสาธารณะ” เธอตอบ “พระองค์ดูงามสง่าและหนุ่มกว่าที่ฉันคิดเสียอีก” พระวรสารวันนี้บอกเราว่า เราจะพบและมีประสบการณ์เกี่ยวกับพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพในทุกสถานที่และกับบุคคลที่เราคาดไม่ถึง
1. เอมมาอูสและพิธีบิขนมปัง
เรื่องศิษย์สองคนที่เอมมาอูส เป็นเรื่องเล่าที่งดงามเรื่องหนึ่งของลูกา ที่แสดงให้เห็นถึงเทววิทยาเรื่องพิธีบูชาขอบพระคุณ ซึ่งประกอบด้วยสองภาคคือ ภาคพระวาจาและภาคศีลมหาสนิท การเติบโตในความเชื่อเกิดขึ้นโดยอาศัยพระวาจาของพระเจ้า และบรรลุถึงความสมบูรณ์ในการฉลองศีลมหาสนิท ศิษย์ของพระเยซูเจ้าตอบสนองต่อพระวาจาของพระเจ้าทั้งสองรูปแบบ “ใจของเราไม่ได้เร่าร้อนเป็นไฟอยู่ภายในหรือ เมื่อพระองค์ตรัสกับเราขณะเดินทาง และอธิบายพระคัมภีร์ให้เราฟัง” และในพิธีบูชาขอบพระคุณ ที่พวกเขา “จำพระองค์ได้เมื่อทรงบิขนมปัง”
ศิษย์สองคนเปิดประตูบ้านเชิญพระเยซูเจ้าให้ร่วมรับประทานอาหารกับพวกเขา พระเยซูเจ้าทรงหยิบขนมปัง กล่าวถวายพร บิออกและยื่นให้พวกเขา พระองค์ทรงปฏิบัติแบบเดียวกันกับที่ทรงกระทำในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ทำให้ตาของพวกเขาสว่างและจำพระองค์ได้ พิธีบิขนมปังที่เอมมาอูสจึงเป็นการฉลองศีลมหาสนิท อาหารฝ่ายจิต ซึ่งเป็นข่าวดีแห่งปัสกาที่เราฉลองการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า
พระศาสนจักรในระยะเริ่มแรก มีเอกลักษณ์อยู่ที่พิธีบิขนมปังและการนำสิ่งของมารวมเป็นของกลาง (กจ 2:42) กลุ่มคริสตชนแรกจึงมักเว้นที่ให้พระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพประทับอยู่ด้วยเสมอ ดังนั้น การที่พวกเขามาร่วมพิธีบิปัง เพื่อจะได้พบกับองค์พระคริสตเจ้าผู้กลับคืนชีพ ในพิธีบิขนมปัง พระเยซูเจ้าได้บันดาลให้ศิษย์ทั้งสองคนตาสว่าง พระองค์ได้แปรเปลี่ยนความท้อแท้ สิ้นหวังให้กลายเป็นความยินดีและความหวัง จนพวกเขาไม่สามารถเก็บไว้กับตัวเอง ต้องรีบรุดกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อแบ่งปันประสบการณ์นี้กับคนอื่น
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวรสารวันนี้ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราคริสตชน โดยเฉพาะคนที่กำลังแสวงหาพระเยซูเจ้า หรือคนที่ได้สูญเสียพระองค์ไป
1) พระเยซูเจ้าทรงร่วมทางสู่เอมมาอูส เราคงเคยมีช่วงเวลาของความท้อแท้ สิ้นหวัง ที่เรารู้สึกว่ากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายและยากลำบากโดยลำพัง ความจริงพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพทรงประทับอยู่และร่วมทางกับเรา ทรงตรัสกับเรา ช่วยเหลือเรา และทำให้เราเข้มแข็งในแบบที่เราคาดไม่ถึง แม้เราจะมองไม่เห็นพระองค์ก็ตาม เส้นทางสู่เอมมาอูสจึงเป็นเส้นทางแห่งมิตรภาพที่ยืนยันว่า พระเยซูเจ้าทรงอยู่กับเราตลอดไปจนสิ้นพิภพ (มธ 28:20)
2) เราพบพระเยซูเจ้าได้ในพระคัมภีร์ ในการเดินทางสู่เอมมาอูส พระเยซูเจ้าได้ร่วมทางและอธิบายพระคัมภีร์ทุกข้อที่กล่าวถึงพระองค์ นั่นหมายความว่า เราสามารถพบพระเยซูเจ้าได้ทุกวันในการอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ “ของประทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเจ้าประทานแก่มนุษย์คือพระคัมภีร์” (อับราฮัม ลินคอล์น) การรำพึงตามพระวาจาของพระเจ้าในแต่ละวันจะช่วยให้เราเข้าใจถึงแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประทับอยู่ของพระองค์ในผู้อื่น
3) เราพบพระเยซูเจ้าในพิธีบิขนมปัง ศิษย์สองคนที่เอมมาอูสจำพระเยซูเจ้าได้ตอนบิขนมปัง เราสามารถพบพระองค์ได้ในศีลมหาสนิท ในพิธีบูชาขอบพระคุณที่เรามาร่วมทุกอาทิตย์ “ผู้ที่กินเนื้อของเราและดื่มโลหิตของเรา ก็ดำรงอยู่ในเราและเราก็ดำรงอยู่ในเขา” (ยน 6:56) ศีลมหาสนิทจึงเป็นอาหารฝ่ายจิตที่ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้าและเพื่อนพี่น้อง ประสบการณ์ที่เรามีกับพระเยซูเจ้าไม่สามารถเก็บไว้กับตัวเอง แต่ต้องแบ่งปันกับผู้อื่น เพื่อช่วยทุกคนให้พบกับพระเยซูเจ้าและนำเขาไปสู่ชีวิตนิรันดร
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การร่วมเดินทางของพระเยซูเจ้าบนเส้นทางสู่เอมมาอูส คือเครื่องหมายแห่งการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางเรา ทรงร่วมชีวิตกับเราโดยเฉพาะในห้วงเวลาแห่งความทุกข์และความยากลำบาก แม้เราจะจำพระองค์ไม่ได้ก็ตาม การร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณเตือนเราถึงอาหารฝ่ายจิตที่ต้องแบ่งปัน และเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง
เอมมาอูส จึงหมายถึงทุกที่ที่เราสามารถพบพระเจ้า พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์ทุกครั้งที่เรารวมกันในนามของพระองค์ “เพราะว่า ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นท่ามกลางพวกเขา” (มธ 18:20) ขอให้เราได้ตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระองค์ที่ทรงร่วมเดินทางกับเรา ตรัสกับเรา ช่วยเหลือเรา และอยู่กับเราจนสิ้นพิภพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพื่อนพี่น้องที่เราพบเห็น
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
6 พฤษภาคม 2011
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น