คุณพ่อพรทวี โสรินทร์ หัวหน้าเขตตะวันตก กล่าวเปิดการสัมมนาพระคัมภีร์เบื้องต้น |
เขตตะวันตกจัดสัมมนาพระคัมภีร์
ท่านจำเนียรย้ำต้องอ่านพระคัมภีร์
ช้างมิ่ง พระสงฆ์เขตตะวันตกจัดสัมมนาพระคัมภีร์เบื้องต้น ที่วัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา มีผู้นำระดับเขต ระดับวัด และระดับชุมชนจากวัดต่างๆ เข้าร่วมสัมมนาเป็นจำนวนมาก ตอนบ่ายพระอัครสังฆราชหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ พร้อมคุณพ่อทินรัตน์ คมกฤส และคณะกรรมการหน่วยงานชุมชนคริสตชนพื้นฐานได้เดินทางมาเยี่ยม และกล่าวกับผู้เข้าร่วมสัมมนาให้อ่านพระคัมภีร์ควบคู่ไปดับการภาวนา
คุณพ่อเฉลิมศีลป์ จันลา เจ้าอาวาสวัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง เจ้าภาพในการสัมมนา |
พระคุณเจ้าจำเนียร สันติสุขนิรันดร์ ได้ย้ำถึงความสำคัญของหนังสือพระคัมภีร์ว่าเป็นหนังสือที่บรรจุพระวาจาของพระเจ้า เป็นเหมือนจดหมายรักที่พระเจ้าเขียนถึงเรามนุษย์ ดังนั้นเราจึงต้องอ่านบ่อยๆ หนังสือพระคัมภีร์สามารถให้คำตอบต่อทุกปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้ ทุกคนจึงควรอ่านพระคัมภีร์ เช่น “เยาวชน ควรอ่านหนังสือพระคัมภีร์ เพื่อเรียนรู้ว่าควรดำรงชีวิตอย่างไร... คริสตชนทุกคน ควรอ่านหนังสือพระคัมภีร์ เพื่อพบการนำทางไปสู่พระเจ้า” พระคุณเจ้ายังได้เตือนว่า การอ่านพระคัมภีร์ต้องกระทำควบคู่ไปกับการภาวนา เพราะเมื่อเราภาวนาเราพูดกับพระเจ้า และเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ พระเจ้าตรัสกับเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ กำลังอธิบายและให้ความรู้เกี่ยวกับ "พระคัมภีร์เบื้องต้น" |
หัวข้อในการสัมมนาครั้งนี้คือ “พระคัมภีร์เบื้องต้น” มีผู้เข้าร่วมการสัมมนา 196 คน ซึ่งเริ่มด้วย วจนพิธีกรรมเปิดการสัมมนา โดยคุณพ่อพรทวี โสรินทร์ หัวหน้าเขตตะวันตก ต่อด้วยการบรรยายของ คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ เจ้าอาวาสวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว ในหัวข้อ “พระคัมภีร์เบื้องต้น” และการบรรยายของ คุณพ่อสุรวุฒิ สมงาม ในหัวข้อ “การอ่านพระคัมภีร์และการภาวนา” ตอนบ่ายเป็นการศึกษาตัวบทและการฝึกปฏิบัติการใช้พระคัมภีร์ ก่อนจะมีวจนพิธีกรรมปิดการสัมมนา โดยคุณพ่อไฟศาล ว่องไว ผู้รับผิดชอบชุมชนคริสตชนพื้นฐานเขตตะวันตก อนึ่ง การสัมมนาครั้งต่อไปจะจัดที่วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย
คุณพ่อสุรวุฒิ สมงาม กำลังอธิบายเรื่อง "พระคัมภีร์และการภาวนา" |
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ ได้อธิบายให้ผู้เข้าสัมมนาได้เข้าใจถึง “ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคัมภีร์” ในประเด็นที่เกี่ยวกับ “การดลใจของพระเจ้า”, “ภาษาของพระคัมภีร์” และ “แบบวรรณกรรม” อีกทั้งยังได้อธิบายถึง “สาระบบพระคัมภีร์” ที่ประกอบด้วยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ โดยอ้างสังฆธรรมนูญเรื่องพระวาจา (Dei Verbum) ว่า พระคัมภีร์เป็นหนังสือที่บรรจุพระวาจาของพระเจ้า เนื่องจากเขียนขึ้นโดยการดลใจของพระเจ้า การศึกษาพระคัมภีร์จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่ประกาศพระวาจาอย่างพระสงฆ์และคนอื่นๆ ที่ต้องเอาใจใส่อ่านและศึกษาพระคัมภีร์อยู่เสมอ
พระคุณเจ้าจำเนียร สันติสุขนิรันดร์ กำลังให้โอวาสให้ทุกคนอ่านพระคัมภีร์ |
สังฆธรรมนูญเรื่องพระวาจาของพระเจ้า ยังได้เตือนคริสตชนทั้งหลายเป็นพิเศษ ให้ศึกษาพระคัมภีร์บ่อยๆ เพื่อจะได้เรียนรู้ “ประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู” (ฟป 3:8) “เพราะการไม่รู้พระคัมภีร์คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า” (นักบุญเยโรม) นอกนั้นยังต้องระลึกว่า การอ่านพระคัมภีร์จะต้องมีการภาวนาควบคู่อยู่ด้วยเสมอ เพื่อจะได้เป็นการสนทนาระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ (DV 25) เพราะว่า “เมื่อเราภาวนาเราพูดกับพระเจ้า และพระเจ้าตรัสกับเราเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์” (นักบุญอัมโบส) คุณพ่อได้สรุปว่า เราต้องอ่านพระคัมภีร์บ่อยๆ เนื่องจากในพระคัมภีร์เราสามารถพบคำตอบเกี่ยวกับทุกสิ่งและทุกปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ เพราะ “พระคัมภีร์คือน้ำพุที่ไม่มีวันเหือดแห้งแห่งความจริงทั้งหมด” (Immanuel Kant)
หมายเหตุ: อ่านเอกสารประกอบคำบรรยายได้ที่ http://www.genesis.in.th/FrKhuan/Sep2010/2010-09-27Basical%20of%20Bible.pdf
จำนวนผู้เข้าร่วมสัมมนาทั้งหมด 196 คน จากทุกวัดในเขตตะวันตก |
Don Daniele รายงาน
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว26 กันยายน 2010
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น