วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

เขตตะวันตกสัมมนาพระคัมภีร์

คุณพ่อพรทวี โสรินทร์ หัวหน้าเขตตะวันตก กล่าวเปิดการสัมมนาพระคัมภีร์เบื้องต้น
 เขตตะวันตกจัดสัมมนาพระคัมภีร์
ท่านจำเนียรย้ำต้องอ่านพระคัมภีร์

ช้างมิ่ง พระสงฆ์เขตตะวันตกจัดสัมมนาพระคัมภีร์เบื้องต้น ที่วัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา มีผู้นำระดับเขต ระดับวัด และระดับชุมชนจากวัดต่างๆ เข้าร่วมสัมมนาเป็นจำนวนมาก ตอนบ่ายพระอัครสังฆราชหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ พร้อมคุณพ่อทินรัตน์ คมกฤส และคณะกรรมการหน่วยงานชุมชนคริสตชนพื้นฐานได้เดินทางมาเยี่ยม และกล่าวกับผู้เข้าร่วมสัมมนาให้อ่านพระคัมภีร์ควบคู่ไปดับการภาวนา

คุณพ่อเฉลิมศีลป์ จันลา เจ้าอาวาสวัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง เจ้าภาพในการสัมมนา

พระคุณเจ้าจำเนียร สันติสุขนิรันดร์ ได้ย้ำถึงความสำคัญของหนังสือพระคัมภีร์ว่าเป็นหนังสือที่บรรจุพระวาจาของพระเจ้า เป็นเหมือนจดหมายรักที่พระเจ้าเขียนถึงเรามนุษย์ ดังนั้นเราจึงต้องอ่านบ่อยๆ หนังสือพระคัมภีร์สามารถให้คำตอบต่อทุกปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้ ทุกคนจึงควรอ่านพระคัมภีร์ เช่น “เยาวชน ควรอ่านหนังสือพระคัมภีร์ เพื่อเรียนรู้ว่าควรดำรงชีวิตอย่างไร... คริสตชนทุกคน ควรอ่านหนังสือพระคัมภีร์ เพื่อพบการนำทางไปสู่พระเจ้า” พระคุณเจ้ายังได้เตือนว่า การอ่านพระคัมภีร์ต้องกระทำควบคู่ไปกับการภาวนา เพราะเมื่อเราภาวนาเราพูดกับพระเจ้า และเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ พระเจ้าตรัสกับเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ กำลังอธิบายและให้ความรู้เกี่ยวกับ "พระคัมภีร์เบื้องต้น"

หัวข้อในการสัมมนาครั้งนี้คือ “พระคัมภีร์เบื้องต้น” มีผู้เข้าร่วมการสัมมนา 196 คน ซึ่งเริ่มด้วย วจนพิธีกรรมเปิดการสัมมนา โดยคุณพ่อพรทวี โสรินทร์ หัวหน้าเขตตะวันตก ต่อด้วยการบรรยายของ คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ เจ้าอาวาสวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว ในหัวข้อ “พระคัมภีร์เบื้องต้น” และการบรรยายของ คุณพ่อสุรวุฒิ สมงาม ในหัวข้อ “การอ่านพระคัมภีร์และการภาวนา” ตอนบ่ายเป็นการศึกษาตัวบทและการฝึกปฏิบัติการใช้พระคัมภีร์ ก่อนจะมีวจนพิธีกรรมปิดการสัมมนา โดยคุณพ่อไฟศาล ว่องไว ผู้รับผิดชอบชุมชนคริสตชนพื้นฐานเขตตะวันตก อนึ่ง การสัมมนาครั้งต่อไปจะจัดที่วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย

คุณพ่อสุรวุฒิ สมงาม กำลังอธิบายเรื่อง "พระคัมภีร์และการภาวนา"

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ ได้อธิบายให้ผู้เข้าสัมมนาได้เข้าใจถึง “ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคัมภีร์” ในประเด็นที่เกี่ยวกับ “การดลใจของพระเจ้า”, “ภาษาของพระคัมภีร์” และ “แบบวรรณกรรม” อีกทั้งยังได้อธิบายถึง “สาระบบพระคัมภีร์” ที่ประกอบด้วยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ โดยอ้างสังฆธรรมนูญเรื่องพระวาจา (Dei Verbum) ว่า พระคัมภีร์เป็นหนังสือที่บรรจุพระวาจาของพระเจ้า เนื่องจากเขียนขึ้นโดยการดลใจของพระเจ้า การศึกษาพระคัมภีร์จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่ประกาศพระวาจาอย่างพระสงฆ์และคนอื่นๆ ที่ต้องเอาใจใส่อ่านและศึกษาพระคัมภีร์อยู่เสมอ

พระคุณเจ้าจำเนียร สันติสุขนิรันดร์ กำลังให้โอวาสให้ทุกคนอ่านพระคัมภีร์

สังฆธรรมนูญเรื่องพระวาจาของพระเจ้า ยังได้เตือนคริสตชนทั้งหลายเป็นพิเศษ ให้ศึกษาพระคัมภีร์บ่อยๆ เพื่อจะได้เรียนรู้ “ประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู” (ฟป 3:8) “เพราะการไม่รู้พระคัมภีร์คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า” (นักบุญเยโรม) นอกนั้นยังต้องระลึกว่า การอ่านพระคัมภีร์จะต้องมีการภาวนาควบคู่อยู่ด้วยเสมอ เพื่อจะได้เป็นการสนทนาระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ (DV 25) เพราะว่า “เมื่อเราภาวนาเราพูดกับพระเจ้า และพระเจ้าตรัสกับเราเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์” (นักบุญอัมโบส) คุณพ่อได้สรุปว่า เราต้องอ่านพระคัมภีร์บ่อยๆ เนื่องจากในพระคัมภีร์เราสามารถพบคำตอบเกี่ยวกับทุกสิ่งและทุกปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ เพราะ “พระคัมภีร์คือน้ำพุที่ไม่มีวันเหือดแห้งแห่งความจริงทั้งหมด” (Immanuel Kant)

หมายเหตุ: อ่านเอกสารประกอบคำบรรยายได้ที่ http://www.genesis.in.th/FrKhuan/Sep2010/2010-09-27Basical%20of%20Bible.pdf
จำนวนผู้เข้าร่วมสัมมนาทั้งหมด 196 คน จากทุกวัดในเขตตะวันตก
Don Daniele รายงาน
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
26 กันยายน 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น