วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2567

พระเมตตาหาที่สุดมิได้

 

พระเมตตาหาที่สุดมิได้

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา ปี B

ฉลองพระเมตตา

กจ 4:32-35

1ยน 5:1-6

ยน 20:19-31

บทนำ

เมื่อ 30 เมษายน 2000 ณ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งเป็นอาทิตย์สัปดาห์ที่สองเทศกาลปัสกา สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ทรงเป็นประธานพิธีบูชาขอบพระคุณแต่งตั้งบุญราศีโฟสตินา  โควัลสกา ให้เป็นนักบุญและอัครสาวกแห่งพระเมตตา และเชื้อเชิญเราให้มีความเชื่อและความหวังในพระบิดาเจ้า ผู้ร่ำรวยด้วยพระเมตตา และช่วยเราให้รอดพ้นผ่านทางพระโลหิตอันล้ำค่าของพระบุตรของพระองค์

ในการประจักษ์มาแก่นักบุญโฟสตินา พระเยซูเจ้าทรงมอบหมายงานสามอย่างแก่โฟสตินา ได้แก่ 1) การอธิษฐานภาวนาเพื่อวิญญาณ และมอบความวางใจต่อพระเมตตาอันไม่อาจเข้าใจของพระเจ้า; 2) บอกให้โลกรู้ถึงพระเมตตาของพระเจ้า และ 3) ตั้งขบวนการใหม่ในพระศาสนจักรโดยเน้นไปที่ความเมตตาของพระเจ้า  ซึ่งกลายมาเป็น “กลุ่มพระเมตตา” ในปัจจุบัน

ในการแต่งตั้งนักบุญโฟสตินา พระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ตรัสว่า “หลังจากการกลับคืนพระชนมชีพของพระบุตรพระเจ้า พระองค์ยังตรัสและไม่เคยหยุดพูดถึงพระบิดาเจ้า ผู้ทรงสัตย์ซื่อต่อความรักนิรันดร์ต่อมนุษย์… การเชื่อในความรักนี้หมายถึงการเชื่อในพระเมตตา” ซึ่งภาพพระเมตตาที่พระเยซูเจ้าทรงสั่งให้โฟสตินาให้วาดขึ้น พร้อมข้อความ “พระเยซูเจ้าข้า ลูกวางใจในพระองค์” เป็นสัญลักษณ์ของความเมตตา การให้อภัย และความรักของพระเจ้า

1.         พระเมตตาหาที่สุดมิได้

ตอนแรกของพระวรสารวันนี้ (ข้อ 19-23) พระเยซูทรงมอบพันธกิจของพระองค์ในการประกาศข่าวดีแห่งความรัก ความเมตตา การอภัยโทษ และความรอดของพระเจ้าแก่บรรดาอัครสาวก พระเยซูทรงใช้พระศาสนจักรเป็นหนทางในการดำเนินพันธกิจของพระองค์ต่อไปในโลก นอกนั้นยังสอนเราด้วยว่า พระศาสนจักรต้องให้พระเยซูเป็นแหล่งพลังและอำนาจ และพระศาสนจักรจะเป็นผู้ส่งสารแท้จริงของพระคริสตเจ้าก็ต่อเมื่อ พระศาสนจักรรักและเชื่อฟังพระองค์อย่างสมบูรณ์เท่านั้น

พระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพได้ประทานอำนาจแก่บรรดาอัครสาวก ในการให้อภัยบาปในพระนามของพระองค์ เป็นการมีส่วนในอำนาจแห่งพระเมตตาของพระเจ้าต่อคนบาป ในพิธีกรรมพระศาสนจักรประกาศพระเมตตาของพระเจ้าผ่านทางพระวาจาของพระเจ้า และศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระกายและโลหิตของพระคริสตเจ้า วิธีที่ชัดเจนที่สุดในการแสดงความเชื่อของเราต่อหน้าพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพคือการให้อภัยผู้อื่น เราไม่สามารถสร้างคริสตชุมชนที่ยั่งยืนได้หากปราศจากการให้อภัยซึ่งกันและกัน

ตอนที่สองของพระวารสาร (ข้อ 24-29) เป็นเรื่องความไม่เชื่อของโทมัสเนื่องจากไม่ได้อยู่กับบรรดาอัครสาวกองค์อื่นเมื่อพระเยซูเจ้าปรากฎมา สัปดาห์ต่อมาพระเยซูเจ้าปรากฏมาและตรัสกับโทมัสว่า “ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อแม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข” (ยน 20:29) โทมัสได้เอาชนะความสงสัยของตนด้วยการได้เห็นและสัมผัสพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพ คริสตชนยุคใหม่ที่ไม่สามารถเห็นพระเยซูด้วยตาได้อีกต่อไป จะต้องเชื่อสิ่งที่ได้ยิน นั่นคือสิ่งที่เปาโลเตือนเรา “ความเชื่อจึงมาจากการฟัง” (รม 10:17)

2.         บทเรียนสำหรับเรา

การฉลองพระเมตตาและพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก เราต้องวอนขอพระเมตตาจากพระเจ้า พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อมอบความรักและความเมตตาให้มนุษย์ เราต้องเชื่อในพระเมตตาและการให้อภัยบาปของพระองค์ พระเยซูเจ้าได้บอกกับซิสเตอร์โฟสตินาให้วอนขอพระเมตตาจากพระองค์ โดยบอกซิสเตอร์ว่า “ไม่มีวิญญาณใดที่ร้องขอความเมตตาจากเราแล้วจะผิดหวัง” พระองค์จะพอพทัยที่สุดเมื่อเราวอนขอพระเมตตาจากพระองค์

ประการที่สอง เราต้องนำพระเมตตาของพระเจ้าไปสู่ผู้อื่น เราต้องให้พระเมตตาของพระเจ้าไหลผ่านชีวิตของเรา ในการรักซึ่งกันและกันและมีใจเมตตาต่อผู้อื่น เหมือนที่พระเจ้าทรงรักเราและมีความเมตตาต่อเรา นี่คือหัวใจสำคัญแห่งคำสอนของพระเยซูเจ้า เราต้องแสดงความเมตตาต่อผู้อื่น ทั้งในคำพูด กิจการ และการอธิษฐานภาวนา

ประการที่สาม เราต้องวางใจในพระเมตตาของพระเยซูเจ้า ดังข้อความที่เขียนใต้รูปพระเมตตาว่า “พระเยซูเจ้าข้า ลูกวางใจในพระองค์” นี่คือส่วนสำคัญที่สุด ใจเราต้องมีความวางใจในพระเมตตาของพระเยซูเจ้า เมื่อเรามีความวางใจในพระเจ้า พระองค์ย่อมสามารถทำอะไรได้ทุกอย่างในชีวิตของเรา  สิ่งที่พระองค์บอกซิสเตอร์โฟสตินให้บอกทุกคนคือ จงเข้ามาหาเราด้วยความวางใจอย่างยิ่ง”

บทสรุป

พี่น้องที่รัก การฉลองพระเมตตาเป็นโอกาสให้คริสตชนได้ตระหนักในพระเมตตาหาที่สุดมิได้ของพระเจ้า ซึ่งเห็นได้อย่างเด่นชัดในการให้อภัยบาปเราเสมอ เราต้องเลียนแบบพระบิดาเจ้าสวรรค์ผู้ทรงความดีอย่างสมบูรณ์ แสดงออกถึงท่าทีแห่งความเมตตา การให้อภัย และสันติสุขแท้จากใจเราแก่กัน สันติสุขบังเกิดขึ้นในใจเราเมื่อเราได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรักที่พระเจ้าประทานแก่เรา และใส่ใจในความต้องการของเพื่อนมนุษย์ เป็นต้น คนยากจน คนขัดสน และคนชายขอบของสังคม

คริสตชนต้องดำเนินชีวิตเป็นเครื่องหมายแห่งพระเมตตาของพระเจ้า ทั้งในคำพูด และการกระทำด้วยความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว การให้อภัยอย่างไม่มีเงื่อนไข และการรับใช้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน โดยเริ่มจากในครอบครัว หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา ศิษย์พระคริสต์ต้องสานต่อพันธกิจของพระเยซูเจ้าในงานเมตตาจิต งานแห่งความรัก และการให้อภัยไม่สิ้นสุดในชีวิตประจำวัน ดำเนินชีวิตเป็นเครื่องมือในการสร้างสันติสุขในสังคมที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความแตกแยก

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก

6 เมษายน 2024

ภาพ : พิธีเปิดเสกวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ, สกลนคร; 20 พฤษภาคม 2023

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น