พระจิตเจ้าในชีวิตคริสตชน
วันอาทิตย์
สมโภชพระจิตเจ้า
ปี A B C
|
กจ 2:1-11
1 คร 12:3ข-7, 12-13
ยน 20:19-23
|
บทนำ
เมื่อร้อยปีก่อน
เรือใบลำหนึ่งได้แล่นออกจากชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้
หลายอาทิตย์ผ่านไปเรือลำนี้จอดสงบนิ่งอยู่กลางทะเลเนื่องจากไม่มีลม
กับต้นเรือรู้สึกสิ้นหวังและลูกเรือกำลังจะตายเพราะกระหายน้ำเนื่องจากน้ำจืดหมด ทันใดนั้นเองปรากฏเรือกลไฟลำหนึ่งแล่นตรงมายังพวกเขา
เมื่อเรือลำนั้นแล่นเข้ามาใกล้ กับตันเรือได้ร้องขอความช่วยเหลือ “เราต้องการน้ำ
ขอน้ำดื่มให้พวกเราด้วย” มีเสียงตอบมาจากเรือกลไฟว่า “จงหย่อนถังลงไปในน้ำตรงบริเวณที่พวกคุณอยู่”
กับตันเรือรู้สึกโมโหในความไม่มีน้ำใจของเรือลำนั้น
แต่ยังแข็งใจอ้อนวอนอีกครั้งว่า “ได้โปรด ขอน้ำดื่มให้พวกเราด้วย” แต่เรือกลไฟตอบกลับมาเช่นเดิมว่า
“หย่อนถังลงไปในน้ำตรงบริเวณที่พวกคุณอยู่” และแล่นเรือผ่านเลยไป
กัปตันเรือโมโหมากและรู้สึกหมดหวัง เขาเดินไปท้ายเรือ เมื่อไม่มีใครเห็น เขาได้หย่อนถังลงไปและตักน้ำขึ้นมาดื่ม
เขาพบว่าเป็นน้ำจืดที่รสชาติดีมาก
นั่นแสดงว่าเรือของเขากำลังลอยอยู่กลางทะเลบริเวณปากแม่น้ำอะเมซอน
(แม่น้ำที่ใหญ่และยาวที่สุดในทวีปอเมริกาใต้) น้ำดื่มบริสุทธิ์อยู่ใต้เรือของพวกเขานั่นเอง
บ่อยครั้ง
สิ่งที่พวกเรากำลังต้องการและแสวงหาอยู่ภายในตัวเรานั่นเอง
เช่นเดียวกับองค์พระจิตเจ้าซึ่งเจริญชีวิตอยู่ภายในตัวเรา
ตั้งแต่วินาทีแรกแห่งชีวิตของเรา พระจิตเจ้าตรัสกับเราในขณะนี้เช่นเดียวกันว่า “จงเปิดใจของเราและมองดูเถิด”
พระจิตเจ้าทรงประทับอยู่ในส่วนลึกแห่งจิตใจของเรา และบันดาลให้เราเร่าร้อนไปด้วยไฟแห่งความรักของพระองค์
วันนี้ทั้งชาวยิวและเราคริสตชนฉลองวันที่ห้าสิบ
(Pentacost)
หลังการสมโภชปัสกา “วันเปนเตกอสเต” ในภาษากรีกหมายถึง “วันที่ห้าสิบ”
สำหรับชาวยิวถือเป็นวันฉลองการขอบพระคุณพระเจ้าหลังฤดูเก็บเกี่ยว
อีกทั้ง เป็นการระลึกถึงการกระทำพันธสัญญาระหว่างพระยาเวห์กับโนอาห์ หลังห้าสิบวันของการเกิดน้ำท่วมใหญ่
และพันธสัญญาที่ทรงกระทำกับประชากรอิสราแอลผ่านทางโมเสสบนภูเขาซีนาย (อพย 20) ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ห้าสิบหลังการอพยพออกจากแผ่นดินอียิปต์
สำหรับเราคริสตชน
วันนี้เป็นวันฉลองพระจิตเสด็จลงมาเหนือบรรดาอัครสาวกเป็นรูปเปลวไฟสัณฐานเหมือนลิ้น
อีกทั้ง เป็นวันฉลองการถือกำเนิดของพระศาสนจักร ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในวันที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมา
(ภายหลังได้รับพระจิตเจ้าเปโตรได้เริ่มประกาศเทศน์สอนมีคนกลับใจรับศีลล้างบาป 3 พันคน)
และเป็นวันฉลองการก่อตั้งพันธสัญญาใหม่ของพระเยซูเจ้ากับพระศาสนจักร ซึ่งเป็นประชากรอิสราแอลใหม่ที่มีบรรดาอัครสาวกเป็นรากฐาน
1.
พระจิตเจ้าในชีวิตคริสตชน
นักบุญเปาโลกล่าวว่า
“หากพระจิตเจ้าไม่ทรงดลใจก็ไม่มีผู้ใดพูดได้ว่า พระเยซูคือองค์พระผู้เป็นเจ้า”
(1
คร 12:3) ดังนั้น เมื่อเราบอกว่าเราเชื่อในพระเยซูเจ้า
นั่นคือเครื่องหมายแห่งการทำงานของพระจิตเจ้าในตัวเรา
พระจิตเจ้าได้ประทานพระพรหลายอย่างให้กับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พระพรแห่งการทำให้เป็นหนึ่งเดียวกัน “เดชะพระจิตเจ้าองค์เดียว
เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเป็นร่ายกายเดียวกัน” (1 คร 12:13) พระจิตเจ้าทรงทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้าและผู้อื่น
พระจิตเจ้ามีบทบาทหลายอย่างในชีวิตคริสตชน: 1) ในฐานะผู้ดำรงอยู่ในตัวเรา ทรงทำให้เราเป็นวิหารที่มีชีวิตของพระองค์ (1 คร
3:16), 2) ในฐานะผู้ทำให้เข้มแข็ง ทรงทำให้เราสามารถต่อสู้เอาชนะการประจญในการเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้าในชีวิต,
3) ในฐานะผู้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์
ทรงบันดาลให้เราศักดิ์สิทธิ์ผ่านทางศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ, 4) ในฐานะผู้สอนและนำทาง
ทรงทำให้เราเข้าใจถึงคำสอนของพระเยซูเจ้า, 5) ในฐานะผู้ฟังและตรัสสอน ทรงฟังคำภาวนาของเราและตรัสกับเราผ่านทางพระคัมภีร์ และ 6) ในฐานะผู้ประทานพระพร ทรงประทานพระคุณต่างๆ และบันดาลให้เราเกิดผล
ทุกวันนี้พระจิตเจ้ายังทรงทำงานในตัวเราและพระศาสนจักร
ทรงทำให้พระศาสนจักรเติบโตแผ่ขยายไปทั่วโลกและเป็นปึกแผ่นมั่นคง
นี่คือผลงานของพระจิตเจ้าซึ่งถือเป็นอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่
พระศาสนจักรเริ่มต้นจากศิษย์เพียงหยิบมือเดียว
ซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้มีการศึกษาอะไรมาก หากนี่มิใช่ผลงานของพระจิตเจ้า
ทุกอย่างคงจบสิ้นตั้งแต่วันที่อาจารย์ของพวกเขาจากไปแล้ว
แต่นี่คืองานของพระจิตเจ้าจึงไม่มีใครหยุดยั้งได้ จุดที่มีการเบียดเบียนศาสนารุนแรงอย่างกรุงโรม
ได้กลายเป็นศูนย์กลางของพระศาสนจักร
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระจิตเจ้าที่เราสมโภชและบทอ่านในวันนี้
ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ
ประการแรก
เราต้องให้พระจิตเจ้านำทางชีวิตเรา
เราได้รับพระจิตเจ้าแล้วตั้งแต่วันที่เราได้รับศีลล้างบาปและศีลกำลัง: 1) เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระจิตเจ้าในตัวเรา,
2) ให้พระจิตเจ้าบันดาลความเข้มแข็งในการเอาชนะการประจญ, 3) แสวงหาความช่วยเหลือของพระจิตเจ้าในความคิด วาจาและการกระทำ และ4)
ฟังเสียงของพระจิตเจ้าที่ตรัสกับเราผ่านทางพระคัมภีร์และคำแนะนำที่ดีต่างๆ
ประการที่สอง
เราต้องดำเนินชีวิตในการให้อภัย
พระเยซูเจ้าทรงเป่าลมเหนือบรรดาอัครสาวกและประทานอำนาจในการอภัยบาป ดังนั้น
เราควรมีท่าทีแห่งการให้อภัยในการปฏิบัติต่อผู้อื่น
เราถูกท้าทายให้แสดงออกต่อกันด้วยความรัก ความอดทน ความใจกว้างและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
การเรียนรู้ที่จะให้อภัยเป็นสิ่งที่เราต้องทำตลอดชีวิต
เพื่อเราจะสามารถเป็นตัวแทนของพระจิตเจ้าผู้ให้อภัยบาป
ประการที่สาม
เราต้องดำเนินชีวิตในพระพรของพระจิต
ผู้บันดาลให้เราร้อนรนด้วยไฟแห่งความรักของพระเจ้า พร้อมที่จะอุทิศตนเพื่อพระศาสนจักร
พร้อมที่จะสร้างสันติสุขเพื่อขจัดความขัดแย้งให้หมดสิ้นไป พร้อมที่จะนำความสุขของพระเจ้าไปสู่ผู้ยากจนและถูกทอดทิ้ง
และพร้อมที่จะใช้พระพรต่างๆ ที่เราได้รับเพื่อประโยชน์ของเพื่อนพี่น้อง “พระพรพิเศษมีหลายประการ
แต่มีพระจิตเจ้าองค์เดียว” (1 คร 12:4)
บทสรุป
พี่น้องที่รัก วันนี้เราฉลองการถือกำเนิดของพระศาสนจักร
พระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้า ในพระกายทิพย์นี้เราได้รับการล้างและการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์
ผ่านทางศีลล้างบาปและศีลกำลังเราได้รับพระจิตเจ้าเหมือนดังที่บรรดาอัครสาวกได้รับในวันเปนเตกอสเต
และเช่นเดียวกับบรรดาอัครสาวก เราได้รับมอบพันธกิจให้สานต่องานของพระเยซูเจ้าในการทำให้อาณาจักรของพระเจ้าเกิดขึ้นในโลก
นี่คือ พันธกิจและการเรียกที่เราเฉลิมฉลองในวันนี้
พระวรสารวันนี้บอกเราว่า
สันติสุขแท้คือการให้อภัย คืนดีกับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง ดังนั้น เราจึงต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกันและให้อภัยความผิดของกันและกันด้วยใจกว้าง
ไม่คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกหรือดีกว่าคนอื่น เมื่อนั้นสันติสุขที่แท้จะบังเกิดขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อพระจิตเจ้าคือบ่อเกิดแห่งความเป็นหนึ่งเดียว
เราจึงต้องสร้างสรรค์ความเป็นหนึ่งเดียวให้เกิดขึ้น โดยเริ่มจากในครอบครัวของเรา
ก่อนจะขยายไปสู่สังคมรอบข้าง เพื่อมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งเดียวแท้จริงกับพระเจ้า
อันเป็นเป้าหมายสุดท้ายของเราแต่ละคน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว25 พฤษภาคม 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น