พระนางมารีย์
มารดาของพระคริสตเจ้า
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ปี B
|
2 ซมอ 7:1-5, 8-12, 14, 16
รม 16:25-27
ลก 1:26-38
|
บทนำ
ที่วัดแห่งหนึ่ง
บรรดาเด็กๆ กำลังซ้อมละครคริสต์มาส แต่เด็กหญิงคนหนึ่งรู้สึกไม่ชอบตัวละครที่เธอได้รับมอบหมายให้แสดง
เธอจึงขอเปลี่ยนกับเพื่อนคนหนึ่งของเธอ เมื่อคุณครูผู้ฝึกสอนรู้จึงถามเธอว่าทำไมถึงไม่อยากแสดงตามบทที่ครูกำหนดให้
เธอตอบครูว่า “การแสดงเป็นเทวดามันง่ายไป หนูอยากแสดงเป็นแม่พระ
แม่ของพระเยซูเจ้าซึ่งยากกว่า”
คำตอบของเด็กหญิงคนนี้ถูกต้องทีเดียว
การเป็นแม่ของพระเยซูเจ้าไม่ใช่เรื่องง่าย
เป็นเรื่องที่ยากลำบากและหนักอึ้งเกินกว่าที่หญิงชาวยิวคนหนึ่งจะแบกรับ
กระนั้นก็ดี หญิงชาวยิวทุกคนต่างปรารถนาที่จะได้รับเกียรตินี้ แต่พระเจ้าทรงเลือกแม่พระให้เป็นมารดาของพระคริสตเจ้า
ในการบังเกิดมาเป็นมนุษย์ของพระองค์ที่เบธเลเฮม เป็นความจริงว่าพระองค์ทรงบังเกิดที่ถ้ำเลี้ยงสัตว์เมืองเบธเลเฮม
แต่ความปรารถนาที่แท้จริงของพระองค์คือ การบังเกิดในจิตใจของผู้มีความเชื่อ
เพื่อจะได้เกิดผลในจิตใจของพวกเขา
พระเจ้าตรัสกับเราหลายวิธีด้วยกัน
ในพระวรสารพระองค์ตรัสกับพระนางมารีย์ผ่านทางทูตสวรรค์ ในบทอ่านแรกทรงตรัสกับดาวิดผ่านทางประกาศกนาธัน
บ่อยครั้งพระองค์ตรัสกับเราผ่านทางพี่น้องชายหญิงของเรา ทรงเปิดเผยพระองค์ในสิ่งที่เรากระทำกับพี่น้องที่ต่ำต้อยที่สุดของเรา
(มธ 25:40)
ยิ่งใกล้วันคริสต์มาสเข้ามามากเท่าใด เรายิ่งเห็นบทบาทของแม่พระชัดเจนยิ่งขึ้น
1.
พระนางมารีย์ มารดาของพระคริสตเจ้า
ตำแหน่ง
“มารดาของพระคริสตเจ้า” เป็นตำแหน่งที่เราสงวนไว้สำหรับพระนางมารีย์ ซึ่งมองได้สองลักษณะ
พระนางเป็นมารดาของพระคริสตเจ้าทางด้านกายภาพ ด้วยการตั้งครรภ์พระกุมารเยซูและให้กำเนิดพระองค์
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวและเป็นเกียรติที่ไม่มีใครสามารถร่วมส่วนได้
แต่ในอีกด้านหนึ่ง พระนางเป็นมารดาทางด้านจิตใจ ซึ่งคริสตชนทุกคนสามารถมีส่วนในความเป็นมารดานี้
ดังพระดำรัสที่ว่า “ผู้ใดทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ผู้นั้นเป็นพี่น้องชายหญิงและเป็นมารดาของเรา” (มก 3:35)
นั่นหมายความว่า
พระเยซูเจ้าคาดหมายให้ผู้เป็นศิษย์ติดตามพระองค์
ไม่เพียงเป็นพี่น้องชายหญิงของพระองค์เท่านั้น แต่เป็นมารดาของพระองค์ด้วย
และวิธีการเป็นมารดาของพระองค์ที่ว่านี้ก็โดยการตอบรับต่อแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า
เพื่อจะกลายเป็นมารดาของพระคริสตเจ้า เราต้องน้อมนำคำภาวนาของแม่พระมาเป็นคำภาวนาของเรา
“ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า
ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก 1:38)
คำภาวนาของแม่พระนี้เป็นคำภาวนาที่ดีที่สุดในโลก
ที่ทำให้พระเจ้าจากสวรรค์เสด็จมาประทับในร่ายกายและวิญญาณของหญิงสาวชาวยิวคนหนึ่ง
เป็นคำภาวนาที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
พระเจ้าทรงรับเอากายเป็นมนุษย์ในพระกุมารเยซู เป็นคำภาวนาที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโลกอย่างสิ้นเชิงเป็นเวลากว่าสองพันปีมาแล้ว
เนื่องจากเป็นคำภาวนาที่ขอให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จไป (Thy will
be done.) ไม่ใช่น้ำใจของเราเหมือนคำภาวนาอื่นทั่วไป
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวรสารวันนี้และการตอบรับของพระนางมารีย์
ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราในการดำเนินชีวิตคริสตชนหลายประการ
ประการแรก จงเปิดใจต่อพระเจ้า วันคริสต์มาสกำลังใกล้เข้ามา ซึ่งเป็นวันที่เราเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของพระกุมารเยซู
เราจะต้องเตรียมจิตใจของเราให้ว่างเปล่าจากความเห็นแก่ตัว และความโน้มเอียงไม่ดีต่างๆ
เปิดใจของเราต้อนรับองค์พระเจ้าด้วยการเปลี่ยนแปลงตนเอง กลับใจหันมาหาพระเจ้าและเดินในแสงสว่างของพระองค์
ประการที่สอง จงตอบรับต่อแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า เราจะต้องให้ความสำคัญต่อแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้ามากกว่าน้ำใจของเรา
เช่นเดียวกับแม่พระที่ตอบรับต่อแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า “ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก 1:38) ความยิ่งใหญ่ของแม่พระไม่ได้อยู่ที่การเป็นมารดาของพระคริสตเจ้า
แต่อยู่ที่ชีวิตของพระนางซึ่งตอบรับต่อแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า
ประการที่สาม จงปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตประจำวัน เราจะต้องแสดงออกให้เห็นถึงพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตจริงของเรา
ด้วยการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติและคำสอนของพระองค์ ในการรักและต้อนรับทุกคนเสมือนหนึ่งต้อนรับและรักพระองค์
เหตุว่าพระเจ้าทรงรักทุกคน ทั้งคนบาปและคนชอบธรรม
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
แม่พระได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราว่า ความยิ่งใหญ่ของพระนางไม่ได้อยู่ที่การเป็นมารดาของพระคริสตเจ้า
แต่อยู่ที่การตอบรับต่อแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า ทำให้พระนางได้รับการยกย่องและได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบุญ
ให้เราได้ตอบรับต่อแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าเช่นเดียวกับพระนาง
เพื่อองค์พระเจ้าจะได้บังเกิดในใจเรา
คริสต์มาสกำลังใกล้เข้ามา
แม่พระได้เตือนใจเราว่า คริสต์มาสที่แท้จริงและดีที่สุด มิใช่การบังเกิดของพระกุมารเยซูในถ้ำเลี้ยงสัตว์ที่เมืองเบธเลเฮม
แต่เป็นการบังเกิดมาของพระองค์ในถ้ำแห่งจิตใจเรา
เพื่อให้แผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จไป เราควรภาวนาอย่างแม่พระว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า
ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก 1:38)
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์
นาบัว16 ธันวาคม 2011
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น