พึงปฏิบัติต่อกันด้วยความสุภาพถ่อมตน
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา ปี C |
บสร 3:17-19, 27-29 ฮบ 12:18-19, 22-24ก ลก
14:1,
7-14 |
บทนำ
พระอัครสังฆราชเปาโล เอมิล เลเฌร์ ดำรงตำแหน่งพระอัครสังฆราชแห่งมอนทรีออลตั้งแต่ปี
1950 ถึง 1968 และได้รับการสถาปนาเป็นพระคาร์ดินัลในปี 1953
โดยสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12
ท่านเป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในแคนาดาและในพระศาสนจักรคาทอลิก
และเป็นบุคคลที่ถ่อมตนและมีความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้ง กระทั่ง 20 เมษายน 1968
ท่านได้ลาออกจากตำแหน่งโดยได้รับอนุญาตพิเศษจากสมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 และได้หายตัวไป
หลายปีต่อมามีผู้พบท่านอาศัยอยู่ท่ามกลางคนโรคเรื้อน คนพิการ และคนทุกข์จนในหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในแอฟริกา
เมื่อนักข่าวชาวแคนาดาถามว่า “ทำไม” พระคาร์ดินัลเลเฌร์กล่าวว่า
“มันเป็นเรื่องน่าละอายอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์แห่งยุคสมัยของเรา ที่ผู้คน 600
ล้านคนกินดีอยู่ดี ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ขณะที่ผู้คน 3,000 ล้านคนอดอยาก และทุกปีมีเด็กหลายล้านคนกำลังจะตายเพราะความหิวโหย พ่อแก่เกินกว่าจะเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ได้
สิ่งเดียวที่พ่อทำได้คือการอยู่ท่ามกลางพวกเขา ดังนั้น บอกชาวแคนาดาว่า คุณได้พบกับบาทหลวงชราผู้มีความสุขที่ยังคงเป็นบาทหลวงอยู่ท่ามกลางคนทุกข์ทรมาน
พ่อมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่และพวกเขาอยู่ในใจของพ่อ”
พระวาจาของพระเจ้าสัปดาห์นี้พูดถึง
“ความสุภาพถ่อมตน” หนังสือบุตรสิราสอนเราให้ทำทุกสิ่งด้วยความสุภาพถ่อมตน
พระวรสารพระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้เลือกนั่งในที่สุดท้ายในงานเลี้ยงแล้วเราจะได้รับเกียรติ
และทำดี หรือช่วยเหลือคนไม่สามารถตอบแทนเราได้
แล้วเราจะได้รับตอบแทนจากพระเจ้าผู้ชอบธรรม คนมีความสุภาพถ่อมตนย่อมเป็นที่รักของพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
ความสุภาพถ่อมตนเป็นเหมือนความมืดเผยให้เห็นแสงแห่งสวรรค์
1. พึงปฏิบัติต่อกันด้วยความสุภาพถ่อมตน
พระเยซูเจ้าได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านของหัวหน้าชาวฟาริสีผู้หนึ่ง
พระองค์ทรงใช้โอกาสนี้สอนบทเรียนเกี่ยวกับพระอาณาจักร ทรงใช้เรื่องความสุภาพถ่อมตนเป็นเงื่อนไขสำคัญ
สำหรับคำเชิญของพระเจ้าให้ไปร่วมงานเลี้ยงบนสวรรค์ ความสุภาพถ่อมตนต้องแสดงออกด้วยการตระหนักถึงความต่ำต้อยของตนต่อพระเจ้า
และความจำเป็นในการได้รับความรอด จากการที่พระองค์ทรงสังเกตเห็นการทำผิดมารยาททางสังคมในงานเลี้ยงนั้น
พระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาศิษย์ว่า ความสุภาพถ่อมตนแท้จริงคืออะไรและอันตรายของความหยิ่งจองหองคืออะไร
“จงไปนั่งในที่สุดท้ายเถิด เพื่อเจ้าภาพที่เชิญท่านจะบอกท่านว่า ‘เพื่อนเอ๋ย จงไปนั่งที่ดีกว่านี้เถิด’” (ลก
14:10) พระเยซูเจ้าคือแบบอย่างแห่งความสุภาพถ่อมตนของคริสตชน พระองค์ไม่ทรงตอบโต้เมื่อถูกเข้าใจผิด
หรือแก้แค้นเมื่อถูกทรมาน “จงเลียนแบบอย่างจากเราเพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน”
(มธ 11:29) ทั้งนี้ “เพราะทุกคนที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง
แต่ทุกคนที่ถ่อมตนลงจะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น” (ลก 14;110
ความสุภาพถ่อมตนสำหรับคริสตชนหมายถึง 1) การยอมรับผู้อื่นในฐานะบุตรของพระเจ้าและพี่น้องชายหญิงของเรา
2) การอุทิศตนรับใช้ด้วยความรักและการเสียสละผ่านการงานเมตตาจิตและการให้อภัย 3) การยอมรับตนเองอย่างที่เราเป็นเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า
4) การขอบคุณพระเจ้าที่ประทานพระพรและศักยภาพแก่เรา เพื่อรับใช้ผู้อื่นและถวายเกียรติแด่พระเจ้า
และ 5) ช่วยเปิดตาใจเราให้มองเห็นและแบ่งปันสิ่งที่มีต่อคนยากจน คนขัดสน คนด้อยโอกาส
และคนชายขอบของสังคมที่ไม่สามารถตอบแทนเราได้ (ดู ลก 14:13-14)
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราพึงปฏิบัติต่อกันด้วยความสุภาพถ่อมตน
ทั้งนี้เพราะทุกสิ่งที่เรามีล้วนแล้วแต่เป็นของประทานจากพระเจ้า
เราแต่ละคนต่างเป็นคนบาปและไม่สมบูรณ์ ไม่มีสิ่งไหนที่คู่ควรแก่ความภาคภูมิใจ
แต่พระเจ้าทรงเรียกเราให้มีส่วนในการสร้างพระอาณาจักรของพระองค์ ด้วยพระพรต่าง ๆ
ที่ประทานให้ และเลียนแบบพระเยซูเจ้า ผู้ทรงถ่อมพระองค์ลงจนถึงที่สุดคือการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
ประการที่สอง
เราต้องใส่ใจและปฏิบัติต่อผู้ต่ำต้อยในสังคม
พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้ติดต่อสัมพันธ์กับบุคคลที่สังคมรังเกียจ อาทิ คนทุกข์จน
คนถูกทอดทิ้ง และผู้ด้อยโอกาส
ด้วยการปฏิบัติต่อเขาอย่างดีและช่วยเหลือด้วยความรักดุจพี่น้อง เพราะบุคคลเหล่านี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
อีกทั้งไม่สามารถตอบแทนเราได้ด้วย ในอีกด้านหนึ่ง เราต้องไม่หยิ่งทะนงตนว่าดีกว่าคนอื่น
หรือมองผู้อื่นอย่างเหยียดหยาม
ประการที่สาม เราต้องสำนึกในความต่ำต้อยของตน
เราได้รับเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงแห่งสวรรค์ทุกวันอาทิตย์ เราต่างเป็นคนยากจน
คนพิการ และทุพลภาพฝ่ายจิตใจ แต่พระเยซูเจ้ายังทรงรักและเชื้อเชิญเรา เราต้องสำนึกในบาปของตนอย่างนักบุญเปาโล
“ข้าพเจ้าเป็นคนแรกในบรรดาคนบาปเหล่านี้” (1 ทม 1:15)
หรือนักบุญฟรังซิส อัสซีซี “ไม่มีใครอีกแล้วที่จะน่าเกลียด
น่าชิงชัง และน่าสังเวชเท่าตัวข้าพเจ้า”
เพราะเมื่อเปรียบเทียบความดีของเรากับพระเจ้า เราไม่มีอะไรต้องอวดตัว
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องผู้ติดตามพระองค์ไม่ให้เลือกที่มีเกียรติในงานเลี้ยง
และให้ปฏิบัติต่อผู้ต่ำต้อยซึ่งไม่สามารถตอบแทนเราได้ ท่าทีเช่นนี้ตรงข้ามกับกระแสของโลกและทำได้ยาก
เพราะเกียรติยศชื่อเสียงคือยอดปรารถนาของมนุษย์ทุกคน แต่พระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้ทำในสิ่งตรงข้าม
สำหรับผู้เป็นศิษย์ของพระองค์ “เกียรติไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง แต่อยู่ที่การรับใช้”
ดำเนินชีวิตโดยไม่คิดถึงตนเองและปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความรักเยี่ยงพระองค์
มีคำกล่าวว่า
“พระเจ้ามีสองพระบัลลังก์คือแห่งหนึ่งในสวรรค์ชั้นสูงสุด อีกแห่งคือในหัวใจต่ำต้อยที่สุด”
(D.
L. Moody) พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นว่า ผู้มีใจสุภาพถ่อมตนเท่านั้นได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงแห่งสวรรค์
ศิษย์พระคริสต์พึงมีความสุภาพถ่อมตนในการปฏิบัติต่อผู้อื่น
สำนึกในความต่ำต้อยของตน และเลียนแบบพระเยซูเจ้าผู้เป็นต้นแบบแห่งความสุภาพถ่อมตน
ทั้งนี้เพราะ “ประตูสวรรค์นั้นเตี้ยมาก
ไม่มีใครเข้าไปได้เว้นแต่คุกเข่าเข้าไปเท่านั้น”
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
ID LINE : dondaniele
วัดนักบุญยอแซฟ
ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
30 สิงหาคม 2025
ภาพ : การเยี่ยมผู้ป่วย, พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2025-8-24
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น