วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562

บุญราศีแห่งสองคอน 30 ปีแห่งการแต่งตั้ง


บุญราศีแห่งสองคอน 30 ปีแห่งการแต่งตั้ง
บทนำ
เราอยู่ในบรรยากาศของการฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม โดยเฉพาะพระศาสนจักรในภาคอีสานและประเทศลาว กำลังเตรียมฉลองครบรอบ 100 ปีแห่งมรณกรรมของสองธรรมทูตผู้บุกเบิกคือ คุณพ่อกองสตัง ยัง บัปติสต์ โปรดม กับ คุณพ่อฟรังซัว มารี ซาเวียร์ เกโก ที่ต้องพูดถึงท่านทั้งสองนี้เพราะเราเป็นหนี้บุญคุณท่านทั้งสอง คุณพ่อโปรดม ในฐานะผู้บุกเบิกและหัวหน้ากลุ่มธรรมทูต คุณพ่อเกโก ในฐานะผู้สอนคำสอนและวางรางฐานกลุ่มคริสตชน รวมถึงก่อตั้งชุมชนวัดสองคอนของเราด้วย

1.        100 ปีมรณกรรมสองธรรมทูตผู้บุกเบิก
เราต้องยอมรับความจริงว่า เพราะธรรมทูตทั้งสอง เราจึงมีวันนี้ คุณพ่อโปรดมและคุณพ่อเกโกได้ บุกเบิก สร้าง และวางรากฐาน พระศาสนจักรสำหรับเราด้วยความยากลำบาก
1)        ความยากลำบากจากการเดินทาง ต้องใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงอุบลราชธานี 102 วัน เมื่อ 138 ปีก่อน ยังไม่มีถนนมาภาคอีสาน นอกจากเส้นทางควาย คือเส้นทางที่บรรดานายฮ้อยจากอีสานต้อนวัวต้อนควาย 300-500 ตัวจากสว่างแดนดินไปขายยังภาคกลาง อย่างที่เราได้ดูละครโทรทัศน์เรื่อง “นายฮ้อยทมิฬ” ซึ่งสร้างจากวิถีชีวิตอีสาน
§  เส้นทางหฤโหดที่สุดคือการข้ามเทือกเขาดงพญาไฟ เวลานั้นยังเรียก “ดงพญาไฟ” เพราะต้องเผชิญกับไฟจากไข้ป่า, โจรผู้ร้าย, สัตว์ร้าย และสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน ดงพญาไฟกลายเป็นดงพญาเย็นเมื่อมีการสร้างทางรถไฟสายแรกสำเร็จเมื่อ 21 ธันวาคม 1900 ทำให้สามารถเดินทางไปมาได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
§  เพื่อข้ามดงพญาไฟ ธรรมทูตต้องใช้ม้าและวัวต่างบรรทุกสำภาระ บางแห่งต้องเช่าช้างขนสำภาระเช่นที่อำเภอชนบท จนกระทั่งเดินทางถึงกมลาไสย จึงสามารถซื้อเกวียนได้ แต่การเดินทางโดยเกวียนมีข้อจำกัด ชั่วโมงหนึ่งเดินทางได้ 4 กิโลเมตร วันหนึ่งไม่เกิน 30 กิโลเมตร จึงไม่แปลกที่ต้องใช้เวลาเดินทางถึง 102 วัน
2)        ปัญหาทางชนชั้น สภาพทางสังคมขณะนั้นยังเป็นแบบเจ้าขุนมูลนาย มีทาส มีไพร่ บรรพชนของเราจำนวนมากไม่ใช่ทาสโดยกำเนิด แต่ถูกจับตัวมาขายเป็นทาส บางคนกำลังทำงานในไร่นาของตน ส่วนใหญ่หนีภัยสงครามปราบฮ่อ  และถูกจับตัวไปขายเป็นทาสตามหัวเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่หนองคาย นครพนม ธาตุพนม มุกดาหาร เขมราฐ อุบลราชธานี
§  คุณพ่อทั้งสองได้ไถ่ทาสกลุ่มแรกจำนวน 18 คน ซึ่งเป็นชาวลาวพวนและเป็นบรรพชนของชาวบุ่งกะแทว ทำให้ชื่อเสียงของคุณพ่อขจรขจายไปทั่ว เมื่อคุณพ่อเดินทางไปที่ไหน พวกทาสในถิ่นนั้นมักขอให้คุณพ่อเป็นทนาย ขอให้ศาลปล่อยเป็นอิสระเสมอ
3)        อุปสรรคจากกลุ่มผู้ปกครอง ต้องต่อสู้กับผู้มีอำนาจเพื่อปกป้องและช่วยเหลือผู้หนีร้อนมาพึ่งเย็น ตั้งแต่ปีแรกที่มาถึง ปี 1881 มีคนประกาศอย่างเปิดเผยว่า พวกบาทหลวงเป็นสายลับมาสำรวจและสืบเสาะประเทศลาวเพื่อหาทางยึดเอา แล้วต่อไปจะเอาชาวสยามไปขายในยุโรป และมีประกาศห้ามจากผู้ว่าราชการ ใครขายอะไรให้ฝรั่ง จะต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินยี่สิบบาทและจะถูกโบยด้วยหวายสามสิบที
4)        คุณพ่อโปรดมและคุณพ่อเกโกได้ต่อสู้เยี่ยงวีรบุรุษ ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคปัญหา คุณพ่อโปรดมได้บันทึกในเอกสาร “สำเนาหนังสือสำคัญและคดีความ” เลขที่ 13
§  ได้ใช้เวลาชำระความทั้งกลางวันกลางคืนนับสิบวัน ทั้งที่เมืองสกลนครและนครพนม เพื่อช่วยผู้มาขอพึ่งกว่า 200 ราย
§  ได้ใช้เงินช่วยเหลือคนจน ไถ่ให้เป็นอิสระ เลี้ยงชีวิต และเลี้ยงชีพ ตลอด 10 ปี เป็นเงิน 3 หาบ เงินหนึ่งหาบเท่ากับ 4,000.- บาท สามหาบเท่ากับ 12,000.- บาท นับเป็นจำนวนเงินมหาศาล เมื่อเทียบกับค่าเงินสมัยนั้น (ควายราคาตัวละ 3 บาท)
พระสังฆราชยอห์น บัปติสต์ โปรดมและคุณพ่อซาเวียร์ เกโก ได้ทิ้งทุกสิ่งติดตามพระเยซูเจ้าเยี่ยงอัครสาวก เลียนแบบพระเยซูเจ้าใน ความรัก ความใจดีมีเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และ พร้อมยื่นมือช่วยเหลือทุกคนโดยไม่แบ่งแยก ภายใต้คติพจน์: ปลดปล่อย เมตตา และยุติธรรม ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกสิ่งที่เรามี เราเป็นเวลานี้คือสิ่งที่คนรุ่นก่อนหน้าเราได้สร้างเอาไว้ทั้งสิ้น
ข่าวดีแห่งพระวรสารได้รับการประกาศในแผ่นดินอีสานและประเทศลาว เป็นผลมาจาก ความร้อนรน ทุ่มเทเสียสละ และอุทิศตนประกาศข่าวดีของ พระสังฆราชโปรดม และ คุณพ่อซาเวียร์ เกโก ร่างของธรรมทูตทั้งสองได้ฝังไว้บนแผ่นดินอีสาน ณ สุสานศักดิ์สิทธิ์ วัดนักบุญอันนา หนองแสง นครพนม ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ธรรมในอดีต

2.        บุญราศีแห่งสองคอน 30 ปีแห่งการแต่งตั้ง
ผลผลิตและความสำเร็จของงานประกาศข่าวดีของสองธรรมทูตผู้บุกเบิกคือ บุญราศีทั้งเจ็ดแห่งสองคอน และ บุญราศีมรณสักขี 17 องค์แห่งประเทศลาว โดยเฉพาะบุญราศีทั้งเจ็ดแห่งสองคอน ซึ่งพี่น้องชาวสองคอนและคาทอลิกไทยมีความภาคภูมิใจ เรามาที่นี่ทุกปีเพื่อขอพรจากบุญราศีทั้งเจ็ดท่าน เพื่อเสริมความเชื่อของเราให้เข้มแข็ง และเลียนแบบอย่างความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของท่าน
ณ ที่แห่งนี้เมื่อ 79 ปีก่อน ตำรวจได้เรียกประชุมชาวสองคอนที่ลานวัดใต้ต้นมะม่วง  ตำรวจประกาศว่า ตนได้รับคำสั่งให้ชาวคริสต์ทุกคนทิ้งศาสนาคริสต์มานับถือพุทธศาสนา ใครไม่ยอมให้ยืนขึ้นจะจัดการเป็นตัวอย่าง เซชีลิอา บุดสี ว่องไว ในวัย 16 ปีเป็นคนเดียวที่ยืนขึ้น ผู้เป็นแม่ได้กระตุกชายเสื้อให้นั่งลง แต่บุดสีพูดขึ้นว่า “ตายครั้งเดียวเพื่อความเชื่อ ฉันไม่กลัว” ซิสเตอร์อักแนส พิลา ทิพย์สุข และซิสเตอร์ลูชีอา คำบาง สีคำพอง แม้ไม่ได้ยืนขึ้นเหมือนบุดสี แต่ได้กลับมาสวมชุดนักบวชอีกครั้ง และเขียนจดหมายถึงตำรวจลือ เมืองโคตร ใจความตอนหนึ่งว่า
“เอาเถิดคะ พวกฉันเตรียมตัวเสร็จสรรพอยู่แล้วคะ เมื่อพวกฉันไปแล้ว พวกฉันจะไม่ลืมท่านดอก ขอท่านจงสงสารพวกฉันฝ่ายข้างวิญญาณเถิดคะ พวกฉันจะขอบใจท่านมากและจะไม่ลืมคุณท่านเลย และวันสิ้นพิภพพวกฉันกับท่านจะได้เห็นหน้ากันอีกดอก จงคอยดูเถิด ท่านถือตามรับสั่งของรัฐบาล ฉันก็ถือตามพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า ขอเป็นพยานให้แก่พระองค์ท่านเถิดพระเจ้าค่ะ”
ทั้งเจ็ดท่านได้พลีชีพเป็นมรณสักขี เริ่มจาก ครูฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์ ถูกลวงไปสังหารที่ห้วยตุ้มนก บ้านพาลุกา อำเภอหว้านใหญ่ วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 1940 อีก 10 วันต่อมา ซิสเตอร์อักแนส พิลา ทิพย์สุข อายุ 31 ปี, ซิสเตอร์ลูชีอา คำบาง สีคำพอง อายุ 23 ปี, อากาทา พุดทา ว่องไว อายุ 59 ปี, เซชีลีอา บุดสี ว่องไว อายุ 16 ปี,  บีบีอานา คำไพ ว่องไว อายุ 15 ปี และมารีอา พร ว่องไว อายุ 14 ปี ได้พลีชีพเพื่อความเชื่อที่สุสานสองคอน วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 1940
ต่อมาได้มีการสอบสวนเรื่องราวการถวายชีวิตของมรณสักขีทั้งเจ็ดหลายครั้ง สมัยพระสังฆราชเกลาดิอุส บาเย และพระอัครสังฆราชมีคาแอล เกี้ยน เสมอพิทักษ์ ปี 1983 พระอัครสังฆราชลอเรนซ์ คายน์ แสนพลอ่อน ได้สอบสวนเรื่องราวอีกครั้งและได้ส่งเรื่องไปสันตะสำนัก กระทั่งวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 1989 มรณสักขีทั้งเจ็ดแห่งสองคอนได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศี โดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ซึ่งปีนี้ครบรอบ 30 ปีแห่งการประกาศแต่งตั้ง

บทสรุป
โอกาสครบรอบ 100 ปี มรณกรรมของสองธรรมทูตผู้บุกเบิก และ 30 ปีแห่งการแต่งตั้งบุญราศี” นับเป็นพระพรที่พระเจ้าประทานแก่พระศาสนจักรในประเทศไทย และอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ได้สำนึกกตัญญูต่อธรรมทูตผู้บุกเบิกทั้งสองและสานต่อพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี เพื่อฟื้นฟูความเชื่อคริสตชนให้เข้มแข็ง “อุทิศตนเป็นศิษย์พระคริสต์ และเป็นศิษย์ธรรมทูตเพื่อประกาศข่าวดีใหม่ ให้ปรากฏเป็นจริงในชีวิตของตน สิ่งที่โลกต้องการเวลานี้คือการเป็นพยาน(นักบุญเปาโลที่ 6 พระสันตะปาปา)
เราอาจไม่สามารถเป็นมรณสักขีเหมือนบุญราศีทั้งเจ็ด แต่เราต้องเข้มแข็งในการต่อสู้และเอาชนะค่านิยมของโลกและความชั่วร้ายต่าง ๆ ดำเนินชีวิตเป็นศิษย์แท้จริงในความรักและพระเมตตาของพระเจ้าต่อหน้ามนุษย์ ศิษย์พระคริสต์ต้องดำรงตนในความรักและพระเมตตาของพระเจ้าทุกวัน ซื่อสัตย์มั่นคงในการอุทิศตนรับใช้พระองค์และเพื่อนพี่น้อง เลียนแบบอย่างบุญราศีในความเชื่อและการเป็นพยานถึงพระองค์ด้วยชีวิตของตน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
17 ตุลาคม 2019
ภาพ: การแต่งตั้งบุญราศีทั้งเจ็ดแห่งสองคอน, มหาวิหารนักบุญเปโตร, โรม, อิตาลี; 1989-10-22

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น