วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2561

การเรียกให้กลับใจ

การเรียกให้กลับใจ
สัปดาห์ที่ 3
เทศกาลธรรมดา
ปี B
ยนา 3:1-5,10
1 คร 7:29-31
มก 1:14-20
บทนำ
คุณปู่คนหนึ่งได้ถามหลานชายตัวน้อยว่าได้สวดภาวนาก่อนนอนไหม หลานชายว่า “สวดทุกวันครับ” คุณปู่ถามต่อว่า “แล้วตอนเช้าละได้สวดภาวนาหรือเปล่า” หลานชายตอบว่า “ทำไมผมต้องสวดละ ผมไม่รู้สึกว่ากลัวอะไรตอนกลางวัน”
บ่อยครั้งเราคิดถึงพระเจ้าเหมือนกับคิดถึงหมอ เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติในชีวิต เราไม่ควรไปหาพระเจ้าเฉพาะเวลาที่เราเดือดร้อนหรือต้องการบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น แต่ควรไปหาพระองค์เหมือนไปหาคุณพ่อคุณแม่ ด้วยความชื่นชมยินดี เพื่อขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง เช่นเดียวกับเวลาที่เรามีความทุกข์และประสพปัญหา
การเรียกของพระเจ้าให้กลับใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเอง เป็นหัวข้อสำคัญของบทอ่านวันนี้ พระเจ้าอาจเรียกเราแต่ละคนในหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป แต่สิ่งแรกคือ ทรงเรียกเราให้กลับใจ เปลี่ยนแปลงตนเอง และสำนึกผิด เพื่อให้เรากลายเป็นประชากรใหม่ของพระเจ้า และเป็นศิษย์แท้จริงของพระองค์
1.        การเรียกให้กลับใจ
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าได้เสด็จไปยังแคว้นกาลิลีและเริ่มเทศนาสั่งสอนเช่นเดียวกับยอห์น บัปติสต์ ทรงเรียกให้สำนึกผิดและเชื่อข่าวดี “พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด” (มก 1:15) พระอาณาจักรของพระเจ้าได้เริ่มต้นแล้วและทรงเรียกทุกคนให้เชื่อข่าวดีแห่งพระวรสาร ซึ่งเป็นข่าวดีแห่งความรัก ความเมตตา และความรอดของพระเจ้า
การเป็นศิษย์คือการตอบสนองที่เหมาะสมต่อข่าวดีของพระเยซูเจ้า เราได้เห็นถึงการที่ทรงเรียกอัครสาวก 2 คู่แรก ซีโมนกับอันดรูว์น้องชาย ยากอบบุตรเศเบดีและยอห์นน้องชาย ซึ่งเป็นชาวประมง (กำลังทอดแหและซ่อมแหอยู่) ให้ติดตามและร่วมส่วนในพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดีและการรักษาโรคของพระองค์ และพวกเขาได้ละทิ้งทุกสิ่ง ตอบรับการเรียกนี้โดยทันที  
นักบุญมาระโกได้แสดงให้เห็นแง่มุมที่ยิ่งใหญ่ของการเป็นศิษย์คือ การอยู่กับพระเยซูเจ้าและร่วมส่วนในพันธกิจของพระองค์ เราได้รับเชิญให้อยู่กับพระเยซูเจ้าในการเดินทางฝ่ายจิต และร่วมส่วนในพันธกิจแห่งการประกาศอาณาจักรของพระเจ้าด้วยคำพูดและการกระทำ โดยเน้นให้เห็นว่าเราคนบาปสามารถตอบสนองการเรียกของพระองค์ได้ ด้วยการกลับใจ อุทิศตนทั้งครบ ละทิ้งทุกสิ่ง และเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ ทั้งด้วยความคิด คำพูด และการกระทำ
2.        บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราในการนำไปปฏิบัติในชีวิตหลายประการ
ประการแรก เราต้องกลับใจและเปลี่ยนแปลงชีวิต พระเยซูเจ้าทรงเรียกเราให้เสียใจในบาปและเริ่มต้นชีวิตใหม่ เปิดใจต่อพระหรรษทานของพระองค์ เพื่อให้ข่าวดีของพระองค์หยั่งรากลึกในจิตใจและเกิดผลอย่างอุดมในตัวเรา เป็นการเรียกให้เรากลับใจหันมาหาพระองค์ และเชื่อในพระองค์เป็นลำดับแรก
ประการที่สอง เราต้องเชื่อในข่าวดี พระเยซูเจ้าทรงเรียกเราให้มาเป็นศิษย์เพื่อเชื่อในข่าวดีที่พระองค์นำมา ซึ่งเป็นข่าวดีแห่งความจริง ความหวัง และสันติสุข วางใจในพระองค์ ยึดพระวรสารของพระองค์เป็นหลักในการดำเนินชีวิต และเลียนแบบอย่างของพระองค์ที่มีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น ในการรัก รับใช้ และมอบชีวิตเพื่อทุกคนโดยไม่แบ่งแยก
ประการที่สาม เราต้องตอบรับการเรียก ด้วยการเดินในแสงสว่าง เจริญเติบโตในความศักดิ์สิทธิ์ เรียนรู้ความจริงที่พระศาสนจักรประกาศ และรับศีลศักดิ์สิทธิ์บ่อยๆ เพื่อชิดสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์เจ้า ในการเป็นแสงสว่างส่องโลกและเป็นเครื่องหมายที่มองเห็นได้ของพระอาณาจักรพระเจ้า ในความรัก ความยุติธรรม การรับใช้ และการให้อภัย  
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าได้ทรงเรียกเราให้มาเป็นคริสตชน และเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ ทำให้เราได้รับแสงสว่างและมีส่วนในพันธกิจของพระองค์ในโลก นั่นไม่ใช่เพราะเราดีกว่าคนอื่น แต่เพราะความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่ ทรงรักเราและเรียกเราคนบาปให้มาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ เราต้องไม่ลังเลในการติดตามและเลียนแบบอย่างของพระองค์
การเป็นศิษย์คือ การอยู่กับพระเยซูเจ้าและร่วมส่วนในพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี ด้วยคำพูดและการกระทำ ศิษย์พระคริสต์ต้องตอบสนองการเรียกของพระองค์ ด้วยการกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเอง อุทิศตนทั้งครบ ละทิ้งทุกสิ่ง และติดตามพระองค์ทุกวัน ทั้งด้วยความคิด คำพูด และการกระทำ เพื่อเป็นเครื่องมือที่มองเห็นได้ของพระองค์ในชีวิตและเป็นศิษย์แท้จริงของพระองค์
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
20 มกราคม 2018
ที่มาภาพ: https://cynthiagitongablog.files.wordpress.com/2016/06/en07jan43a_smith.jpg?w=1400&h=9999

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น