วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระเยซูเจ้า แหล่งน้ำทรงชีวิต



พระเยซูเจ้า: แหล่งน้ำทรงชีวิต
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 3 ปี A
วันที่ 19 เทศกาลมหาพรต
อพย 17:3-7
5:1-2,5-8
ยน 4:5-15, 19ข-26, 39, 40-42
บทนำ
ในปี ค.ศ. 1888 ชายคนหนึ่งรู้สึกตกใจที่อ่านพบข่าวการตายของตัวเองในหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดและเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกตกใจมากกว่าอีกที่หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นบรรยายว่า เขาเป็นคนค้นพบวิธีใหม่ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ และสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองจากสิ่งที่ตนเองประดิษฐ์คิดค้น เขาเป็นคนประดิษฐ์ระเบิดไดนาไมต์และร่ำรวยจากสิ่งประดิษฐ์นี้ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้เขาได้คิดว่าหากเขาตายไปจริงๆ ผู้คนคงจดจำเขาตามที่หนังสือพิมพ์บรรยายไว้
เช้าวันนั้น เขาได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่และล้มเลิกงานที่กำลังทำอยู่ โดยอุทิศความรู้ความสามารถทุกอย่างในการทำงานเพื่อสันติภาพของโลก เขาได้ยกทรัพย์สินทั้งหมดของเขาเมื่อตายไป เพื่อตั้งกองทุนมอบเป็นรางวัลสำหรับคนที่ทำงานเพื่อสันติภาพ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “รางวัลโนเบล” (Nobel prizes)  ชายคนที่ว่านี้คือ อัลเฟร็ด โนเบล (Alfred Nobel) ที่ทิ้งความร่ำรวยจากการค้าอาวุธ และอุทิศตนเพื่อบอกผู้คนให้ทำงานเพื่อสันติภาพ
ประสบการณ์ของ อัลเฟร็ด โนเบล ที่ได้อ่านข่าวการตายของตนเองในหน้าหนังสือพิมพ์ คงเป็นเหมือนกับหญิงชาวสะมาเรียที่พบกับพระเยซูเจ้าในพระวรสารวันนี้ พระองค์ได้ชี้ให้หญิงชาวสะมาเรียได้ตระหนักในบาปของเธอทีละเล็กละน้อย กระทั่งเธอเชื่อและไว้ใจว่าพระองค์เป็นพระผู้ไถ่และเป็นแหล่งน้ำทรงชีวิต ที่สามารถทำให้เธอพบความสุขและได้รับชีวิตนิรันดร ทำให้เธอทิ้งถังน้ำไว้และไปบอกข่าวดีแก่คนอื่นในเมือง

1.         พระเยซูเจ้า: แหล่งน้ำทรงชีวิต
ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงสัญญากับหญิงชาวสะมาเรียว่า พระองค์จะประทาน “น้ำทรงชีวิต” ซึ่งจะเป็นเหมือนกับน้ำพุแห่งชีวิตนิรันดรและพระหรรษทานสำหรับผู้ที่ตระหนักถึงความเป็นจริงเกี่ยวกับพระองค์ โดยทั่วไปชาวยิวจะไม่คบค้าสมาคมกับชาวสะมาเรีย เพราะพวกเขาถือว่าชาวสะมาเรียเป็นยิวที่ไม่บริสุทธิ์ เนื่องจากละเมิดบทบัญญัติและแต่งงานกับคนต่างชาติ เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ความรักของพระเจ้าไม่มีขอบเขตจำกัด อีกทั้ง น้ำทรงชีวิตและปังที่พระเยซูเจ้าประทานแก่เราเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตเรานั้น มิใช่สำหรับเราเท่านั้นแต่สำหรับทุกคน นั่นแสดงให้เห็นว่า ความรักของพระเจ้าไปสู่ทุกคน
พระวรสารวันนี้ได้แสดงให้เห็นว่า หญิงชาวสะมาเรียได้รับการเรียกให้มาแบ่งปันความรักที่เปี่ยมล้นของพระเจ้าแก่ทุกคนด้วยความเชื่อไว้ใจ พระเยซูเจ้าทรงใช้รูปหมายของน้ำ เพื่อสอนหญิงชาวสะมาเรียให้เห็นถึงพระหรรษทานและการให้อภัยของพระเจ้า พระองค์ทรงตรัสถึง “น้ำทรงชีวิต” ที่ให้ชีวิตนิรันดร ประทานพระหรรษทานอันได้แก่ชีวิตพระในวิญญาณ หญิงชาวสะมาเรียคนนั้นกระหายหา “น้ำทรงชีวิต” ที่พระองค์ตรัสถึง แม้เธอจะเข้าใจผิดในตอนแรก แต่พระเยซูเจ้าได้ทำให้เธอค่อยๆ เข้าใจว่า จำเป็นที่เธอจะต้องสำนึกผิดและเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อจะได้ “น้ำทรงชีวิต” ดังกล่าว
พระเยซูเจ้าได้เปิดเผยให้หญิงชาวสะมาเรียได้เข้าใจว่า พระองค์คือพระผู้ไถ่ที่ล่วงรู้ถึงบาปทุกอย่างที่เธอได้กระทำและพร้อมจะยกบาปทั้งหมดของเธอ พระองค์ทรงเป็น “แหล่งน้ำทรงชีวิต” ที่เติมเต็มชีวิตของเธอด้วยความรักอันหาขอบเขตมิได้ของพระองค์ การได้พบและสนทนากับพระองค์ครั้งแรกและครั้งเดียวนี้ ทำให้เธอได้รับความสว่าง เต็มเปี่ยมไปด้วยพระหรรษทานและเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งหมดของเธอ ถึงขนาดยอมทิ้งถังน้ำไว้ที่บ่อ เข้าไปในเมืองเพื่อประกาศข่าวดีเกี่ยวกับพระองค์ มีผู้คนจำนวนมากได้ออกมาพบพระองค์และเชื่อในพระองค์ เพราะการเป็นพยานของเธอ

2.         บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องการให้พระเยซูเจ้าเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของเรา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตส่วนตัวของเราในเทศกาลมหาพรตนี้ มิใช่เพื่อตัดสินหรือตำหนิเรา แต่เพื่อทำให้เราเป็นอิสระจากบาปและเปลี่ยนแปลงตัวเราด้วยน้ำทรงชีวิต ซึ่งหมายถึงพระจิตเจ้าและความรักของพระองค์ เราสามารถพบแหล่งน้ำทรงชีวิตนี้ผ่านทางศีลศักดิ์สิทธิ์ การภาวนาและการอ่านพระคัมภีร์  เราแต่ละคนได้รับการเรียกให้มาแบ่งปันความรักของพระองค์และปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า นี่คืองานของเราในฐานะคริสตชน
ประการที่สอง เราต้องเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าเหมือนหญิงชาวสะมาเรีย พระเยซูเจ้าทรงเป็น “แหล่งน้ำทรงชีวิต” สำหรับทุกคน แม้กับชาวสะมาเรียที่ชาวยิวทั่วไปมองว่าเป็นคนบาป โดยเฉพาะกับหญิงชาวสะมาเรียคนนี้ที่เป็นหญิงไม่ดี พระเจ้ายังรักเธอและทำให้เธอกลายเป็นเครื่องมือในการประกาศพระองค์ การได้สนทนาและฟังพระวาจาของพระองค์ ทำให้ชีวิตของเธอมีความหมายและกลายเป็นผู้นำข่าวของพระองค์ เราคริสตชนจะต้องกล้าที่จะเป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้องชอบธรรมในชีวิตประจำวัน
ประการที่สาม เราต้องมาหาพระเยซูเจ้าผู้เป็นแหล่งน้ำทรงชีวิตของเรา เทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาของการพบกับพระเยซูเจ้า เรื่องราวในพระวรสารสอนเราว่าพระองค์ทรงคอยเราอยู่ทุกที่ทุกเวลา เพราะพระองค์ทรงรักเรามากและทรงต้องการที่จะอยู่กับเราตลอดเวลา ชีวิตคริสตชนที่ปราศจากพระคริสตเจ้าจึงเป็นชีวิตที่ว่างเปล่า ทั้งนี้เพราะ พระองค์ทรงเป็น “แหล่งน้ำทรงชีวิต” ที่ทำให้ชีวิตของเรามีชีวิตชีวา สามารถดับความกระหาย คนที่มาหาพระองค์และทำให้เขาพบสันติสุข 

บทสรุป
พี่น้องที่รัก น้ำในแผ่นดินที่เต็มไปด้วยทะเลทราย เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง พระวาจาในวันนี้ได้ใช้เครื่องหมายของ “น้ำ” เพื่อบรรยายถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าที่ให้ชีวิต น้ำในที่นี้หมายถึง “พระคุณของพระเจ้า” พระวรสารได้แสดงให้เราเห็นว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็น “แหล่งน้ำทรงชีวิต” ซึ่งจะกลับเป็นน้ำพุภายในใจมนุษย์ที่พุ่งขึ้นเพื่อให้ชีวิตนิรันดร พระเจ้าที่ประทับอยู่ท่ามกลางเราสามารถดับความกระหายทั้งหลายทั้งปวงของมนุษย์อย่างสิ้นเชิง
หญิงชาวสะมาเรียในพระวรสารเป็นตัวแทนของเราแต่ละคน ที่ต้องการความรักและการให้อภัย มีเพียงพระเยซูเจ้าเท่านั้นที่สามารถดับความกระหายในใจของเราได้ มีเพียงพระเยซูเจ้าเท่านั้นที่สามารถเติมเต็มความต้องการในชีวิตของเราได้ ด้วยความรักยิ่งใหญ่และการให้อภัยไม่สิ้นสุดของพระองค์ เราจึงต้องหมั่นมาหาและสนทนากับพระองค์บ่อยๆ เป็นต้นในเทศกาลมหาพรตนี้ เพื่อเราจะมีจิตใจที่สุขสงบและสามารถกล่าวได้อย่างนักบุญเอากุสตินที่ว่า “ดวงใจของข้าพเจ้าจะไม่สงบ จนกว่าจะได้พักพิงในพระเจ้า”
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
 danielkhuan@hotmail.com
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
22 มีนาคม 2014

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น