
วันของพระเจ้าและวาระสุดท้ายแห่งชีวิต
|
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา ปี C |
มลค 4:1-2ก 2
ธส 3:7-12 ลก
21:5-19 |
บทนำ
โซเรน
คิร์เคการ์ด นักปรัชญาชาวเดนมาร์กได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น
ณ โรงละครแห่งหนึ่งซึ่งกำลังทำการแสดงรายการต่าง ๆ
แต่ละรายการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นที่ชื่นชอบและได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราวจากผู้ชม
ทันใดนั้นผู้กำกับการแสดงได้ปรากฏตัวบนเวที กล่าวขอโทษที่ต้องขึ้นมาขัดจังหวะ
เขาประกาศด้วยเสียงอันดังว่า ไฟกำลังไหม้โรงละครแห่งนี้ และขอร้องผู้ชมให้ออกจากโรงละครเดี๋ยวนี้
ผู้ชมต่างคิดว่านี่คือมุขตลกแบบหักมุมที่ขบขันที่สุด
พากันหัวเราะชอบใจดังลั่น ผู้กำกับได้อ้อนวอนผู้ชมอีกครั้งให้รีบออกจากอาคารที่กำลังไหม้
แต่ผู้ชมยังคงปรบมือกึกก้อง สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
เพราะไฟได้โหมไหม้อาคารทั้งหลังปิดทางเข้าออกจนออกไม่ได้ และคิร์เคการ์ดสรุปว่า “ข้าพเจ้าคิดว่าชีวิตเราจะเผชิญกับหายนะรุนแรงดังผู้ชมที่กำลังส่งเสียงเชียร์เช่นกัน”
บทอ่านวันนี้เตือนเราถึงชะตากรรมในแบบเดียวกัน
หากเราไม่เตรียมพร้อมเมื่อวันของพระเจ้ามาถึงในแบบที่คาดไม่ถึง ดังนั้น สัปดาห์ก่อนสุดท้ายของปีพิธีกรรม
พระศาสนจักรเรียกร้องให้เราได้ไตร่ตรองเกี่ยวกับวันของพระเจ้า อวสานของโลก และวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของมนุษย์แต่ละคน
เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่มีใครทราบว่าเมื่อไหร่ เวลาใด แต่ที่เรารู้อย่างแน่นอนคือวาระสุดท้ายของเราในโลกสิ้นสุดลงทันทีเมื่อเราจบชีวิต
1.
วันของพระเจ้าและวาระสุดท้ายแห่งชีวิต
พระวรสารวันนี้ นักบุญลูกาเตือนผู้ที่กำลังเผชิญกับความลำบากและการเบียดเบียน ถึงคำสัญญาของพระเยซูเจ้าที่ว่า พวกเขาต้องวางใจในพระวาจาของพระเจ้า และใช้โอกาสนี้ในการเป็นพยานถึงพระองค์ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ศาลและสาธารณชน ดังนั้น การเบียดเบียนจึงกลายเป็นการประกาศข่าวดี (ดู ลก 21:12-13) และเป็นบททดสอบสำคัญของความเชื่อ
พระเยซูเจ้าทรงเตือนพวกเขาไม่ให้สิ้นหวัง
เมื่อต้องเผชิญกับการต่อต้าน การเบียดเบียน และการเป็นที่เกลียดชังเพราะนามของพระองค์
พวกเขาจะถูกจับกุม ตามมาด้วยการถูกตัดสินและการถูกประณามในศาล ความซื่อสัตย์มั่นคงในความเชื่อทำให้พวกเขาเป็นพยานถึงพระองค์ได้
และผู้ที่ยืนหยัดมั่นคงจนถึงที่สุดจะได้รับความรอด ในความเป็นจริง การเบียดเบียนทำให้พระศาสนจักรเติบโต
“เลือดของมรณสักขีคือเมล็ดพันธุ์ชั้นดีของพระศาสนจักร” (แตร์ตุเลียน)
พระเยซูเจ้าทรงสอนถึงการสิ้นสุดของโลกและวาระสุดท้ายของมนุษย์ โดยเชื่อมโยงไปถึงการล่มสลายของพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มที่ทรงเห็นล่วงหน้าถึงจุดจบที่น่าอนาถ พระองค์ไม่ทรงต้องการให้มนุษย์กังวนถึงการสิ้นสุดของโลก แต่ทรงสอนให้เตรียมตัวไปถึงเวลานั้นด้วยความเชื่อและความซื่อสัตย์ พระองค์ได้ให้ความมั่นใจกับเราว่าจะอยู่กับเราตลอดไป (ดู มธ 28:21) เราต้องดำเนินชีวิตและทำหน้าที่แต่ละวันอย่างซื่อสัตย์ ไม่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะเป็นอย่างไร
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องเตรียมพร้อมเผชิญวันของพระเจ้า
เราไม่ทราบว่าวันของพระเจ้าจะมาถึงเมื่อไหร่
อีกทั้งไม่รู้วันตายของเราด้วย แต่เราแน่ใจว่าวันสิ้นโลกจะมาถึงอย่างแน่นอน ในการเผชิญหน้ากับวันของพระเจ้าและความตาย
เราต้องดำเนินชีวิตในความรักไม่เห็นแก่ตัว ความเมตตากรุณา ความเห็นอกเห็นใจ และการให้อภัยไม่สิ้นสุดของพระเจ้า
ตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าท่ามกลางเราในเพื่อนมนุษย์ และพิจารณามโนธรรมของตนทุกวัน
ประการที่สอง
เราต้องทำหน้าที่ประจำวันให้ดีที่สุด
ชาวอเมริกันมีสุภาษิตบทหนึ่งว่า “เขาตายในสภาพสวมรองเท้าบูท” (He
died with his boots on.) นั่นหมายความว่า บุคคลนั้นตายขณะกำลังทำหน้าที่
เขาได้ดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าจนถึงวาระสุดท้ายในโลก
ให้เราได้คิดถึงพระดำรัสของพระเยซูเจ้า “จงรักซึ่งกันและกัน”
“จงมีความเมตตากรุณาเหมือนที่พระบิดาทรงมี” “จงให้อภัยซึ่งกันและกันด้วยใจกว้าง”
นี่คือ การวางแผนตายตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า
ประการที่สาม
เราต้องไม่กลัววาระสุดท้ายแห่งชีวิต
หากเราได้ดำเนินชีวิตอย่างชื่อสัตย์และทำหน้าที่ของตนอย่างดีและรับผิดชอบ
เราต้องไม่ตื่นตระหนกเพราะพระเจ้าทรงพิพากษาด้วยความเมตตากรุณา
นักบุญเปาโลบอกเราว่า “ถ้าเราตายแล้วพร้อมกับพระคริสตเจ้าแล้ว เราก็จะมีชีวิตพร้อมกับพระองค์ด้วย”
(รม 6:8)
สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำคือการเป็นพยานถึงความเชื่อคริสตชน
แม้ในห้วงเวลาของความทุกข์ รักษาธรรมบัญญัติของพระเจ้าด้วยความเพียรทน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
เป็นความจริงว่า วันของพระเจ้าต้องมาถึง โลกจะถึงกาลอวสานในวันหนึ่ง
ซึ่งมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้วันเวลาชัดเจน สิ่งที่เราควรทำคือใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สำหรับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
มีความเชื่อและความวางใจในพระเมตตาและสัญญารักของพระเยซูเจ้า ผู้ได้สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายเพื่อเรา
ประการสำคัญ เราต้องไม่กลัวและกังวลใจถึงอนาคต แต่ต้องใส่ใจในปัจจุบัน ขณะนี้ และเวลานี้
นักบุญเปาโลได้เตือนชาวเธสะโลนิกาและเราแต่ละคน
ให้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ รับผิดชอบต่อผู้อื่น ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ โดยไม่ทำงาน หรือชอบไปยุ่งเรื่องของคนอื่น
สำหรับคนมีความเชื่อในพระเจ้า เวลาปัจจุบันคือช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิต ศิษย์พระคริสต์ต้องเตรียมพร้อมเผชิญวันของพระเจ้าและวาระสุดท้ายแห่งชีวิต
ด้วยความรักและการรับใช้พระเจ้าในเพื่อนมนุษย์ มีความมั่นคงในความเชื่อและความวางใจพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม
และมีความเพียรทนจนถึงวาระสุดท้าย
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
ID LINE : dondaniele
วัดนักบุญยอแซฟ
ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
15 พฤศจิกายน 2025
ภาพ : สุสานศักดิ์สิทธิ์วัดกุรุคุ, นครพนม; 2025-11-09
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น