วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2568

พันธกิจต่อคนทุกข์จน

 

พันธกิจต่อคนทุกข์จน

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา

ปี C

อมส 6:1ก,4-7

1 ทธ 6:11-16

ลก 16:19-31

บทนำ

พระสงฆ์ท่านหนึ่งหนึ่งในออสเตรเลีย ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำทางและดูแลคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาเมื่อครั้งที่คุณแม่ไปเยือนนิวเซาท์เวลส์ เขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ใกล้ชิดกับสตรีผู้ยิ่งใหญ่นี้ และจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากคุณแม่ แต่ระหว่างการเยือนของคุณแม่ เขากลับรู้สึกหงุดหงิด แม้ว่าเขาอยู่ใกล้คุณแม่ตลอดเวลา แต่ไม่มีโอกาสได้พูดกับคุณแม่เทเรซาแม้แต่คำเดียว ที่สุดการเดินทางของคุณแม่เทเรซาสิ้นสุดลงเพื่อเดินทางไปนิวกินี

ด้วยความสิ้นหวัง พระสงฆ์ท่านนี้จึงพูดกับคุณแม่เทเรซาว่า “หากผมจ่ายค่าโดยสารไปนิวกินีเพื่อนั่งข้างคุณแม่ได้ไหม จะได้คุยและเรียนรู้จากคุณแม่” คุณแม่เทเรซาถามว่า “ท่านมีเงินพอจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินไปนิวกินีเหรอ” เขาตอบว่ามี “งั้นจงเอาเงินนั้นไปช่วยคนยากจนสิ ท่านจะได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้มากกว่าที่ดิฉันจะบอกเสียอีก” คุณแม่เทเรซาเข้าใจดีว่า พันธกิจของพระเยซูคือการช่วยเหลือคนทุกข์จนและคุณแม่ได้ทำพันธกิจนี้ตลอดชีวิต

อุปมาเรื่องเศรษฐีกับลาซารัส สะท้อนให้เห็นลักษณะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวของคนสองคน คนหนึ่งร่ำรวยเป็นเศรษฐี ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นขอทานยากจนเข็ญใจ ชีวิตของคนทั้งสองแตกต่างกัน ไม่เพียงเรื่องฐานะความเป็นอยู่เท่านั้น แต่ยังแตกต่างกันระหว่างชีวิตหลังความตายอีกด้วย ความแตกต่างประการหลังนี้เห็นได้ถึงความเด็ดขาดและถาวร ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ ส่งผลให้เศรษฐีต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

1.        พันธกิจต่อคนทุกข์จน

พระวรสารวันนี้ได้นำเสนอเรื่องเศรษฐีกับลาซารัส พระเยซูเจ้าได้ฉายภาพชีวิตเศรษฐีที่อยู่อย่างคนโลภและฟุ่มเฟือย “แต่งกายหรูหราด้วยเสื้อผ้าเนื้อดีราคาแพง จัดงานเลี้ยงใหญ่ทุกวัน” (ลก 16:19) เขาได้ละเลยบัญญัติเอกและสำคัญที่สุดคือ จงรักพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจและรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง ชีวิตของเขาตั้งอยู่บนความสะดวกสบายด้านวัตถุและทำทุกอย่างเพื่อตนเอง โดยไม่เคยคิดถึงความลำบากเดือดร้อนของผู้อื่น หัวใจของเขาว่างเปล่าเพราะขาดความรัก ตาของเขาบอดมืดเพราะมองไม่เห็นความต้องการของเพื่อนมนุษย์

ในทางตรงข้าม ลาซารัสมีชีวิตอยู่อย่างยากจนน่าสังเวช มีแผลเต็มตัว ไม่มีแรงแม้แต่จะไล่สุนัขที่กำลังเลียแผล เขาถูกนำมาทิ้งไว้ที่ประตูบ้านของเศรษฐีและรอเศษอาหารตกจากโต๊ะ เขาไม่ต้องการสิ่งมีค่าใด นอกจากเศษอาหารเพื่อประทังชีวิตซึ่งเศรษฐีไม่ต้องการแล้ว เศรษฐีเป็นตัวแทนของคนรวยเห็นแก่ตัว ขณะที่ลาซารัสเป็นตัวแทนของคนทุกข์จนทุกรูปแบบ เป็นตัวแทนของเสียงกรีดร้องที่ไม่มีใครได้ยิน อย่างเด็กซึ่งถูกทำลายชีวิตจากน้ำมือของผู้เป็นแม่

พระเยซูเจ้าทรงเล่าอุปมาเรื่องนี้เพื่อประณามพวกฟาริสี ที่หลงใหลเงินทองและขาดความเมตตากรุณาต่อคนทุกข์จน และทรงใช้อุปมานี้เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดเรื่อง 1) ความมั่งในชีวิตนี้คือรางวัลของพระเจ้า ขณะที่ความยากจนและความเจ็บป่วยคือการลงโทษของพระเจ้า 2) วิธีที่ดีที่สุดในการขอบคุณพระเจ้าคือการใช้ชีวิตอย่างหรูหราและตามใจตัวเอง และ 3) ไม่มีการลงโทษสำหรับการกระทำและการละเลยของเราในชีวิตนี้และชีวิตหน้า พระเยซูเจ้าทรงประณามการเพิกเฉยต่อคนทุกข์จน และเชิญชวนเราให้ตระหนักถึงความทุกข์ของคนรอบข้างและแบ่งปันสิ่งที่ตนมีแก่คนทุกข์จน

2.        บทเรียนสำหรับเรา

อุปมานี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องเปิดกว้างต่อคนทุกข์จน พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องความเปิดกว้างต่อคนเหล่านี้ด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และให้ความช่วยเหลือโดยทันที ไม่นิ่งเฉย หรือเสพสุขกับความมั่งคั่งของตน “สิ่งที่ทำให้เศรษฐีต้องทรมานในไฟนรก ไม่ใช่สิ่งที่เขาทำลงไป แต่เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้ทำต่างหาก” ความรักต่อพระเจ้าต้องแสดงออกต่อเพื่อนพี่น้องของเรา เพราะเป็นพระเจ้าเองทรงปรากฏพระองค์ให้เราเห็นในคนทุกข์จน

ประการที่สอง เราต้องแบ่งปันสิ่งที่มีกับคนทุกข์จน ทรัพย์สมบัติ หรือความร่ำรวยที่มีถือเป็นพระพรของพระเจ้า เราต้องสำนึกเสมอว่า มิใช่สมบัติส่วนตัวของเราเพียงคนเดียว แต่ต้องแบ่งปันกับผู้ไม่มี เพื่อให้เขาสามารถเจริญชีวิตสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นบุตรของพระเจ้า เราจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนกับพี่น้องซึ่งขัดสน หรือเดือดร้อนเจียนตายไม่ได้เป็นอันขาด มิฉะนั้นชะตากรรมของเราในชีวิตหน้าจะเป็นเช่นเดียวกับเศรษฐี

ประการที่สาม เราต้องใส่ใจและช่วยเหลือคนเดือดร้อน บางคนอาจคิดว่า อุปมานี้ไม่เกี่ยวกับฉัน เพราะ “ฉันไม่ใช่คนรวย ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะแบ่งหรือช่วยเหลือใคร” พระเยซูเจ้าไม่ได้หมายถึงทรัพย์สินเท่านั้น เราสามารถแบ่งปันสิ่งที่มี พระพร และความสามารถต่าง ๆ กับคนเดือดร้อน เราต้องมองดูว่า มีใครกำลังนั่งอยู่ที่ประตูบ้านของเรา” ซึ่งต้องการคำพูดให้กำลังใจ ต้องการความเป็นเพื่อน ต้องการความรักและความเข้าใจ หรือต้องการการให้อภัยจากเรา บางทีอาจเป็นคนในบ้านของเราเอง

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงสอนให้แบ่งปันและรับผิดชอบต่อคนทุกข์จน เศรษฐีในอุปมาได้รับการลงโทษเพราะเขาปฏิเสธการช่วยเหลือพี่น้องที่เดือดร้อนซึ่งอยู่ต่อหน้า เราไม่สามารถเป็นผู้ดูเฉย ๆ ปล่อยให้เรื่องราวความอยุติธรรมในสังคมผ่านเลยไป เราต้องทำบางสิ่งบางอย่าง ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่มีกับบุคคลเหล่านี้ เราไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้ ขณะที่ยังมีคนอย่างลาซารัสนั่งคอยอยู่ที่ประตูบ้าน

ชีวิตของเศรษฐีเป็นชีวิตที่ไร้ค่า เพราะใช้ความร่ำรวยเพื่อตนเองเท่านั้นและปฏิเสธผู้อื่น ตาของเขาบอดมืดต่อคนทุกข์จนและเดือดร้อน เขาเจริญชีวิตในโลกโดยปราศจากพระเจ้าและสูญเสียพระองค์ไปตลอดกาลรวมถึงทุกสิ่งที่มี ศิษย์พระคริสต์ต้องวางใจพระเจ้าเหมือนลาซารัส ดำเนินชีวิตในความรักต่อเพื่อนมนุษย์และการใส่ใจต่อคนทุกข์จน แบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือโดยไม่ลังเล เพราะนี้คือพันธกิจของเรา

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

27 กันยายน 2025

ภาพ : การช่วยเหลือคนยากจน, ชุมชนกุดจอกใหญ่, อากาศอำนวย, สกลนคร; 2025-01-10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น