วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

การลำดับความสำคัญก่อนหลัง

 

การลำดับความสำคัญก่อนหลัง

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา

ปี C

ปฐก 18:1-1

คส 1:24-28

ลก10:38-42

บทนำ

ดร. เจมส์ รว๊บ (Dr. James Rueb) ศาสตราจารย์ด้านการบริหารจัดการธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ได้กล่าวถึงเรื่องการลำดับความสำคัญก่อนหลังว่า หากแบ่งสิ่งสำคัญในชีวิตของมนุษย์ออกเป็น ลำดับ 1-2-3 คนส่วนใหญ่ใช้เวลาทั้งหมดในชีวิตกับสิ่งสำคัญลำดับสาม ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น คำตอบคือ อย่างแรก ลำดับสามง่ายต่อการทำให้สำเร็จ และอย่างที่สอง สร้างความภาคภูมิใจแก่ตนเองว่ากำลังทำบางสิ่งสำเร็จจริง ๆ

ในความเป็นจริง เราสรวลอยู่กับสิ่งสำคัญระดับรองตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นสิ่งไร้สาระ หาแก่นสารไม่ได้ และไม่เคยใส่ใจ หรือไปถึงสิ่งยิ่งใหญ่และสำคัญกว่า นี่คือบทเรียนสำคัญที่เราได้จากเรื่องราวของมารีย์และมารธา อย่าปล่อยให้สิ่งที่ดี (ลำดับรอง) เข้ามาแทนที่สิ่งดีที่สุด (ลำดับแรก) ซึ่งสิ่งจำเป็นมีเพียงสิ่งเดียวและมารีย์ได้เลือกเอาส่วนดีที่สุด

หัวเรื่องสำคัญของบทอ่านวันนี้คือ การลำดับความสำคัญก่อนหลัง ชีวิตคริสตชนต้องแยกให้ได้ว่า สิ่งใดสำคัญที่สุด อะไรควรมาก่อน อะไรควรมาหลัง ซึ่งกุญแจสำคัญของการลำดับความสำคัญก่อนหลังในชีวิตคริสตชนคือ พระเยซูเจ้าต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด วิธีเดียวเพื่อเข้าใจบทเรียนนี้คือการใช้เวลาทุกวันเฉพาะพระพักตร์พระองค์ ต้อนรับและฟังพระองค์ก่อนการลงมือทำอย่างอื่น

1.  การลำดับความสำคัญก่อนหลัง

มารธาเป็นหญิงเอาใจใส่เรื่องการบ้านการเรือน ไม่ใช่งานง่ายนักในการเตรียมอาหารสำหรับ 13 คน (พระเยซูเจ้าและอัครสาวกทั้งสิบสอง) มารธากระวนกระวายในการเตรียมอาหาร ขณะที่มารีย์นั่งอยู่แทบพระบาทพระเยซูเจ้า คอยฟังพระองค์ตรัสสอน มารธาบ่นกับพระองค์ถึงความประพฤติไม่เหมาะสม 2 อย่างของน้องสาว 1) ตามธรรมเนียมยิวผู้หญิงไม่ไปนั่งฟังคำเทศน์สอนของอาจารย์ชาวยิว (รับบี) และ 2) งานของผู้หญิงคืองานบ้านและเตรียมอาหารอยู่ในครัว

พระเยซูเจ้าทรงใช้โอกาสดังกล่าวบอกให้เราทราบถึงสิ่งสำคัญ พระองค์ตรัสกับมารธาว่า สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว (ลก 10:42) พระองค์มิได้ตำหนิมารธาถึงสิ่งที่เธอทำ เพราะหากไม่มีใครเตรียมอาหาร พระองค์และบรรดาสาวกคงหิว แต่พระองค์ทรงเตือนมารธาและช่วยให้ค้นพบความหมายของชีวิตว่า เป้าหมายแท้จริงของชีวิตมนุษย์คือการเข้าอยู่ในอาณาจักรของพระเจ้า มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น (ลก 4:4) อาหารของเราคือ การทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามา (ยน 4:34)

มารธา เปรียบได้กับคริสตชนมากด้วยพลัง มีกิจกรรมทำมากมาย ไม่ชอบชีวิตสงบเงียบและอธิษฐานภาวนาอยู่ที่บ้าน ปัญหาของคนกลุ่มนี้คือรับไม่ได้ที่เห็นคนอีกกลุ่มเอาแต่รำพึงภาวนาในอาราม หรือเฝ้าศีลอยู่ในวัด ใช้ชีวิตเงียบ ๆ มารีย์ เปรียบได้กับคนกลุ่มนี้ พระดำรัสที่ว่า มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุด (ลก 10:42) มิได้หมายความว่า พระองค์ทรงตัดสินว่า มารีย์เป็นฝ่ายถูก เพียงต้องการบอกว่า มารีย์รู้และเข้าใจเป้าหมายแท้จริงของชีวิต ซึ่งต้องหลอมรวมกิจกรรมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ทั้งงานหน้าที่ภายนอกและการปฏิบัติศาสนกิจ

2.  บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องจัดลำดับความสำคัญในชีวิตอย่างถูกต้อง เหนือสิ่งอื่นใด ต้องมีที่สำหรับพระเจ้าในงานของเรา มีเวลาทำงานและมีเวลามาหาพระเจ้า หากเราจัดลำดับสองสิ่งนี้ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม เท่ากับว่า เราได้เปลี่ยนพระวาจาของพระเจ้าให้เป็นกิจการ เรากำลังเขียนพระวรสารด้วยชีวิตและกิจการที่เราทำ วัดและหมู่คณะของเราต้องการคนที่มีพลังเช่นนี้ในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงสังคม

ประการที่สอง เราต้องเป็นผู้ฟังที่ดีเช่นเดียวกับมารีย์ สังคมทุกวันนี้เต็มไปด้วยปัญหาและความขัดแย้งเพราะไม่มีใครฟังใคร เราต้องเป็นผู้ฟังที่ดีทั้งที่บ้านและที่ทำงาน มารธาคือตัวแทนของคนที่กระตือรือร้นทำโน่นทำนี่จนไม่มีเวลาเงียบและฟังพระเจ้า คู่ชีวิต เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่บุตรหลานของตน บางทีฟังแต่ได้ยิน ดังคำพูดที่ว่า ความรักเริ่มที่บ้านและเริ่มจากการฟัง ยิ่งเราฟังใครคนหนึ่งมากเท่าใด ความรักยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่านั้น

ประการสุดท้าย เราต้องรับใช้พระเจ้าด้วยความเพียรเช่นเดียวกับมารธา บุคคลสำคัญของโลกมาจากคนที่ตระหนักว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อาทิ โทมัส อัลวา เอดิสัน ทำการทดลองกว่าพันครั้งจึงประดิษฐ์หลอดไฟได้สำเร็จ, โนอา เว็บสเตอร์ ต้องทำงานด้วยความเพียรกว่า 36 ปีจึงพิมพ์พจนานุกรมเว็บสเตอร์ได้เป็นฉบับแรก, ชิเชโรต้องฝึกพูดทุกวันเป็นเวลา 30 ปีจึงกลายเป็นนักพูดฝีปากกล้า การทำงานรับใช้พระเจ้าเราต้องทุ่มเท กระตือรือร้น และเพียรพยายามเช่นเดียวกัน

บทสรุป      

พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าคือศูนย์กลางแห่งชีวิตคริสตชน ทรงปรารถนาเป็นแขกของกลุ่มคริสตชนและของเราแต่ละคน เราต้องเชื้อเชิญพระองค์ทุกวัน เพื่อให้พระองค์ประทับอยู่กับเราเสมอ ทั้งในเวลาของความยินดีและความยากลำบาก คริสตชนต้องหลอมรวมงานหน้าที่ภายนอกและการปฏิบัติศาสนกิจเข้าด้วยกัน ดังคำกล่าวของนักบุญเบอร์นาร์ดที่ว่า คนทำงานก็เหมือนคนอธิษฐานภาวนายกจิตใจขึ้นหาพระเจ้าด้วยแขนทั้งสองของเขา

สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือการอยู่กับพระเยซูเจ้า เพื่อฟังพระวาจาของพระองค์ทุกวัน ผ่านทางพิธีบูชาขอบพระคุณที่เรามาร่วมทุกอาทิตย์ ในการอธิษฐานภาวนาร่วมกัน ทั้งในกลุ่มคริสตชนพื้นฐาน หมู่คณะและในครอบครัวของเรา ศิษย์พระคริสต์ต้องจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังในชีวิตได้ ต้องสามารถแยกแยะได้ว่า อะไรควรมาก่อนมาหลัง สร้างบรรยากาศแห่งการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางเรา ในความรักต่อกัน และมีทัศนคติเชิงบวกที่มองเห็นพระเยซูเจ้าในผู้อื่น

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

19 กรกฎาคม 2025

ภาพ : การประชุมผู้นำฆราวาสระดับอัครสังฆมณฑล, โรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร; 2025-7-12

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น