วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

การรักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์

 


การรักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา

ปี B

ฉธบ 6:2-6

ฮบ 7:23-28

มก 12:28-34

บทนำ

ครั้งหนึ่งนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้าได้ไปเยี่ยมชายชราคนหนึ่ง ผู้มีชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในห้องพักโกโลโกโสที่เมืองเมลเบิร์น คุณแม่เทเรซาต้องการทำความสะอาดห้องให้ใหม่ แต่ชายชราบอกคุณแม่ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีอยู่แล้ว ในห้องมีตะเกียงใบหนึ่งซึ่งฝุ่นจับเกรอะกรัง คุณแม่ถามชายนั้นว่า “ทำไมลุงไม่จุดตะเกียงละ” เขาบอกกับคุณแม่ว่า “เพื่อใครละ ไม่เคยมีใครมาเยี่ยมผมเลย” คุณแม่เทเรซาเสนอความเห็น “หากฉันส่งซิสเตอร์มาเยี่ยม ลุงจะจุดตะเกียงไหม” ชายชรารับปาก

สองสามวันผ่านไปชายชราคนนั้นได้ฝากคำพูดไปถึงคุณแม่เทเรซาว่า “แสงสว่างที่คุณแม่ได้จุดในชีวิตผมยังคงลุกโชนอยู่” งานของคุณแม่เทเรซาและของสมาชิกที่กำลังทำกับคนทุกข์ยากเดือดร้อน เป็นงานที่ทำเพื่อเห็นแก่พระเยซูเจ้า ความเชื่อและความรักต่อพระเจ้าแสดงออกในการรับใช้พวกเขา คุณแม่เทเรซาบอกสมาชิกเสมอว่า กระแสเรียกของเราคือการอุทิศตนเพื่อพระเยซูเจ้า มิใช่อยู่ที่งานซึ่งเรากำลังทำ งานสำหรับคนยากจนคือความรักที่เรามีต่อพระเจ้าในกิจการ”

หัวเรื่องของบทอ่านวันนี้คือหลักคำสอนของคริสตศาสนา นั่นคือต้องรักพระเจ้าในผู้อื่นและรักผู้อื่นเหมือนรักพระเจ้า คำภาวนา ศีลศักดิ์สิทธิ์ และหลักปฏิบัติอื่น ๆ เป็นเพียงเครื่องช่วยเราให้เติบโตยิ่งขึ้นในสัมพันธภาพแห่งความรักนี้ บทอ่านแรกเตือนเราให้รักพระเจ้าด้วยการปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ บทอ่านที่สองบอกเราว่า พระเยซูเจ้า สงฆ์ผู้สูงสุดได้มอบพระองค์บนไม้กางเขนเพื่อแสดงความรักของพระเจ้าต่อเรา และพระวรสารสอนเราว่า เราต้องตอบสนองความรักของพระเจ้าด้วยการรักผู้อื่น

1.        การรักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์

พระเยซูเจ้าไม่เพียงตอบปัญหาของบัณฑิตกฎหมาย แต่ยังทรงทำให้ปัญหาค้างคาใจชาวยิวได้รับความกระจ่าง “ท่านจงรักองค์พระเป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาและสุดกำลังของท่าน... ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง”  (มก 12:30-31) นี่คือบทสรุปของพระวรสาร หรือหลักคำสอนสำคัญของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงสรุปบทบัญญัติของพระเจ้าให้เหลือเพียงสองประการ และทรงยืนยันหนักแน่นว่า ไม่มีบทบัญญัติข้อใดยิ่งใหญ่กว่าบทบัญญัติสองข้อนี้

พระเยซูเจ้าทรงวางบทบัญญัติทั้งสองประการเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรก ในความสัมพันธ์ที่มนุษย์มีต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยทรงขยายความหมายของคำว่า “เพื่อนมนุษย์” ให้กว้างออกไปสู่มนุษย์ทุกคน “ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ 25:40) ชีวิตมนุษย์ในโลกจึงเป็นของประทานจากพระเจ้า เพื่อให้เราสามารถเติบโตในความรักของพระเจ้าและความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของบทบัญญัติและต้องไปด้วยกันเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้

นักบุญยอห์นอัครสาวก เป็นผู้ที่เข้าใจและอธิบายความสัมพันธ์ของบทบัญญัติสองประการได้ดีที่สุด ท่านได้ยืนยันกับศิษย์ของท่านจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตว่า “จงรักกันและกัน” เพราะการรักเพื่อนมนุษย์คือหนทางนำไปสู่ความรักต่อพระเจ้า “หากผู้ใดกล่าวว่า ข้าพเจ้ารักพระเจ้า แต่จงเกลียดจงชังพี่น้องของตน ผู้นั้นเป็นคนโกหก เพราะผู้ที่ไม่รักพี่น้องผู้ที่เขามองเห็นได้ก็จะไม่สามารถรักพระเจ้าผู้ที่เขามองไม่เห็น (1 ยน 4:20)

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องรักพระเจ้า กตัญญูต่อพระพรต่าง ๆ ที่เราได้รับและยอมรับความจริงว่า เราขึ้นอยู่กับพระองค์ ไม่สามารถอยู่ได้โดยลำพัง ดังนั้น เราต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติและภาวนาถึงพระองค์อยู่เสมอ อ่านและรำพึงพระวาจาทุกวัน รับศีลศักดิ์สิทธิ์เป็นประจำเพื่อแสดงให้เห็นว่า เราต้องรักพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด พระองค์ต้องยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา ความรักต่อพระเจ้าทำให้ชีวิตของเรามีความหมายและสามารถรักผู้อื่นได้

ประการที่สอง เราต้องรักเพื่อนมนุษย์ ความรักต่อเพื่อนมนุษย์คือหน้าที่สำคัญต่อพระเจ้า ความรักที่เรามีต่อพระเจ้าแสดงออกในการรักผู้อื่น ออกจากตัวเอง และแบ่งปันกับทุกคน มิใช่แต่เพราะพวกพ้อง พี่น้อง เพื่อนฝูง หรือบุคคลที่เรารักเท่านั้น แต่กับทุกคนแม้กระทั่งศัตรู นั่นหมายความว่า เราต้องช่วยเหลือ สนับสนุน ให้กำลังใจ ให้อภัย และภาวนาเพื่อทุกคนโดยไม่แบ่งแยกสีผิว  ชาติพันธุ์ เพศ อายุ หรือสถานะทางสังคม

ประการที่สาม เราต้องรักแบบเดียวกันกับพระเยซูเจ้า ซึ่งเป็นความรักที่ไม่แบ่งแยก ไม่มีเงื่อนไข และไร้ขีดจำกัด จนถึงความตายบนไม้กางเขน ความรักจึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคริสตชน และเป็นเครื่องหมายบอกคนอื่นให้รู้ว่า เราเป็นศิษย์ของพระองค์ ดังนั้น ความรักต้องเป็นมาตรฐานและเครื่องชี้วัดกิจการทุกอย่างที่เราทำ ดังคำกล่าวของนักบุญเอากุสตินที่ว่า “จงรักและกระทำสิ่งที่ความรักบอกให้ทำ”

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าได้ให้คำตอบชัดเจนกับเราในวันนี้ว่า การรักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ คือแก่นแท้ของชีวิตคริสตชน ซึ่งไม่เพียงตอบคำถามของธรรมาจารย์เท่านั้น แต่ยังได้ให้หลักปฏิบัติสำหรับเราทุกยุคทุกสมัย การรักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ต้องเป็นแรงจูงใจและนำทางชีวิตเรา ทั้งในคำพูดและการกระทำทุกอย่างของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการให้อภัย การให้กำลังใจ การร่วมทุกข์ร่วมสุข และการแบ่งปันช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากเดือดร้อน

พระเยซูเจ้าทรงทำให้ความหมายของความรักนี้ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วยแบบอย่างแห่งความรักของพระองค์บนไม้กางเขน “ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15:13)  ศิษย์พระคริสต์ต้องรักตามมาตรฐานของพระเยซูเจ้า เป็นความรักที่ไม่แบ่งแยก ไม่มีเงื่อนไข และไร้ขีดจำกัด ดำเนินชีวิตในความรักต่อพระเจ้า ด้วยการมองเห็นพระเจ้าในผู้อื่นและปฏิบัติกิจเมตตาต่อผู้ทุกข์ยากเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือโดยไม่ลังเล

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย

30 ตุลาคม 2021

ภาพ : พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี, สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี สองคอน, มุกดาหาร; 2021-10-23

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น