วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562

พึงมีความสุภาพถ่อมตน


พึงมีความสุภาพถ่อมตน
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา
ปี C
บสร 3:17-19, 27-29
ฮบ 12:18-19, 22-24
ลก 14:1, 7-14
บทนำ
นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งเดินทางไปประเทศเยอรมัน เพื่อชมห้องที่บีโธเฟน (Ludwig van Beethoven: 1770-1827) นักดนตรีเอกของโลกเคยอยู่และทำงาน รวมถึงเปียโนที่ใช้ประพันธ์เพลง “มูนไลท์ โซนาต้า” (Moonlight Sonata) เด็กสาวคนหนึ่งในหมู่นักท่องเที่ยวได้นั่งลงที่เปียโนและเล่นท่อนหนึ่งของเพลงโซนาต้า เมื่อเธอเล่นจบได้พูดกับมัคคุเทศก์ว่า “ดิฉันเข้าใจว่านักดนตรีมีชื่อเสียงของโลกคงมาเยี่ยมชมที่นี่ทุกปี” มักคุเทศก์ตอบว่า “ใช่ ท่านเพเดเรฟสกี้ (Ignacy Jan Paderewski: 1860-1941) เพิ่งมาเยี่ยมที่นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง”
เด็กสาวรู้สึกภาคภูมิใจและพูดอย่างมั่นใจว่า “ดิฉันแน่ใจว่าเขาต้องทำเหมือนดิฉัน คือนั่งลงตรงเปียโนตัวนี้และเล่นเพลงโซนาต้า ใช่ไหมค่ะ” แต่มัคคุเทศก์ตอบว่า “เปล่าเลยครับคุณผู้หญิง ทั้ง ๆ ที่ทุกคนขอร้องให้เขาเล่น แต่เขาบอกว่า ไม่ได้ ผมไม่คู่ควรทำเช่นนั้น เด็กสาวรู้สึกละอายที่ตนถือวิสาสะเล่นเปียโนของบีโธเฟน ขณะที่นักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ของโลกชาวโปแลนด์อย่างเพเดเรฟสกี้ มีความสุภาพเกินกว่าจะเล่นเพลงของบีโธเฟนด้วยเปียโนตัวเดียวกัน
พระวาจาของพระเจ้าสัปดาห์นี้พูดถึง “ความสุภาพถ่อมตน” หนังสือบุตรสิราสอนเราให้ทำทุกสิ่งด้วยความสุภาพถ่อมตน พระวรสารพระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้เลือกนั่งในที่สุดท้ายในงานเลี้ยงแล้วเราจะได้รับเกียรติ และกระทำดี หรือช่วยเหลือคนที่ไม่สามารถตอบแทนเราได้ แล้วเราจะได้รับตอบแทนจากพระเจ้าผู้ชอบธรรม คนมีความสุภาพถ่อมตนย่อมเป็นที่รักของพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ความสุภาพถ่อมตนเป็นเหมือนความมืดเผยให้เห็นแสงแห่งสวรรค์
1.       พึงมีความสุภาพถ่อมตน
หนังสือบุตรสิราสอนเราให้ทำทุกสิ่งด้วยความสุภาพถ่อมตน ยิ่งเป็นคนใหญ่โตมากเท่าใด ยิ่งต้องถ่อมตนมากเท่านั้น เพื่อเป็นที่รักและโปรดปรานของพระเจ้า ทั้งนี้เพราะพระเจ้าทรงได้รับเกียรติจากคนต่ำต้อย มิใช่จากคนเย่อหยิ่งทะนงตน นักบุญเอากุสตินกล่าวว่า “ท่อธารแห่งพระหรรษทานของพระเจ้าไม่ไหลผ่านภูเขาแห่งความหยิ่งทะนง แต่ไหลผ่านหุบเหวแห่งความสุภาพถ่อมตน” เนื่องจากผู้มีใจสุภาพถ่อมตนย่อมเปิดใจของตนต่อพระเจ้า
คนสุภาพถ่อมตนไม่ขัดสู้คนทำร้ายเขา แต่หันแก้มอีกข้างให้  พระเยซูเจ้าคือแบบอย่างแห่งความสุภาพถ่อมตนของคริสตชน เพราะเมื่อถูกประจานพระองค์ไม่ได้โต้ตอบ เมื่อถูกทรมานโดยปราศจากความผิดพระองค์มิได้ข่มขู่ หรือแก้แค้น แต่ทรงเป็นต้นแบบของความสุภาพถ่อมตน “จงเลียนแบบอย่างจากเราเพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน” (มธ 11:29) และตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น” (มก 10:45)
ความสุภาพถ่อมตนสำหรับคริสตชนหมายถึง การเจริญชีวิตตามแบบอย่างพระเยซูเจ้า ไม่ใช่เพื่อตนเองแต่เพื่อผู้อื่น ใช้พระพรต่าง ๆ ที่ได้รับมา ไม่ใช่เพื่อเกียรติของตนแต่เพื่อคนยากจนและต้องการความช่วยเหลือ ศิษย์พระคริสต์ต้องแสดงออกถึงความรักแม้กระทั่งศัตรู ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และไม่คาดหวังว่าเขาจะสำนึกบุญคุณ “เมื่อท่านจัดงานเลี้ยง จงเชิญคนยากจน คนพิการ คนง่อย คนตาบอด แล้วท่านจะเป็นสุข เพราะคนเหล่านั้นไม่มีสิ่งใดตอบแทนท่านได้” (ลก 14:13-14)
2.       บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราพึงปฏิบัติตนด้วยความสุภาพถ่อมตน ทั้งนี้เพราะทุกสิ่งที่เรามีล้วนแต่เป็นของประทานจากพระเจ้า เราแต่ละคนต่างเป็นคนบาปและไม่สมบูรณ์ ไม่มีสิ่งไหนที่คู่ควรแก่ความภาคภูมิใจ แต่พระเจ้าทรงเรียกเราให้มีส่วนในการสร้างพระอาณาจักรของพระองค์ ด้วยพระพรต่าง ๆ ที่ประทานให้ และเลียนแบบพระเยซูเจ้า ผู้ทรงถ่อมพระองค์ลงจนถึงที่สุดคือการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
ประการที่สอง เราต้องใส่ใจและปฏิบัติต่อผู้ต่ำต้อยในสังคม พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้ติดต่อสัมพันธ์กับบุคคลที่สังคมรังเกียจ อาทิ คนยากจน คนถูกทอดทิ้ง และผู้ด้อยโอกาส ด้วยการปฏิบัติต่อเขาอย่างดีและช่วยเหลือด้วยความรักดุจพี่น้อง เพราะบุคคลเหล่านี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อีกทั้งไม่สามารถตอบแทนเราได้ด้วย ในอีกด้านหนึ่ง เราต้องไม่หยิ่งทะนงตนว่าดีกว่าคนอื่น หรือมองผู้อื่นอย่างเหยียดหยาม
ประการที่สาม เราต้องสำนึกในความต่ำต้อยของตน เราได้รับเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงแห่งสวรรค์ทุกวันอาทิตย์ เราต่างเป็นคนยากจน คนพิการและทุพลภาพฝ่ายจิตใจ แต่พระเยซูเจ้ายังทรงรักและเชื้อเชิญเรา เราต้องสำนึกในบาปของตนอย่างนักบุญเปาโล “ข้าพเจ้าเป็นคนแรกในบรรดาคนบาปเหล่านี้” (1 ทม 1:15) หรือนักบุญฟรังซิส อัสซีซี “ไม่มีใครอีกแล้วที่จะน่าเกลียด น่าชิงชัง และน่าสังเวชเท่าตัวข้าพเจ้า” เพราะเมื่อเปรียบเทียบความดีของเรากับพระเจ้า เราไม่มีอะไรต้องอวดตัว
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องผู้ติดตามพระองค์ไม่ให้เลือกที่มีเกียรติในงานเลี้ยง และให้ปฏิบัติต่อผู้ต่ำต้อยซึ่งไม่สามารถตอบแทนเราได้ ท่าทีเช่นนี้ตรงข้ามกับกระแสของโลกและทำได้ยาก เพราะเกียรติยศชื่อเสียงคือยอดปรารถนาของมนุษย์ทุกคน แต่พระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้ทำในสิ่งตรงข้าม สำหรับผู้เป็นศิษย์ของพระองค์ เกียรติไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง แต่อยู่ที่การรับใช้ ดำเนินชีวิตโดยไม่คิดถึงตนเองและปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความรักเยี่ยงพระองค์
มีคำกล่าวว่า “พระเจ้ามีสองบัลลังก์คือแห่งหนึ่งในสวรรค์ชั้นสูงสุด อีกแห่งคือในหัวใจต่ำต้อยที่สุด” (D. L. Moody) พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นว่า ผู้มีใจสุภาพถ่อมตนเท่านั้นได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงแห่งสวรรค์ ศิษย์พระคริสต์พึงมีความสุภาพถ่อมตนในการปฏิบัติต่อผู้อื่น สำนึกในความต่ำต้อยของตน และเลียนแบบพระเยซูเจ้า ผู้เป็นต้นแบบแห่งความสุภาพถ่อมตน ทั้งนี้เพราะ “ประตูสวรรค์นั้นเตี้ยมาก ไม่มีใครเข้าไปได้เว้นแต่คุกเข่าเข้าไปเท่านั้น”
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
30 สิงหาคม 2019
ภาพ : พระสังฆราชและคณะสงฆ์, โอกาสเข้ารับตำแหน่งของพระคุณเจ้าจำเนียร สันติสุขนิรันดร์, อาสนวิหารท่าแร่; 2006-10-20

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น