วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ให้พระเยซูเจ้าบังเกิดในใจเรา

ให้พระเยซูเจ้าบังเกิดในใจเรา
วันที่ 24 ธันวาคม
สมโภชพระคริสตสมภพ
(มิสซากลางคืน)
อสย 9:2-7
ทต 2:11-14
ลก 2:1-14
บทนำ
การฉลองวันพระคริสตสมภพวันที่ 25 ธันวาคม มีที่มาจากธรรมเนียมการฉลองสุริยเทพของชาวโรมัน ในสมัยจักรพรรดิเอาเรลียน (Auralian) ที่กำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยเทพผู้ทรงพลัง เนื่องจากเป็นวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ไกลที่สุดจากเส้นศูนย์สูตรของโลกทำให้วันใหม่ยาวนานขึ้น และถือเป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปด้วย เพราะพระจักรพรรดิเปรียบดังดวงอาทิตย์ที่ให้ความสว่างแก่มนุษย์
ภายหลังที่ชาวโรมันกลับใจมาเป็นคริสตชน และมีเสรีภาพในการนับถือศาสนาในสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ค.ศ. 330 ได้หันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทนที่สุริยเทพ ดังนั้น วันที่ 25 ธันวาคม ได้เริ่มมีการฉลองพระคริสตสมภพอย่างเป็นทางการและเปิดเผย ต่อมา ค.ศ. 353 พระสันตะปาปาจูลิอุสได้กำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าทั่วพระศาสนจักร
ส่วนการประดับตกแต่งไฟและต้นคริสต์มาส เป็นการฉลองของคนต่างศาสนาที่เริ่มเข้ามาในพระศาสนจักรที่ละเล็กละน้อยในภายหลัง และการทำถ้ำพระกุมารเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกโดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี ค.ศ. 1293 ที่ป่าเกร็จโชใกล้เมืองอัสซีซีในคืนวันคริสต์มาส เพื่อจำลองถ้ำที่เบธเลเฮมได้นำวัวและลามาใช้จริง โดยมีความมุ่งหมายเพื่อเล่าเรื่องราวการบังเกิดของพระเยซูเจ้าอย่างมีชีวิตชีวาสำหรับชาวบ้าน
1.        ให้พระเยซูเจ้าบังเกิดในใจเรา
เรื่องราวการประสูติของพระกุมารเยซูที่เราได้ยินในพระวรสารนักบุญลูกา (ลก 2:1-14) เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จักรพรรดิซีซาร์ ออกัสตัส ได้ออกกฤษฎีกาให้มีการสำรวจสำมะโนประชากรทั่วอาณาจักรโรมัน ด้วยเหตุนี้ ยอแซฟซึ่งสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ดาวิดต้องพาพระนางมารีย์ เดินทางจากนาซาเร็ธแค้วนกาลิลีไปยังเบธเลเฮมแคว้นยูเดียบ้านเกิดของกษัตริย์ดาวิด เป็นระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร  ถือว่าไกลมากสำหรับหญิงมีครรภ์แก่ ยิ่งไปกว่านั้น เมืองเบธเลเฮมยังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาลงทะเบียน จนกระทั่งไม่มีห้องว่าง
ไปที่ไหนคำตอบที่ได้รับคือ “ไม่มีห้องว่างสำหรับท่าน” ยอแซฟต้องพาพระนางมารีย์ไปที่ถ้ำเลี้ยงสัตว์ ลักษณะคล้ายเพิงเลี้ยงสัตว์ซึ่งผู้พักแรมต้องนำอาหารติดตัวมาเอง  เจ้าของจัดเตรียมเพียงฟางหรือหญ้าแห้งสำหรับสัตว์เลี้ยงและไฟสำหรับปรุงอาหารให้เท่านั้น นี่คือสถานที่ซึ่งพระเยซูเจ้าบุตรพระเจ้าทรงประสูติ พระองค์เลือกบังเกิดบนรางหญ้าในสภาพที่ยากจนขัดสน เพื่อสอนให้โลกรู้ว่าความยากจนขัดสนไม่ใช่อุปสรรคสำหรับความรักของพระเจ้า
ตรงข้ามความยากจนขัดสนและใจสุภาพถ่อมตนต่างหากคือ หนทางหรือโอกาสที่ทำให้เราได้พบกับพระกุมารเจ้า ผู้ร่ำรวยด้วยพระพรนานัปการ อีกทั้ง บุคคลกลุ่มแรกที่พระเจ้าทรงเผยให้ทราบข่าวดีเรื่องการประสูติมาของพระผู้ไถ่ และได้พบพระกุมารคือบรรดาคนเลี้ยงแกะ ซึ่งเป็นผู้ที่ ต่ำต้อยและถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม จากสังคม แต่การเป็นคนยากจนและต่ำต้อยทำให้พวกเขาได้พบกับพระกุมารเจ้า นี่คือความสุขและความยินดียิ่งใหญ่ในชีวิต
2.        บทเรียนสำหรับเรา
การบังเกิดของพระเยซูเจ้า เป็นเครื่องหมายแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าต่อเรามนุษย์ และได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ประการแรก เราต้องให้พระเยซูเจ้าบังเกิดในใจเรา เทศกาลคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งพระพรที่ช่วยให้เราได้ตระหนักถึงความรักของพระเจ้า ด้วยการเปิดดวงใจของเราและประดับตกแต่งถ้ำแห่งดวงใจนี้ ด้วยไฟแห่งความรักเพื่อให้องค์พระเจ้าได้บังเกิด และเป็น “อิมมานูแอล” พระเจ้าอยู่กับเราทุกจังหวะชีวิต
ประการที่สอง เราต้องแสวงหาและเลียนแบบพระเยซูเจ้าในความยากจน เราพบพระเยซูเจ้าได้อย่างแท้จริงในความยากจน ในบุคคลที่ถูกทอดทิ้งและต้องการความช่วยเหลือ ความยากจนขัดสนไม่ใช่อุปสรรคสำหรับความรักของพระเจ้า ตรงข้ามความยากจนขัดสนคือหนทางหรือโอกาสที่ทำให้เราได้พบกับพระกุมาร ผู้เป็นเพื่อนกับคนยากจน ร่วมทุกข์ในความลำบากของพวกเขา  และมอบชีวิตของพระองค์บนกางเขนเพื่อช่วยพวกเขาให้รอดพ้น
ประการที่สาม เราต้องเป็นพระคริสต์ผู้ให้ เทศกาลคริสต์มาส เป็นช่วงเวลาของการเสียสละแบ่งปันสิ่งที่เรามีแก่ผู้อื่น นักบุญฟรังซิส อัสซีซี กล่าวว่า ถ้าในตู้เสื้อผ้าของท่าน มีเสื้อผ้าที่ท่านไม่ใช้แล้ว  พึงรู้ไว้ด้วยว่านั่นเป็นของคนยากจนที่ไม่มีแม้เสื้อผ้าจะใส่  ถ้าในตู้กับข้าวของท่าน มีกับข้าวที่ท่านไม่ทานแล้ว  พึงรู้ไว้ด้วยว่านั่นเป็นส่วนของคนที่กำลังอดอยาก  หากเราไม่มีของขวัญอะไรจะให้ จงให้ความรักออกไป เพราะ “ทุกครั้งที่เรารัก ทุกครั้งที่เราให้นั่นคือคริสต์มาส(เดล อีเวนส์ นักเขียน นักร้องและนักแสดง)
บทสรุป
พี่น้องที่รักโลกทุกวันนี้มีคนที่ขาดความรัก อดอยาก และขาดแคลนมากมาย ที่รอคอยความรัก ของขวัญ และความช่วยเหลือจากเรา  คริสต์มาสปีนี้อย่าลืมให้ความรักและแบ่งปันสิ่งที่เรามีมอบเป็นความสุขสำหรับผู้ยากไร้และด้อยโอกาสทั้งหลาย  เพื่อว่าการบังเกิดมาของพระกุมารเยซูจะเป็นความชื่นชมยินดีสำหรับครอบครัวของเรา หมู่คณะและมนุษยชาติ
อย่าทำตัวเย็นชาเฉยเมยอย่างชาวเมืองเบธเลเฮมที่บอกยอแซฟว่า “ไม่มีห้องว่างสำหรับท่าน” แต่เปิดดวงใจของเราให้พระองค์บังเกิด ด้วยความรักและการเสียสละแบ่งปัน ทุกครั้งที่เรารักและรู้จักให้นั่นคือคริสต์มาส เช่นนี้เอง ความสุข ความชื่นชมยินดี และสันติภาพจะเกิดขึ้นในโลก และการฉลองคริสต์มาสในปีนี้จะมีคุณค่าและความหมายมากกว่าปีที่ผ่านมา
“สุขสันต์วันคริสต์มาส”, Merry Christmas!, Buon Natale!
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
24 ธันวาคม 2016 สมโภชพระคริสตสมภพ
ภาพ: ถ้ำพระกุมารวัดป่าพนาวัลย์, ท่าแร่ สกลนคร; 2016-12-23

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น