วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความวางใจในพระเจ้า



ความวางใจในพระเจ้า
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
ปี B
โยบ  38:1, 8-11
2 คร 5:14-17
มก 4:35-41
บทนำ
 มีเรื่องเล่าว่า คืนหนึ่งชายคนหนึ่งฝันว่าเขากำลังเดินกับพระเยซูเจ้าบนพื้นทราย เขามองดูและเห็นรอยเท้าสองคู่บนพื้นทราย คู่หนึ่งเป็นของเขาและอีกคู่หนึ่งเป็นของพระเยซูเจ้า แต่ในช่วงเวลาที่เขาพบกับความยากลำบากในชีวิตเขามองเห็นรอยเท้าบนพื้นทรายเพียงคู่เดียว ซึ่งเขาแน่ใจว่านั่นคือรอยเท้าของเขา ด้วยความแปลกใจเขาจึงถามพระเยซูเจ้าว่า
พระเจ้าข้า พระองค์บอกลูกให้ติดตามพระองค์และพระองค์จะอยู่เคียงข้างลูกทุกแห่งที่ไป แต่ลูกพบว่าในช่วงเวลาที่ลูกมีความทุกข์ระทม ลูกเห็นรอยเท้าเพียงคู่เดียว ทำไมในช่วงเวลาที่ลูกต้องการพระองค์มากที่สุดพระองค์จึงทอดทิ้งลูก พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า ลูกเอ๋ย เรารักลูกมากและไม่ได้ทิ้งลูกไว้เพียงลำพัง ในช่วงเวลาที่ลูกพบความลำบากที่สุด รอยเท้าคู่นั้นที่ลูกเห็นคือรอยเท้าของเราเองที่ได้อุ้มลูกไว้
คนเราทุกวันนี้มีเรื่องให้คิดมากมาย จนกลายเป็นความกังวล วิตกทุกข์ร้อน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ซบเซา ราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำ รายได้น้อย แต่ภาระค่าใช้จ่ายสูง ยิ่งคนที่ตกงาน ไร้บ้าน เจ็บป่วยหรือสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักด้วยแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นดังพายุลูกใหญ่ในชีวิต ท่ามกลางปัญหาและความทุกข์ระทมเหล่านี้ หลายครั้งเรามองไม่เห็นการประทับอยู่ของพระเจ้าและความช่วยเหลือของพระองค์ ที่คอยดูแล ปกป้องคุ้มครอง และทำให้พายุร้ายในของพระศาสนจักรและชีวิตคริสตชนสงบลง

1.           ความวางใจในพระเจ้า
ในพระวรสารวันนี้ บอกเราถึงเรื่องราวของบรรดาศิษย์ที่เผชิญกับพายุขณะข้ามทะสาบกาลิลี ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 600 เมตร เป็นทะเลสาบที่มีขนาดยาว 21 กิโลเมตร กว้าง 13 กิโลเมตร การเกิดพายุจึงถือเป็นเรื่องปกติที่บรรดาศิษย์ซึ่งล้วนเป็นชาวประมงทราบดี แต่เหตุการณ์วันนั้นบรรดาศิษย์มีความรู้สึกว่ากำลังเผชิญพายุร้ายตามลำพัง คลื่นซัดเรือไปมาและน้ำเข้าเรือจนเกือบจะจม แต่พระเยซูเจ้ายังคงนอนหลับที่ท้ายเรือ บรรดาศิษย์ได้ปลุกพระองค์ให้ตื่นขึ้น พระองค์ทรงบังคับลมพายุให้สงบ และตำหนิพวกเขาที่ขาดความวางใจในพระองค์
เรื่องราวการทำให้พายุและทะเลสงบอย่างอัศจรรย์ที่นักบุญมาระโกเล่า บอกให้เราทราบ 2 เรื่อง 1) พระเยซูเจ้าเป็นใค และ 2) เราได้วางใจพระเยซูเจ้าหรือเปล่า บรรดาศิษย์ต่างล้มเหลวทั้งสองเรื่อง แม้ว่าพวกเขาจะไม่สงสัยในตัวพระองค์ ยอมรับพระองค์เป็นอาจารย์ด้วยความยินดี แต่พวกเขาขาดสิ่งสำคัญคือ ความวางใจในความรักและการดูแลเอาใจใส่ของพระองค์ที่มีต่อพวกเขา
ความกลัว ความคลางแคลงสงสัย และความรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ครอบงำจิตใจบรรดาศิษย์ ในท่ามกลางพายุแรงกล้าวันนั้น นักบุญมาระโกต้องการบอกให้ทราบว่าไม่มีสิ่งใดมาทำอันตรายบรรดาศิษย์ได้ ขณะที่พระเยซูทรงอยู่กับพวกเขา ท่ามกลางภยันตรายและสถานการณ์ที่ยากลำบากพวกเขาจะได้รับความบรรเทา หากพวกเขาตระหนักถึงการประทับอยู่และวางใจในพระองค์
ปิตาจารย์ของพระศาสจักรหลายท่านมองว่า เรื่องการบังคับลมพายุอย่างอัศจรรย์เทียบได้กับพระศาสจักรในระยะเริ่มแรก เรือที่เผชิญพายุร้ายคือพระศาสนจักรที่กำลังเผชิญการต่อต้านและการเบียดเบียนจากภายนอก ซึ่งบรรดาคริสตชนต่างคิดว่าพระเยซูเจ้าทรงทอดทิ้งพระศาสนจักรของพระองค์ แต่ในความเป็นจริงพระองค์ทรงประทับอยู่ในพระศาสนจักร และเป็นผู้บันดาลความสงบที่แท้จริง

2.           บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติสำหรับเราคริสตชนหลายประการ
ประการแรก เราต้องวางใจในพระเยซูเจ้า ในการเดินทางข้ามทะเลแห่งชีวิตสู่ความรอดนิรันดร ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องเผชิญกับพายุแรงกล้าหลายรูปแบบ อาทิ พายุแห่งความทุกข์โศก ความสงสัย ความวุ่นวายใจ ความวิตกทุกข์ร้อน การผจญและกิเลสตัณหา พายุเหล่านี้จะต้องนำเราให้ยิ่งเข้ามาใกล้พระเยซูเจ้า มีแต่พระองค์เท่านั้นที่สามารถทำให้พายุในจิตใจของเราสงบลง
ประการที่สอง เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้า เวลาที่เราเผชิญปัญหาและความยากลำบากต่างๆ ในชีวิต เรามักคิดว่าเรากำลังถูกทอดทิ้งให้เผชิญชะตากรรมตามลำพัง แต่ในความเป็นจริงพระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ท่ามกลางเรา ทรงพยุพยุงและอุ้มชูเรา เราจึงต้องมั่นมาหาพระองค์ และร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์อยู่เสมอทางการภาวนา
ประการที่สาม เราต้องเชื่อในแผนการของพระเจ้า ในห้วงเวลาของการทดลอง เราต้องลุกขึ้นยืนและเชื่อในแผนการของพระเจ้า มากกว่าที่จะตั้งคำถามว่า “ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หรือ “ทำไมจึงมีแต่เรื่องเลวร้ายในชีวิต” เราต้องมั่นคงเข้มแข็งในความเชื่อในพระเจ้าว่าพระองค์ทรงมีแผนการที่ดีสำหรับลูกของพระองค์เสมอ “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นไปเพื่อความดีของผู้ที่รักพระเจ้า”

บทสรุป
พี่น้องที่รัก ในการเดินทางข้ามทะเลแห่งชีวิตสู่ความรอดนิรันดร แต่ละคนต่างพบกับพายุร้ายในชีวิตแตกต่างกันไป นักบุญมาระโกบอกให้ทราบว่าไม่มีสิ่งใดมาทำอันตรายบรรดาศิษย์ได้ ขณะที่พระเยซูทรงประทับอยู่กับพวกเขา ท่ามกลางภยันตรายและสถานการณ์ที่ยากลำบากพวกเขาจะได้รับความบรรเทา หากพวกเขาตระหนักถึงการประทับอยู่และวางใจในพระองค์
ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของพระศาสนจักรได้เผชิญกับพายุแรงกล้า ทั้งการต่อต้านและการเบียดเบียนจากภายนอก แต่พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในพระศาสนจักรเหมือนที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ และเป็นผู้บันดาลความสงบสุขและความปลอดภัยที่แท้จริง ดังนั้น คริสตชนแต่ละคนต้องวางใจในพระเยซูเจ้า ตระหนักถึงการประทับอยู่ และเชื่อในแผนการของพระองค์
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
20 มิถุนายน 2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น