วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อคติและการไม่ยอมรับ


อคติและการไม่ยอมรับ

วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 14
เทศกาลธรรมดา
ปี B
อสค 2:2-5
2 คร 12:7-10
มก 6:1-6

บทนำ

 ในปี ค.ศ. 1960 ได้เกิดการเบียดเบียนศาสนาที่ประเทศซูดานในทวีปแอฟริกา ทำให้เด็กชายผิวดำคนหนึ่งชื่อ ปาไรด์ ทาบัน (Paride Taban) หนีภัยไปอยู่ประเทศอูกันดา ที่อูกันดานี่เอง ทาบันได้เข้าบ้านเณรและต่อมาได้บวชเป็นพระสงฆ์ เมื่อเหตุการณ์ที่ซูดานบ้านเกิดสงบลง คุณพ่อทาบันได้เดินทางกลับบ้านเกิด และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่หมู่บ้านพาโลตากา

แต่ชาวบ้านที่พาโลตากาไม่ยอมรับคุณพ่อทาบัน เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าคุณพ่อทาบันเป็นพระสงฆ์ เนื่องจากพวกเขาไม่เคยมีพระสงฆ์ผิวดำมาก่อน พวกเขาคุ้นเคยแต่พระสงฆ์ผิวขาวที่นำเสื้อผ้า ยารักษาโรคและสิ่งของมาให้พวกเขา ขณะที่คุณพ่อทาบันเป็นชนเผ่ามาดี (Madi) ที่ยากจนเหมือนพวกเขาและไม่มีอะไรมาให้

เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก เมื่อคุณพ่อทาบันอธิบายถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักรหลังสังคายนาวาติกันที่สอง ความเปลี่ยนแปลงนี้ยิ่งทำให้พวกเขายากจะยอมรับ พวกเขาพูดกันว่า “ชายหนุ่มผิวดำคนนี้ หันพระแท่นมาหาพวกเราและถวายมิสซาด้วยภาษาของเรา ไม่ใช่ภาษาลาตินที่เราเคยได้ยิน เขาจึงไม่ใช่พระสงฆ์ที่แท้จริง”

เรื่องราวของคุณพ่อทาบัน เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงการปฏิเสธและไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมชาติ เช่นเดียวกับพระเยซูเจ้าที่ถูกชาวนาซาเร็ธปฏิเสธและไม่ยอมรับ เมื่อพระองค์เสด็จกลับนาซาเร็ธบ้านเกิดของพระองค์ พวกเขาพูดกันว่า “เขาไม่ใช่ลูกช่างไม้เหมือนเราดอกหรือ เขาได้อำนาจและความรู้เกี่ยวกับพระเจ้านี้มาจากไหน” พวกเขาจึงปฏิเสธและไม่ยอมรับพระองค์

1.           อคติและการไม่ยอมรับ

พระวรสารของวันนี้กล่าวถึงเรื่องราวของพระเยซูเจ้า กับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในศาลาธรรมเมืองนาซาเร็ธ สถานที่ซึ่งพระองค์เคยเจริญวัย ชาวนาซาเร็ธไม่ต้อนรับพระองค์และปฏิเสธที่จะฟังพระองค์ ทั้งนี้เพราะอคติและจิตใจที่คับแคบของพวกเขา ที่คิดว่าพระองค์เป็นแค่ลูกของช่างไม้ชื่อโยเซฟ และแม่ชื่อมารีย์ หญิงชาวบ้านที่ไม่มีอะไร แล้วพระองค์ได้ปรีชาญาณนี้มาจากไหน พวกเขาอยากให้พระองค์แสดง (อัศจรรย์) ให้พวกเขาได้เห็นว่าพระองค์เป็นพระผู้ไถ่ที่แท้จริง

พระเยซูเจ้ารู้ถึงความต้องการของพวกเขา จึงตรัสว่า ประกาศกย่อมไม่ถูกเหยียดหยาม นอกจากในถิ่นกำเนิด ท่ามกลางวงศ์ญาติและในบ้านของตน” (มก 6:4) นี่คือความจริงที่ทิ่มแทงใจดำพวกเขา เราอาจตกในบาปเดียวกันกับพวกเขาคือ “บาปของความใจแคบ” จิตใจที่ริษยาและคับแคบทำให้มองไม่เห็นด้านดีของผู้อื่นหรือสิ่งอื่น

พระเยซูเจ้าได้ตอบปัญหานี้ด้วยพระองค์เองเมื่อพระองค์ตรัสว่า “ศิษย์ย่อมไม่อยู่เหนืออาจารย์ และผู้รับใช้ย่อมไม่อยู่เหนือนาย” (มธ 10:24) นั่นหมายความว่า เมื่อประชาชนปฏิเสธพระเยซูเจ้า เราจึงไม่ควรแปลกใจหากเราจะถูกปฏิเสธบ้าง โดยเฉพาะเมื่อเรายืนหยัดในหลักศีลธรรมและความถูกต้อง อาทิ การต่อต้านการทำแท้ง การไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงและความอยุติธรรมในสังคม

2.           บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติสำหรับเราคริสตชนหลายประการ

ประการแรก เราต้องเผชิญหน้ากับการถูกปฏิเสธด้วยความกล้าหาญและมองโลกในแง่ดี เรื่องราวการไม่ได้รับการยอมรับของพระเยซูเจ้า คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา แต่ละคนมีประสบการณ์ความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธ การทรยศหักหลัง การอย่าร้าง การไม่เชื่อฟัง การถูกทอดทิ้ง ฯลฯ ให้เรามองดูในอีกด้านหนึ่ง เราอาจไม่ได้เป็นตัวแทนที่ดีของพระเจ้า หรือบ่อยครั้งเราอาจมองไม่เห็นพระเจ้าในตัวบุคคลอื่น เพราะอคติและความใจแคบของเรา ที่มองแต่เพียงชาติกำเนิดหรือฐานะทางสังคมที่ปรากฏภายนอก

ประการที่สอง เราต้องเผชิญหน้ากับการถูกปฏิเสธด้วยท่าทีที่ถูกต้อง ด้วยการยอมรับตัวเราเองและผู้อื่น มิใช่ด้วยความโกรธฉุนเฉียวอย่างที่เราเคยกระทำ เราต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรามิใช่คนดีพร้อมและไม่สามารถทำให้ทุกคนพึงพอใจหรือถูกใจได้ แต่เราต้องมีความอดทนในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ในทุกวิกฤตมีโอกาส ที่เราสามารถเรียนรู้และเปลี่ยนให้เป็นสิ่งดีงามสำหรับชีวิตเราได้

ประการที่สาม เราต้องตระหนักถึงความดีของพระเจ้าท่ามกลางเรา พระเจ้าทรงต้องการให้เราเป็นพยานแห่งความดีกับบุคคลที่เรารักและใกล้ชิดเรา อาทิ สมาชิกในครอบครัว เพื่อนบ้านและผู้ร่วมงาน เราต้องกล้าที่จะยืนหยัดถึงความจริงและความถูกต้องของพระคริสตเจ้า ไม่เงียบเฉยต่อความอยุติธรรมและความไม่ถูกต้องของสังคม

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระวรสารวันนี้สอนเราให้ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยใจกว้าง ด้วยท่าทีของความเป็นพี่น้องให้สมกับการเป็นลูกของพระบิดาองค์เดียวกัน  มองเห็นความดีของกันและกันโดยปราศจากอคติ เฉพาะอย่างยิ่งในสังคมไทยปัจจุบันที่มีความแตกแยกรุนแรง มีการแบ่งสีเลือกข้าง ความรักของพระเจ้าไม่เคยแบ่งแยกหรือเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่มียิวหรือกรีก ไม่มีทาสหรือไท แต่ทุกคนเป็นพี่น้องกัน

ตลอดสัปดาห์นี้ ขอให้เรามองเห็นคุณค่าและความดีของกันและกัน ตระหนักในความจริงที่ว่า ไม่มีใครดีพร้อมสมบูรณ์ครบครัน และไม่มีใครเลวอย่างชนิดที่ว่าหาดีไม่ได้ ดังคติที่ว่า “ในชั่วมีดี ในดีมีชั่ว” หรือ “ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน” เราจึงไม่ควรตัดสินใครด้วยอคติหรือมองผู้อื่นเพียงแค่ชาติกำเนิดหรือฐานะทางสังคมภายนอกที่เราเห็น แต่ให้เราได้มองผู้อื่นในด้านบวก ดังคำสอนของท่านพุทธทาสที่ว่า

“เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา            จงเลือกเอาส่วนดีเขามีอยู่
เป็นประโยชน์โลกบ้างอย่างน่าดู        ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย”

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
โรงแรมอินเขาใหญ่รีสอร์ท นครราชสีมา
05 กรกฎาคม 2012

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สารวัดนาบัว, ปีที่ 3 ฉบับที่ 113


สารวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว

ปีที่ 3  ฉบับที่ 112  วันที่ 01  กรกฎาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555): http.//dondaniele.blogspot.com
เลขที่ 154 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแวงใต้ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร 47120. 086-231-3231
รา
กางเขนไม้ฝีมือการแกะสลักของคุณพ่อปีแอร์ โกลาส์ มรดกชิ้นสำคัญของคุณพ่อโกลาส์
สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล

พี่น้องที่รัก การสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล เป็นการสมโภชเสาหลักทางความเชื่อสองต้นของพระศาสนจักร นักบุญเปโตร เป็นหัวหน้าพระศาสนจักร เป็นเสาหลักทางความเชื่อที่เราต้องยึดถือ นักบุญเปาโล เป็นผู้สอนและป้องกันความเชื่อ  เสาหลักทั้งสองนี้มีความสำคัญมาก เพราะความเชื่อของเราสืบเนื่องมาจากอัครสาวก ความเชื่อเปรียบดังเมล็ดพันธุ์แห่งพระหรรษทานที่หว่านลงในใจเราในวันที่รับศีลล้างบาป เราแต่ละคนจึงมีหน้าที่บำรุงรักษาและทำให้งอกงามเติบโต

ทั้งเปโตรและเปาโลเหมือนกันตรงที่เคยผิดพลาดมาก่อน เปโตรเคยปฏิเสธพระเยซูเจ้าถึงสามครั้ง ส่วนเปาโลเคยเบียดเบียนกลุ่มคริสตชน แต่ภายหลังที่ได้สัมผัสกับความรักของพระเยซูเจ้า ความรักของพระองค์ได้เปลี่ยนแปลงใจท่านทั้งสอง ให้กลายเป็นเครื่องมือที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในการนำคริสตชนไปสู่ความรอด
 กางเขนไม้นี้เคยใช้ในพิธีนมัสการกางเขนที่นาบัว แต่ได้สูญหายจากวัดนาบัวเป็นเวลานาน

บทอ่านแรก หนังสือกิจการอัครสาวกได้เล่าเหตุการณ์ที่นักบุญเปโตรถูกกษัตริย์เฮโรดจับขังคุก เพราะการเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าอย่างกล้าหาญ กลุ่มคริสตชนได้อธิษฐานภาวนาสำหรับท่าน พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาช่วยเปโตรให้เป็นอิสระ อันแสดงถึงการเอาพระทัยใส่ของพระเจ้าต่อพระศาสนจักรในระยะเริ่มแรก

บทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลได้เขียนจดหมายถึงทิโมธี ศิษย์รักของท่านขณะที่ถูกจองจำอยู่ในคุก ท่านทราบว่าวาระสุดท้ายของท่านกำลังใกล้เข้ามา ท่านถือว่าความดีทุกอย่างมาจากพระเยซูเจ้าผู้ประทานพลังให้แก่ท่าน และพระองค์จะอยู่กับท่านจนกว่าท่านจะเข้าสู่พระอาณาจักรสวรรค์

พระวรสาร นักบุญมัทธิวได้เล่าถึงการที่นักบุญเปโตรได้ยืนยันความเชื่อของท่านในนามของเพื่อนอัครสาวก “ท่านเป็นบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” และพระเยซูเจ้าทรงชี้ให้เห็นมุมมองที่ถูกต้องว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ริเริ่มความเชื่อนี้และสถาปนาการปกครองของพระเจ้าบนโลกนี้ผ่านทางพระศาสนจักร
 นอกจากสระแดงแล้ว เด็กๆ นาบัวยังมีอ่างเก็บน้ำห้วยโทงเป็นที่ฝึกว่ายน้ำ

°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

1)       ขอบคุณกลุ่มคริสตชนพื้นฐานกลุ่มที่ 6 ที่ช่วยกันทำความสะอาดวัด กลุ่มที่รับผิดชอบอาทิตย์ต่อไปคือ กลุ่มที่ 7

2)       คุณพ่อไปอบรม “กระบวนการรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน” ที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ของดมิสซาเช้าในระหว่างที่คุณพ่อไม่อยู่

3)       ขอเลื่อนการส่งศีลวันศุกร์ต้นเดือน เป็นวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม

4)       ในช่วงนี้เด็กมาเรียนคำสอนน้อย ขอความร่วมมือจากพี่น้อง ได้ช่วยบอกบุตรหลานให้มาวัดเรียนคำสอนในตอนเช้าด้วย

5)       เงินทานวันเสาร์ 537.- บาท, เงินทานวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2,952.- บาท

6)       วัดโพนสวาง เงินทานวันอาทิตย์ 341.- บาท
 ศาลา "ศานติคาม" ที่สุสานวัดโพนสวางกำลังมุงหลังคา เกือบแล้วเสร็จ

พิธีมิสซาและวันฉลองในรอบสัปดาห

วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
01
07.00 น.



1) บุตร-หลาน เลโอ ลิขิต วินบาเพชร
2) นายวีรศักดิ์-นางสาว วิยะดา เปรอนต้า
อุทิศให้ เคลเมนตินา มาลัย วินบาเพชร ครบ 100 วัน และเลโอ ลิขิต วินบาเพชร ครบ 1 ปี
สุขสำราญ สำหรับนายวีรศักดิ์กับนางสาววิยะดา เปรอนต้า ให้มีสุขภาพแข็งแรงและเจริญก้าวหน้า
อุทิศให้ ยอแซฟ แก้ว-มาร์ธา บัวลี นครจัด, ลูชีอา สมร-ยอแซฟ ประมัย นครจัด และวิญญาณในไฟชำระ
จันทร์
02
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
อุทิศให้ อากาทา กานดา
อังคาร
03
06.00 น.
ฉลอง น.โทมัส อัครสาวก
อุทิศให้ อากาทา กานดา
พุธ
04
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
อุทิศให้ อากาทา กานดา
พฤหัสบดี
05
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
อุทิศให้ อากาทา กานดา
ศุกร์
06
06.00 น.
วันศุกร์ต้นเดือน
อุทิศให้ อากาทา กานดา
เสาร์
07
06.00 น.
19.30 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
สัปดาห์ที่ 14 เทศกาลธรรมดา