วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วจนพิธีกรรมเคารพพระธาตุนักบุญ



วจนพิธีกรรมเคารพพระธาตุ
นักบุญยอห์น ที่ 23 และนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 พระสันตะปาปา
วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2014  ณ โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
ประธาน      ให้เราร่วมใจภาวนา
ข้าแต่พระบิดาเจ้า ผู้ทรงพระเมตตาหาที่สุดมิได้ พระองค์ทรงแต่งตั้งนักบุญยอห์น ที่ 23 และนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 ให้เป็นประมุขปกครองพระศาสนจักรสากล ขอพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย พร้อมจะรับฟังคำสั่งสอนของท่าน เปิดใจรับพระหรรษทานของพระคริสตเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดพ้นพระองค์เดียวของมวลมนุษย์ด้วยเถิด พระองค์ท่านทรงจำเริญและครองราชย์ เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวกับพระองค์ และพระจิตเจ้า ตลอดนิรันดร



บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์
เท้าของผู้นำข่าวดีมาประกาศบนภูเขาช่างงามยิ่งนัก เขาประกาศสันติภาพ นำข่าวดี ประกาศความรอดพ้น กล่าวแก่ศิโยนว่า “พระเจ้าของท่านทรงเป็นกษัตริย์ปกครอง” บรรดาทหารยามของท่านร้องเสียงดัง ร้องตระโกนพร้อมกันด้วยความยินดี เพราะเขาได้เห็นกับตาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จกลับสู่ศิโยน
ซากปรักหักพังแห่งกรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงร้องเพลงยินดีพร้อมกันเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลอบโยนประชากรของพระองค์ และทรงไถ่กู้กรุงเยรูซาเล็มแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงพระอานุภาพ ต่อหน้าประชาชาติทั้งปวง ชนชาติทั้งหลายจากสุดปลายแผ่นดินจะได้เห็นว่า พระเจ้าของเราประทานความรอดพ้นให้แก่เรา                                                                                                            พระวาจาของพระเจ้า



สร้อย          จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่พระเจ้า
เพลงสดุดี
ก.    จงร้องเพลงบทใหม่ ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด
จงร้องเพลงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าจากทั่วแผ่นดิน
จงร้องเพลงถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า
จงถวายพระพรแด่พระนามของพระองค์เถิด
ข.    จงประกาศทุกวันว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยให้รอดพ้น
จงเล่าถึงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์แก่นานาชาติ
จงประกาศกิจการน่าพิศวงของพระองค์แก่บรรดาประชาชาติ
ค.    จงกล่าวแก่นานาชาติว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ปกครอง
พระองค์ทรงตั้งโลกไว้อย่างมั่นคง จะคลอนแคลนมิได้
พระองค์จะทรงพิพากษาประชาชาติด้วยความยุติธรรม”
อัลเลลูยา
เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี รารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา



บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญยอห์น (ยน 21: 15-17)
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับซีโมนเปโตรว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านรักเรามากกว่าคนเหล่านี้รักเราไหม” เปโตรทูลตอบว่า “ใช่แล้ว พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด”
พระองค์ตรัสถามเขาอีกเป็นครั้งที่สองว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านรักเราไหม” เขาตอบว่า “ใช่แล้ว พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงดูแลแกะของเราเถิด” พระองค์ตรัสถามเป็นครั้งที่สามว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านรักเราไหม”
เปโตรรู้สึกเป็นทุกข์ที่พระองค์ตรัสถามตนถึงสามครั้งว่า “ท่านรักเราไหม” เขาทูลตอบว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์ พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด”
พระวาจาของพระเจ้า
ประธาน        เทศน์เตือนใจ



บทภาวนาเพื่อมวลชน
ประธาน
ต่อหน้าพระธาตุของนักบุญยอห์น ที่ 23 และนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 ให้เราได้พร้อมใจกันอธิษฐานภาวนา วอนขอพระพรจากพระเจ้า ร่วมกับท่านนักบุญทั้งสอง เพื่อฝากพระศาสนจักร ประเทศชาติ โรงเรียนของเรา และกลุ่มคริสตชนในละแวกนี้ ไว้ในการดูแลของพระองค์ เพื่อให้บังเกิดความสงบสุขร่มเย็น และเพื่อเราทุกคน จะได้มุ่งเจริญชีวิตตามรอยนักบุญยอห์น ที่ 23 และนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 พระสันตะปาปาผู้ศักดิ์สิทธิ์
ผู้นำ 1 เพื่อองค์สมเด็จพระสันตะปาปา พระสังฆราช พระสงฆ์ และผู้แพร่ธรรมทุกท่าน จะได้เอาใจใส่ในหน้าที่ต่อประชากรผู้มีความเชื่อในพระองค์ เยี่ยงนักบุญยอห์น ที่ 23 และนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 พระสันตะปาปาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง
ให้เราภาวนา
2  เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ จะได้มีพระพาลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ทรงพระเกษมสำราญ และเป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยสืบไป
ให้เราภาวนา
3  เพื่อบรรดานักเรียนของโรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์ทุกคน จะได้เอาใจใส่ในการทำหน้าที่ของตน มีความวิริยะอุสาหะในการศึกษาเล่าเรียน ยึดมั่นในคุณธรรมตามแบบอย่างของนักบุญยอแซฟ และนักบุญพระสันตะปาปาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง เพื่อจะได้เติบโตเป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ
ให้เราภาวนา
4  เพื่อผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครองและผู้มีพระคุณต่อโรงเรียนทุกคน จะได้รับพระพรอันอุดมจากนักบุญยอห์น ที่ 23 และนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 พระพรแห่งสุขภาพ ความสุขในชีวิตและความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ให้เราภาวนา
5  เพื่อเราแต่ละคนจะได้ตระหนักว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นสามารถพบได้ในการทำตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า ตระหนักในความรักของพระองค์ที่ทรงมีต่อเรา และดำเนินชีวิตในความรักของพระองค์กับเพื่อนพี่น้องในชีวิตประจำวัน
                                    ให้เราภาวนา
ประธาน
ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพสถิตนิรันดร พระองค์พอพระทัยให้นักบุญยอห์นที่ 23 และนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 เป็นประมุขปกครองดูแลประชากรของพระองค์ และให้ท่านช่วยเหลือประชากรทั้งด้วยคำสั่งสอนและแบบฉบับดีงาม ขอท่านช่วยวอนขอแทนข้าพเจ้าทั้งหลาย ให้ทรงปกปักรักษาบรรดาผู้อภิบาลของพระศาสนจักร พร้อมกับสัตบุรุษในปกครอง และทรงนำทุกคนให้ดำเนินชีวิตตามวิถีทาง เพื่อไปรับความรอดพ้นนิรันดรด้วยเถิด
ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรผู้ทรงจำเริญและครองราชย์  เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวกับพระองค์ และพระจิตตลอดนิรันดร
ทุกคน:             อาแมน





วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บางแง่มุ่มเกี่ยวกับอาสนวิหารใหม่อุบลฯ



บางแง่มุ่มเกี่ยวกับอาสนวิหารใหม่อุบลฯ
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2014 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปร่วมพิธีเปิดและถวายอาสนวิหารแม่พระนิรมลของสังฆมณฑลอุบลราชธานี เพื่อร่วมความยินดีกับพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวชและคริสตชนสังฆมณฑลอุบลราชธานี ในฐานะที่อุบลฯ เป็นจุดเริ่มต้นของการประกาศข่าวดีแห่งพระวรสารในภาคอีสาน และเดิมทีเดียวเป็นสังฆมณฑลเดียวกันคือ “มิสซังลาว” ที่กินอาณาบริเวณภาคอีสานทั้งหมดและประเทศลาว
ขอถือโอกาสนี้แสดงความยินดีกับสังฆมณฑลอุบลราชธานี ที่ได้อาสนวิหารใหม่ใหญ่โตสวยงาม สมกับเป็นที่ประทับของพระเจ้า ศูนย์กลางการประกาศข่าวดี และศูนย์รวมความเชื่อคริสตชน ซึ่งสำเร็จลงได้ด้วยแรงศรัทธาอย่างแท้จริง อีกทั้งชื่นชมบรรดาพระสงฆ์ นักบวชและสัตบุรุษในสังฆมณฑล ที่ช่วยกันเตรียมงานและจัดงานเปิดและถวายอาสนวิหารใหม่ได้อย่างยิ่งใหญ่และสมบูรณ์

ในความรู้สึกส่วนตัว ยังเสียดายอาสนวิหารเก่าที่มิได้เก็บรักษาไว้ เพราะโบสถ์หรือวิหารไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต่างมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และคุณค่าทางจิตใจในฐานะที่เป็นมรดกทางความเชื่อที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น แต่ก็เข้าใจถึงข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ที่คับแคบ ไม่สามารถจะเก็บรักษาไว้ได้ อย่างน้อย ยังเหลือหอระฆังไว้เป็นอนุสรณ์และเครื่องเตือนใจถึงความทุ่มเทและเสียสละของมิชชันนารีสำหรับอนุชนรุ่นหลัง (ไม่เหมือนวัดท่าแร่และวัดหนองแสง หอระฆังก็ไม่เหลือซาก)
อาสนวิหารแม่พระนิรมล อุบลราชธานี ถือเป็นวัดคาทอลิกแรกในภาคอีสาน ที่คุณพ่อยอห์น บัปติสต์ โปรดม และคุณพ่อซาเวียร์ เกโก สองมิชชันนารีผู้บุกเบิกได้ซื้อบ้านไม้ที่มีใต้ถุนสูง ทำเป็นโรงสวดและบ้านพักในเวลาเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1881 (พ.ศ. 2424) ก่อนจะสร้างวัดถาวร (หลังที่ 2 ) โดยใช้ไม้ทำเป็นเสา ผนังก่ออิฐถือปูน มีพิธีเสกโดยคุณพ่อโปรดม เมื่อวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1898 (พ.ศ. 2441) วัดทั้งสองหลังไม่หลงเหลืออะไรให้เห็นอีกแล้ว ส่วนวัดคาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในภาคอีสานเวลานี้คือ วัดนักบุญยอแซฟ คำเกิ้ม เสกวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450) นับเนื่องถึงปัจจุบันจะมีอายุ 107 ปี
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากพูดถึงคือ ภาพประกอบในหนังสือ “พิธีเปิดและถวายอาสนวิหาร แม่พระนิรมลอุบลราชธานี 10 ธันวาคม ค.ศ. 2014 หัวข้อ “วัดแม่พระนิรมลทิน (วัดหนังที่ 2) หน้า 29 ที่มีภาพพระคุณเจ้าบาเยยืนหลังศิลาฤกษ์ขนาดใหญ่ ภาพนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการก่อสร้างวัดแม่พระนิรมลทิน (หลังที่ 2) แต่อย่างใด เพราะภาพนี้ เป็นพิธีวางศิลาฤกษ์ตึกฟาติมาท่าแร่ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1952 (พ.ศ. 2495) ในภาพจะเห็นคุณพ่อศรีนวล ศรีวรกุล กับ คุณพ่ออินทร์ นารินรักษ์ (ดูภาพ พระคุณเจ้าบาเยกับศิลาฤกษ์ประกอบ)
 


              อีกภาพหนึ่งในหน้า 32 หัวข้อ “เมืองอุบลในอดีต” ภาพที่ 2 ขวาสุดนับจากข้างล่าง เป็นภาพพระคุณเจ้าบาเย ยืนอยู่ข้างหลังโต๊ะที่คุณพ่อท่านหนึ่งกำลังเขียนบันทึก ภาพนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเมืองอุบลในอดีตเช่นกัน เพราะเป็นภาพการขุดหลุมศพมรณสักขีทั้ง 7 แห่งสองคอน ณ สุสานวัดสองคอนที่ฝังรวมกัน เพื่อพิสูจน์ทางการแพทย์ก่อนแยกฝัง สมัยพระคุณเจ้าเกี้ยน เสมอพิทักษ์ คนที่จดบันทึกคือคุณพ่อเสนีย์ สกนธวัฒน์ ส่วนสังฆราชที่เห็นยืนหันข้างคือ พระคุณเจ้าเกี้ยน เสมอพิทักษ์ อีกท่านหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์คือ คุณพ่อคำจวน ศรีวรกุล ซึ่งเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดแม่พระนิรมลทินอุบลฯ (ดูภาพอื่นในเหตุการณ์เดียวกันประกอบ)


ที่กล่าวมาทั้งหมดเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลอีกด้าน และเห็นความเชื่อมโยงระหว่างอุบลฯ-ท่าแร่ ในฐานะที่เคยเป็นมิสซังเดียวกันคือมิสซังลาว พระสงฆ์จากท่าแร่ไปทำงานทางเขตอุบลฯ เช่น คุณพ่อเสนีย์ สกนธวัฒน์ คุณพ่อคำจวน ศรีวรกุล และพระสงฆ์จากอุบลมาทำงานทางเขตท่าแร่ อาทิ คุณพ่อสมชาย สลับเชื้อ คุณพ่อบุปผา สลับเชื้อ คุณพ่อล้วน นักพรรษา ก่อนหน้าที่จะมีการแยกมิสซังเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496) ปัจจุบันก็มีคุณพ่อลิขิต เหลือหลายกับคุณพ่อญาณารณพ มหัตกุล ที่ทำงานในสังฆมณฑลอุบลฯ
ประวัติศาสตร์บอกเราว่า เรามีจุดกำเนิดเดียวกันและเป็นผลผลิตของบรรดามิชชันนารีในอดีต ภายใต้การนำของคุณพ่อโปรดมและคุณพ่อเกโก ที่ทุ่มเท เสียสละและอุทิศชีวิตเพื่อการประกาศข่าวดีในแผ่นดินอีสานและประเทศลาว เหนือสิ่งอื่นใด พระศาสนจักรไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลก ต่างเป็นพระศาสนจักรเดียวกัน ซึ่งเป็นพระกายทิพย์ของพระเจ้า ควรที่เรารุ่นหลังจะได้สานต่อพันธกิจและความเป็นหนึ่งเดียวนี้
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
11 ธันวาคม 2014